Category: Uncategorized

  • Daughter – Medicine แปลเพลงสากล


    Medicine เป็นเพลงของวงดนตรีอินดี้-โฟล์คจากประเทศอังกฤษ Daughter เพลงได้เปิดตัวใน 2 ตุลาคม 2011 เป็นซิงเกิลที่สองจาก The Wild Youth EP (2011) เพลงได้ถูกเขียนโดย Remi Aguilella, Igor Haefeli และ Elena Tonra โดยในเนื้อเพลงเป็นการเล่าถึงโลกของคนที่กำลังมีปัญหาและความขัดแย้งในชีวิต ในขณะที่พวกเขาคิดว่ายาเสพติดจะช่วยพวกเขาได้ ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิดและนำมาซึ่งความเจ็บปวดที่แท้จริง ดังนั้นเพลงต้องการที่จะเป็นกำลังใจให้ทุกคนหนีออกมาจากมันให้ได้นั่นเอง วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Pick it up, pick it all up
    And start again
    You’ve got a second chance, you could go home
    Escape it all, it’s just irrelevant

    คว้ามันเอาไว้ คว้าเอามันทั้งหมดไว้
    และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
    คุณมีโอกาสครั้งที่สอง ที่จะสามารถกลับบ้านได้
    แล้วหนีออกจากมันให้ได้ มันไม่เกี่ยวข้องกับคุณเลย

    It’s just medicine
    It’s just medicine

    มันเป็นเพียงยาเสพติด
    มันเป็นเพียงยาเสพติด

    You could still be what you want to
    What you said you were when I met you
    You’ve got a warm heart, you’ve got a beautiful brain
    But it’s disintegrating from all the medicine.

    คุณยังคงสามารถเป็นสิ่งที่คุณอยากจะเป็น
    สิ่งที่คุณพูดว่าคุณเคยเป็น เมื่อครั้งที่คุณได้พบฉัน
    คุณมีหัวใจที่อบอุ่น คุณมีความคิดที่สวยงาม
    แต่มันกำลังเปื่อยยุ่ยจากยาเสพติดเหล่านี้

    From all the medicine
    From all the medicine
    Medicine

    จากยาเสพติดเหล่านี้
    จากยาเสพติดเหล่านี้
    จากยาเสพติดเหล่านี้

    You could still be what you want to
    What you said you were when you met me
    You could still be what you want to
    What you said you were when I met you
    When you met me, when I met you

    คุณยังคงสามารถเป็นสิ่งที่คุณอยากจะเป็น
    สิ่งที่คุณพูดว่าคุณเคยเป็น เมื่อครั้งที่คุณได้พบฉัน
    คุณยังคงสามารถเป็นสิ่งที่คุณอยากจะเป็น
    สิ่งที่คุณพูดว่าคุณเคยเป็น เมื่อครั้งที่ฉันได้พบคุณ
    เมื่อครั้งที่คุณได้พบฉัน เมื่อครั้งที่ฉันได้พบคุณ

  • Culture Code – Make Me Move (feat. Karra) แปลเพลงสากล


    Make Me Move เป็นเพลงของคู่หู DJ และโปรดิวเซอร์เพลงอิเล็กทรอนิกส์ชาวอังกฤษ Culture Code และได้ร่วมร้องกับนักร้องชาวอเมริกันอย่าง Karra เพลงได้เปิดตัวผ่านทางค่ายเพลง NoCopyrightSounds ใน 13 ธันวาคม 2016 ในเนื้อเพลงเป็นการพูดถึงแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เขาสามารถเดินหน้าและมีชีวิตอย่างมีความหมายต่อไปได้ ก็เพราะได้เจอกับคนที่รัก วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Open up
    Feel the waves cut through me
    Hypnotized
    By the sounds I’m breathing in

    เปิดออกมา
    รู้สึกถึงคลื่นที่วิ่งผ่านตัวฉัน
    ถูกสะกดจิต
    โดยเสียงที่ฉันหายใจเข้า

    Hold tight, hold tight
    Chemicals collide
    Hold tight, hold tight
    Hold tight

    ยึดแน่นไว้ ยึดแน่นไว้
    เหมือนสารเคมีที่ติดกัน
    ยึดแน่นไว้ ยึดแน่นไว้
    ยึดแน่นไว้

    Dripping lights
    Paint the skies
    All because of you
    Dripping lights
    Paint the skies
    Only you

    แสงไฟที่หยดลงมา
    กำลังวาดลวดลายบนท้องฟ้า
    ทั้งหมดเกิดขึ้นก็เพราะว่าคุณ
    แสงไฟที่หยดลงมา
    กำลังวาดลวดลายบนท้องฟ้า
    มีเพียงคุณ

    Can make me move
    You, you, can make me move
    Can make me move
    You, you, can make me move
    Can make me

    คุณที่สามารถทำให้ฉันเดินต่อไป
    คุณสามารถทำให้ฉันเดินต่อไป
    สามารถทำให้ฉันเดินต่อไป
    คุณสามารถทำให้ฉันเดินต่อไป
    สามารถทำให้ฉัน

    You, you, can make me move
    Can make me

    คุณสามารถทำให้ฉันเดินต่อไป
    สามารถทำให้ฉัน

    So alive
    Make it last forever
    Stopping time
    Yeah, I’m surrendering

    มีชีวิตอยู่
    ทำให้มันเป็นสิ่งสุดท้ายตลอดไป
    การหยุดลงของเวลา
    ใช่แล้ว ฉันกำลังจะยอมจำนน

    Hold tight, hold tight
    Chemicals collide
    Hold tight, hold tight
    Hold tight

    ยึดแน่นไว้ ยึดแน่นไว้
    เหมือนสารเคมีไหลรวมกัน
    ยึดแน่นไว้ ยึดแน่นไว้
    ยึดแน่นไว้

    Dripping lights
    Paint the skies
    All because of you
    Dripping lights
    Paint the skies
    Only you

    แสงไฟที่หยดลงมา
    กำลังวาดลวดลายบนท้องฟ้า
    ทั้งหมดเกิดขึ้นก็เพราะว่าคุณ
    แสงไฟที่หยดลงมา
    กำลังวาดลวดลายบนท้องฟ้า
    มีเพียงคุณ

    Can make me move
    You, you, can make me move
    Can make me move
    (Can make me move, yeah)
    You, you, can make me move
    Can make me

    ณที่สามารถทำให้ฉันเดินต่อไป
    คุณสามารถทำให้ฉันเดินต่อไป
    สามารถทำให้ฉันเดินต่อไป
    (สามารถทำให้ฉันเดินต่อไป ใช่แล้ว)
    คุณสามารถทำให้ฉันเดินต่อไป
    สามารถทำให้ฉันเดินต่อไป

  • Hillsong Worship – With All I Am แปลเพลงสากล


    With All I Am เป็นเพลงของกลุ่มร้องเพลงสรรเสริญและนมัสการคริสเตียนชาวออสเตรเลีย จากโบสถ์ Hillsong เพลงได้เปิดตัวในอัลบั้ม For All You’ve Done (2004) และเป็นแทร็คที่สี่ของอัลบั้ม ในเนื้อเพลงนั้นเป็นการร้องสรรเสริญและนมัสการพระเยซูในศาสนาคริสต์ ว่าพระองค์ทรงเป็นทุกอย่างของเรา และเราทุกคนมีชีวิตอยู่เพื่อท่านในแบบที่ท่านได้กำหนดไว้ สำหรับชาวคริสต์แล้วมันเป็นเพลงที่ไพเราะมากเลยทีเดียว วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Into your hands
    I commit again With all I am, for you, lord
    You hold my world
    In the palm of your hand
    And I am yours forever

    อยู่ในมือของคุณ
    ฉันทำทุกอย่างเพื่อคุณอีกครั้ง พระเยซูคริสต์
    คุณถือโลกของฉัน
    ในฝ่ามือของคุณ
    และฉันเป็นของคุณตลอดไป

    Jesus I believe in you
    Jesus I belong to you
    You’re the reason that I live
    The reason that I sing
    With all I am

    พระเยซูฉันเชื่อในตัวคุณ
    พระเยซูฉันเป็นของคุณ
    คุณเป็นเหตุผลที่ฉันมีชีวิตอยู่
    และเหตุผลที่ฉันร้องเพลง
    กับทั้งหมดที่ฉันเป็น

    I’ll walk with you
    Wherever you go
    Through tears and joy
    I’ll trust in you
    And I will live
    In all of your ways
    And your promises, forever

    ฉันจะเดินไปกับคุณ
    ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน
    ไม่ว่าจะพบกับน้ำตาและความสุข
    ฉันจะเชื่อมั่นในตัวคุณ
    และฉันจะมีชีวิตอยู่
    ในทุกวิถีทางของคุณ
    และให้คำสัญญากับคุณตลอดไป

    Jesus I believe in you
    Jesus I belong to you
    You’re the reason that I live
    The reason that I sing

    พระเยซูฉันเชื่อในตัวคุณ
    พระเยซูฉันเป็นของคุณ
    คุณเป็นเหตุผลที่ฉันมีชีวิตอยู่
    และเหตุผลที่ฉันร้องเพลง

    Jesus I believe in you
    Jesus I belong to you
    You’re the reason that I live
    The reason that I sing
    With all I am

    พระเยซูฉันเชื่อในตัวคุณ
    พระเยซูฉันเป็นของคุณ
    คุณเป็นเหตุผลที่ฉันมีชีวิตอยู่
    และเหตุผลที่ฉันร้องเพลง
    กับทั้งหมดที่ฉันเป็น

    With all I am
    All I am

    กับทั้งหมดที่ฉันเป็น
    ทั้งหมดที่ฉันเป็น

    I will worship
    I will worship you

    ฉันจะนมัสการ
    ฉันจะนมัสการคุณ

    I will worship
    I will worship you

    ฉันจะนมัสการ
    ฉันจะนมัสการคุณ

    I will worship
    I will worship you

    ฉันจะนมัสการ
    ฉันจะนมัสการคุณ

    I will worship
    I will worship you

    ฉันจะนมัสการ
    ฉันจะนมัสการคุณ

    I will worship
    I will worship you

    ฉันจะนมัสการ
    ฉันจะนมัสการคุณ

    I will worship
    I will worship you

    ฉันจะนมัสการ
    ฉันจะนมัสการคุณ

    I will worship
    I will worship you

    ฉันจะนมัสการ
    ฉันจะนมัสการคุณ

    I will worship
    I will worship you

    ฉันจะนมัสการ
    ฉันจะนมัสการคุณ

    Jesus I believe in you
    Jesus I belong to you
    You’re the reason that I live
    The reason that I sing

    พระเยซูฉันเชื่อในตัวคุณ
    พระเยซูฉันเป็นของคุณ
    คุณเป็นเหตุผลที่ฉันมีชีวิตอยู่
    และเหตุผลที่ฉันร้องเพลง

    Jesus I believe in you
    Jesus I belong to you
    You’re the reason that I live
    The reason that I sing

    พระเยซูฉันเชื่อในตัวคุณ
    พระเยซูฉันเป็นของคุณ
    คุณเป็นเหตุผลที่ฉันมีชีวิตอยู่
    และเหตุผลที่ฉันร้องเพลง

    Jesus I believe in you
    Jesus I belong to you
    You’re the reason that I live
    The reason that I sing
    With all I am

    พระเยซูฉันเชื่อในตัวคุณ
    พระเยซูฉันเป็นของคุณ
    คุณเป็นเหตุผลที่ฉันมีชีวิตอยู่
    และเหตุผลที่ฉันร้องเพลง
    กับทั้งหมดที่ฉันเป็น

    I will worship
    I will worship you

    ฉันจะนมัสการ
    ฉันจะนมัสการคุณ

    I will worship
    I will worship you

    ฉันจะนมัสการ
    ฉันจะนมัสการคุณ

  • Michael Bublé – Love You Anymore แปลเพลงสากล


    เพลง Love You Anymore เป็นเพลงของ Michael Bublé เพลงถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2018 อยู่ในอัลบั้ม love (Deluxe Edition) เนื้อเพลงสื่อออกมาว่า ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ผมทำอยู่ แม้มันจะดูเหมือนว่าผมยังมีใจให้คุณ แต่ผมขอยืนยันเลยว่า ผมไม่ได้รักคุณแล้ว (ไม่รู้ว่าปากแข็งหรือไม่ได้รักแล้วจริงๆ 555) วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กันค่ะ


    Just because I wander ’round the places we would go
    Hoping that I’d run into you one last time
    Just because I never took your picture off my phone
    Doesn’t mean that you’re still on my mind

    แค่เพราะ ผมตระเวนไปยังสถานที่ที่เราเคยอยากไป
    และหวังว่าผมจะได้พบคุณเป็นครั้งสุดท้าย
    แค่เพราะ ผมไม่เคยลบรูปคุณออกจากมือถือ
    ไม่ได้หมายความว่าคุณยังอยู่ในใจผมนะ

    Just because I accidentally slipped and said your name
    Well, I heard your song, it makes me insecure
    Just because I know I’ll never ever feel the same
    Doesn’t mean I love you anymore

    แค่เพราะ ผมบังเอิญลื่นล้มแล้วเผลอเรียกชื่อคุณออกมา
    เอาเถอะ ผมได้ยินเพลงของคุณ มันทำให้ผมรู้สึกหวั่นไหว
    แค่เพราะ ผมรู้ว่า ผมไม่ทางรู้สึกเหมือนเดิม
    ไม่ได้หมายความว่า ผมจะรักคุณอีกต่อไป

    **Am I lying to myself again
    When I say you’re not the best I’ve ever had?
    **Am I lying to myself again
    When I say that I’m not missing you so bad?

    ผมกำลังหลอกตัวเองอีกครั้งใช่ไหม
    เมื่อผมพูดว่าคุณไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด ที่ผมเคยมี?
    ผมกำลังหลอกตัวเองอีกครั้งใช่ไหม
    เมื่อผมพูดว่า ผมไม่ได้คิดถึงคุณมากมายขนาดนั้น?

    Just because I’m on my knees and swearing I would change
    And I’d do anything to hear you say “I’m yours”
    Just because I know I’ll never ever feel the same
    Doesn’t mean I love you anymore

    แค่เพราะผมคุกเข่าและสาบานว่า ผมจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
    และผมจะทำอะไรก็ตามเพื่อให้ได้ยินคุณพูดคำว่า “ผมเป็นของคุณ”
    แค่เพราะ ผมรู้ว่า ผมไม่ทางรู้สึกเหมือนเดิม
    ไม่ได้หมายความว่า ผมจะรักคุณอีกต่อไป

    **Am I lying to myself again
    When I say you’re not the best I’ve ever had?
    **Am I lying to myself again
    When I say that I’m not missing you so bad?

    ผมกำลังหลอกตัวเองอีกครั้งใช่ไหม
    เมื่อผมพูดว่าคุณไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด ที่ผมเคยมี?
    ผมกำลังหลอกตัวเองอีกครั้งใช่ไหม
    เมื่อผมพูดว่า ผมไม่ได้คิดถึงคุณมากมายขนาดนั้น?

    Just because I’m on my knees and swearing I would change
    And do anything to hear you say “I’m yours”
    Just because I know I’ll never ever feel the same
    Doesn’t mean I love you anymore, more
    Doesn’t mean I love you anymore (anymore, anymore)
    Doesn’t mean I love you anymore

    แค่เพราะผมคุกเข่าและสาบานว่า ผมจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
    และผมจะทำอะไรก็ตามเพื่อให้ได้ยินคุณพูดคำว่า
    แค่เพราะ ผมรู้ว่า ผมไม่ทางรู้สึกเหมือนเดิม
    ไม่ได้หมายความว่า ผมจะรักคุณอีกต่อไป
    ไม่ได้หมายความว่า ผมจะรักคุณอีกต่อไป (อีกต่อไป, อีกต่อไป)
    ไม่ได้หมายความว่า ผมจะรักคุณอีกต่อไป


    wander – เที่ยว ตระเวน เตร็ดเตร่

    accidentally – โดยไม่ตั้งใจ

    **ขอขอบคุณ คุณ Nott NathaNott นะคะ
    ที่ช่วยแก้ไขคำแปลที่ผิดพลาดในท่อน
    Am I lying to myself again

    *ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ ผู้อ่านสามารถแนะนำติชมได้ที่กล่องแสดงความคิดเห็นข้างล่างค่ะ

  • Sia – I’m Still Here แปลเพลงสากล


    เพลง I’m Still Here เป็นเพลงของ Sia เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2018 อยู่ในอัลบั้ม I’m Still Here เนื้อเพลงพูดถึงการต่อสู้กับอดีตที่เลวร้ายของเรา บางทีเรื่องราวในอดีตทีแย่ๆ ตามมาหลอกหลอน ทำให้เราทุกข์ทรมาน แต่สุดท้ายแล้วมันเป็นแค่เรื่องราวในอดีตที่ทำอะไรเราไม่ได้หรอกค่ะ เพราะตอนนี้เรายังมีชีวิตอยู่ สู้เพื่อวันข้างหน้าของเราดีกว่า วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กัน


    I’m fighting a battle
    I’m fighting my shadow
    Herd fears like they’re cattle
    I’m fighting a battle, yeah
    I’m fighting my ego
    Lost youth, where did we go wrong?
    I’m fighting for me, though
    I’m lighting the long way home

    ฉันกำลังต่อสู้กับศึกครั้งนี้
    ฉันกำลังตอสู้กับสิ่งที่มันตามติดฉันราวกับเงา
    ความหวาดกลัวถูกต้อนเข้ามาเหมือนฝูงสัตว์ที่ถูกต้อน (ไปฆ่า)
    ฉันกำลังต่อสู้กับสงครามครั้งนี้
    ฉันกำลังต่อสู้กับอีโก้ของตัวเอง
    ความผิดพลาดในช่วงวัยรุ่น เราเดินทางผิดตรงจุดไหน?
    ฉันต่อสู้เพื่อตัวฉันเอง
    ฉันกำลังส่องแสง(ชีวิตจากที่มืดมน มันเริ่มดีขึ้น) และแสงนี้จะนำทางฉันกลับบ้านอย่างปลอดภัย

    Oh the past, it haunted me
    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past tormented me
    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past, it haunted me
    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past tormented me
    But the battle was lost
    ‘Cause I’m still here

    แต่ก่อน อดีตมันเคยตามหลอกหลอนฉัน
    แต่ก่อน อดีตมันต้องการให้ฉันตาย
    แต่ก่อน อดีตมันเคยทรมานฉัน
    แต่ก่อน อดีตมันอยากให้ฉันตาย
    แต่ก่อน อดีตมันตามหลอกหลอนฉัน
    แต่ก่อน อดีตมันต้องการให้ฉันตาย
    แต่ก่อน อดีตมันเคยทรมานฉัน
    แต่ศึกครั้งนั้น มันพ่ายแพ้ให้กับฉัน
    เพราะฉันรอดมาได้และยังยืนอยู่ตรงนี้ไง

    I’m winning the war now
    I’m winning it all now
    Watch tears while they fall down
    I’m winning the war now
    I win against ego
    Cast light on the shadow’s long
    I’m winning from ego
    I’m lighting the long way home

    ตอนนี้ฉันกำลังชนะสงคราม
    ตอนนี้ฉันกำลังชนะมันทั้งหมด
    มองน้ำตาที่ไหลออกมา
    ตอนนี้ฉันกำลังชนะสงคราม
    ฉันชนะอีโก้ที่ต่อต้านฉัน
    ส่องแสงสว่างไปยังเงาที่ทอดยาว
    ฉันกำลังชนะอีโก้
    ฉันกำลังส่องแสง และแสงนี้จะนำทางฉันกลับบ้าน

    Oh the past, it haunted me
    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past tormented me
    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past, it haunted me
    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past tormented me
    But the battle was lost
    ‘Cause I’m still here

    อดีต มันเคยตามหลอกหลอนฉัน
    อดีต มันต้องการให้ฉันตาย
    อดีต มันเคยทรมานฉัน
    อดีต มันอยากให้ฉันตาย
    อดีต มันเคยตามหลอกหลอนฉัน
    อดีต มันต้องการให้ฉันตาย
    อดีต มันเคยทรมานฉัน
    แต่ศึกครั้งนั้น มันต้องพ่ายแพ้ให้กับฉัน
    เพราะฉันยังอยู่ตรงนี้ไง

    It’s haunted me
    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past, it’s haunted me
    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past, it’s haunted me
    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past tormented me
    But the battle was lost
    ‘Cause I’m still here

    มันเคยตามหลอกหลอนฉัน
    อดีต มันต้องการให้ฉันตาย
    อดีต มันเคยทรมานฉัน
    อดีต มันอยากให้ฉันตาย
    อดีต มันเคยตามหลอกหลอนฉัน
    อดีต มันต้องการให้ฉันตาย
    อดีต มันเคยทรมานฉัน
    แต่ศึกครั้งนั้น มันพ่ายแพ้ให้กับฉัน
    เพราะฉันยังอยู่ตรงนี้ไง

    I’m fighting my ego
    Lost youth, where did we go wrong?
    I’m winning for me, though
    I’m lighting the long way home

    ฉันกำลังต่อสู้กับอีโก้ของตัวเอง
    ความผิดพลาดในช่วงวัยรุ่น เราเดินทางผิดตรงจุดไหน?
    ฉันกำลังชนะเพื่อตัวฉันเอง
    ฉันกำลังส่องแสง และแสงนี้จะนำทางฉันกลับบ้าน

    Oh the past, it’s haunted me
    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past tormented me
    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past, it’s haunted me
    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past tormented me
    But the battle was lost
    ‘Cause I’m still here

    อดีต มันเคยตามหลอกหลอนฉัน
    อดีต มันต้องการให้ฉันตาย
    อดีต มันเคยทรมานฉัน
    อดีต มันอยากให้ฉันตาย
    อดีต มันเคยตามหลอกหลอนฉัน
    อดีต มันต้องการให้ฉันตาย
    อดีต มันเคยทรมานฉัน
    แต่ศึกครั้งนั้น มันพ่ายแพ้ให้กับฉัน
    เพราะฉันยังอยู่ตรงนี้ไง

    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past, it’s haunted me
    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past, it’s haunted me
    Oh the past, it wanted me dead
    Oh the past tormented me
    But the battle was lost
    ‘Cause I’m still here

    อดีต มันต้องการให้ฉันตาย
    อดีต มันเคยทรมานฉัน
    อดีต มันอยากให้ฉันตาย
    อดีต มันเคยตามหลอกหลอนฉัน
    อดีต มันต้องการให้ฉันตาย
    อดีต มันเคยทรมานฉัน
    แต่ศึกครั้งนั้น มันพ่ายแพ้ให้กับฉัน
    เพราะฉันรอดมาได้และยังยืนอยู่ตรงนี้ไง


    shadow – (n.) เงา ความมืด ข้อคิดเห็น

    torment – ทรมาน

    *ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ ผู้อ่านสามารถแนะนำติชมได้ที่กล่องแสดงความคิดเห็นข้างล่างค่ะ

  • Maggie Rogers – Light On แปลเพลงสากล


    เพลง Light On เป็นเพลงของนักร้องสาว Maggie Rogers เพลงถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2018 อยู่ในอัลบั้ม Heard It in a Past Life เนื้อเพลงสื่อถึงความรักที่ไม่สมหวัง และเราทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้เกือบทั้งหมดแล้ว แม้ตอนแรกจะร้องไห้จมน้ำตา แต่มีคนรอบตัวที่ช่วยเตือนสติบอกว่า คุณต้องมีความสุขได้แล้วนะ แอดมินเห็นด้วยอย่างที่เขาพูดๆ กัน คนเราเสียใจได้ค่ะ แต่อย่าเสียใจนาน รีบเจ็บรีบทำใจ ชีวิตที่ดีกว่ารอเราอยู่ข้างหน้า วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กัน


    Would you believe me now if I told you I got caught up in a wave?
    Almost gave it away
    Would you hear me out if I told you I was terrified for days?
    Thought I was gonna break

    ตอนนี้คุณจะเชื่อฉันไหม ถ้าฉันบอกคุณว่าฉันปล่อยวางแล้ว?
    แทบจะทิ้งมันไปหมดแล้ว
    ถ้าฉันบอกคุณถึงความเจ็บปวดที่ผ่านมา คุณจะได้ยินเสียงของฉันไหม?
    ฉันคิดว่า ฉันจะหยุดมันแล้ว

    Oh, I couldn’t stop it
    Tried to slow it all down
    Crying in the bathroom
    Had to figure it out
    With everyone around me saying
    “You must be so happy now”

    โอ้ ฉันไม่สามารถหยุดมันได้
    พยายามทำให้มันมีผลต่อความรู้สึกของฉันน้อยลง
    ร้องไห้ในห้องน้ำ
    ต้องคิดให้ออกสิ
    ทุกๆ คนรอบตัวฉันต่างบอกว่า
    “คุณต้องมีความสุขได้แล้ว”

    Oh, if you keep reaching out
    Then I’ll keep coming back
    And if you’re gone for good
    Then I’m okay with that
    If you leave the light on
    Then I’ll leave the light on
    And I am finding out
    There’s just no other way
    That I’m still dancing at the end of the day
    If you leave the light on
    Then I’ll leave the light on

    ถ้าคุณยังติดต่อกลับมา
    ฉันจะกลับไป
    และถ้าคุณจะเดินจากไปเพื่อชีวิตที่ดีของคุณ
    ฉันโอเคกับมันนะ
    ถ้าคุณอยากออกจากตรงนี้ไปเจอสิ่งดีๆ (แสงสว่าง)
    ฉันจะออกไปเช่นกัน
    และฉันพบแล้วว่า
    มันไม่มีทางอื่น
    ฉันยังคงเต้นกับช่วงสุดท้ายของวันนี้
    ถ้าคุณอยากออกจากตรงนี้ไปเจอสิ่งดีๆ
    ฉันจะออกไปเช่นกัน

    And do you believe me now that I always had the best intentions, babe?
    Always wanted to stay
    Can you feel me now that I’m vulnerable in oh-so many ways?
    Oh, and I’ll never change

    และคุณเชื่อฉันไหม ฉันมีเจตนาที่ดีเสมอ?
    เคยต้องการที่จะอยู่กับคุณเสมอ
    ตอนนี้คุณสามารถรับรู้ได้ไหม ว่าฉันอ่อนแอในหลายๆ อย่าง?
    และฉันจะไม่เปลี่ยนมัน

    Oh, I couldn’t stop it
    Tried to figure it out
    But everything kept moving
    And the noise got too loud
    With everyone around me saying
    “You should be so happy now”

    โอ้ ฉันไม่สามารถหยุดมันได้
    พยายามทำให้มันมีผลต่อความรู้สึกของฉันน้อยลง
    แต่ทุกสิ่งดูเหมือนยังดำเนินต่อไป
    และเสียงรบกวนในใจฉันมันดังขึ้นเรื่อยๆ
    ทุกคนรอบตัวฉันต่างบอกว่า
    “ตอนนี้ฉันควรมีความสุขได้แล้ว”

    Oh, if you keep reaching out
    Then I’ll keep coming back
    And if you’re gone for good
    Then I’m okay with that
    If you leave the light on
    Then I’ll leave the light on
    And I am finding out
    There’s just no other way
    That I’m still dancing at the end of the day
    If you leave the light on
    Then I’ll leave the light on

    ถ้าคุณยังติดต่อกลับมา
    ฉันจะกลับไป
    และถ้าคุณจะเดินจากไปเพื่อชีวิตที่ดีของคุณ
    ฉันโอเคกับมันนะ
    ถ้าคุณอยากออกจากตรงนี้ไปเจอสิ่งดีๆ (แสงสว่าง)
    ฉันจะออกไปเช่นกัน
    และฉันพบแล้วว่า
    มันไม่มีทางอื่น
    ฉันยังคงเต้นกับช่วงสุดท้ายของวันนี้
    ถ้าคุณอยากออกจากตรงนี้ไปเจอสิ่งดีๆ
    ฉันจะออกไปเช่นกัน

    Oh, leave the light on
    Oh, would you leave the light on?

    ออกจากตรงนี้ไปเจอสิ่งดี
    คุณอยากจะออกไปเจอสิ่งดีๆ?

    If you keep reaching out
    Then I’ll keep coming back
    But if you’re gone for good
    Then I’m okay with that
    If you leave the light on
    Then I’ll leave the light on
    And I am finding out
    There’s just no other way
    That I’m still dancing at the end of the day
    If you leave the light on
    Then I’ll leave the light on

    ถ้าคุณยังติดต่อกลับมา
    ฉันจะกลับไป
    และถ้าคุณจะเดินจากไปเพื่อชีวิตที่ดีของคุณ
    ฉันโอเคกับมันนะ
    ถ้าคุณอยากออกจากตรงนี้ไปเจอสิ่งดีๆ (แสงสว่าง)
    ฉันจะออกไปเช่นกัน
    และฉันพบแล้วว่า
    มันไม่มีทางอื่น
    ฉันยังคงเต้นกับช่วงสุดท้ายของวันนี้
    ถ้าคุณอยากออกจากตรงนี้ไปเจอสิ่งดีๆ
    ฉันจะออกไปเช่นกัน

    Oh, if you leave the light on
    Then I’ll leave the light on
    Oh, if you leave the light on
    Mmh

    ถ้าคุณอยากออกจากตรงนี้ไปเจอสิ่งดีๆ
    ฉันจะออกไปเช่นกัน
    ถ้าคุณอยากออกจากตรงนี้ไปเจอสิ่งดีๆ
    Mmh


    reach out:
    To attempt to make contact with someone
    พยายามติดต่อกับใครบางคน
    ที่มา: https://idioms.thefreedictionary.com

    vulnerable – อ่อนแอ

    *ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ ผู้อ่านสามารถแนะนำติชมได้ที่กล่องแสดงความคิดเห็นค่ะ 🙂

  • Brandon Flowers – Crossfire แปลเพลงสากล


    Crossfire เป็นการเปิดตัวซิงเกิลเดี่ยวของนักร้องและนักเขียนเพลงจากวง The Killers กับนักร้องนำอย่าง Brandon Flowers เพลงได้ถูกเขียนโดย Flowers เองและดำเนินการผลิตโดย Brendan O’Brien มันเป็นซิงเกิลแรกการการเปิดตัวอัลบั้มเดี่ยวของเขา Flamingo (2010) ทีไ่ด้เปิดตัวใน 21 มิถุนายน 2010 หลังจากนั้น Music video สำหรับเพลงได้เปิดตัวใน 8 กรกฎาคม 2010 โดยมีนักแสดงหญิงอย่าง Charlize Theron มาร่วมแสดงด้วย วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    There’s a still in the street outside your window
    You’re keeping secrets on your pillow
    Let me inside, no cause for alarm
    I promise tonight not to do no harm
    I promise you baby, I won’t do you no harm

    มีเพียงความเงียบในถนน นอกหน้าต่างของคุณ
    คุณเก็บความลับของคุณเอาไว้ใต้หมอน
    ให้ฉันเข้าไป ไม่มีสาเหตุที่จะต้องปลุกคุณ
    ฉันสัญญาว่าคืนนี้จะไม่ทำอันตรายใดๆ
    ฉันสัญญาที่รัก ฉันจะไม่ทำอันตราย

    And we’re caught up in the crossfire
    Of Heaven and Hell
    And we’re searching for shelter
    Lay your body down
    Lay your body down
    Lay your body down

    และเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ผู้คนโต้เถียงและทะเลาะกัน
    ราวกับว่าสวรรค์และนรก
    และเรากำลังค้นหาที่หลบภัย
    วางตัวของคุณลง
    วางตัวของคุณลง
    วางตัวของคุณลง

    Watching your dress as you turn down the light
    I forget all about the storm outside
    Dark clouds roll their way over town
    Heartache and pain came a-pouring down
    Like hail, sleet and rain, yeah
    They’re handing it out

    มองดูกระโปรงของคุณสิ หลังจากที่คุณได้ปิดไฟลง
    มันทำให้ฉันลืมเกี่ยวกับเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น
    เมฆสีดำที่ม้วนตัวเป็นทางผ่านเมือง
    ความโศกเศร้าและความเจ็บปวดได้เทลงมา
    เหมือนลูกเห็บในสายฝน ใช่แล้ว
    พวกเขากำลังนำมันออกไป

    And we’re caught up in the crossfire
    Of Heaven and Hell
    And we’re searching for shelter
    Lay your body down
    Lay your body down
    Lay your body down
    Lay your body down
    Lay your body down
    Lay your body down

    และเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ผู้คนโต้เถียงและทะเลาะกัน
    ราวกับว่าสวรรค์และนรก
    และเรากำลังค้นหาที่หลบภัย
    วางตัวของคุณลง
    วางตัวของคุณลง
    วางตัวของคุณลง
    วางตัวของคุณลง
    วางตัวของคุณลง
    วางตัวของคุณลง

    Tell the devil that he can go back from where he came
    His fiery arrows drew their bead in vain
    And when the hardest part is over we’ll be here
    And our dreams will break the boundaries of our fears
    Boundaries of our fears

    บอกกับปีศาจว่าเขาสามารถกลับไปยังที่ที่เขามา
    ลูกธนูของเขาสามารถยิงผ่านเส้นเลือดของพวกเขาได้
    และเมื่อส่วนที่ยากที่สุดได้ผ่านไป เราจะอยู่ที่นี่
    และความฝันของเราจะทำลายขอบเขตของความกลัวออกไป
    ขอบเขตของความกลัว

    Lay your body down
    Lay your body down
    Lay your body down
    Lay your body down
    Lay your body down
    Lay your body down
    Next to mine

    วางตัวของคุณลง
    วางตัวของคุณลง
    วางตัวของคุณลง
    วางตัวของคุณลง
    วางตัวของคุณลง
    วางตัวของคุณลง
    อยู่ข้างๆ ฉัน


    Caught in the crossfire:
    to be involved in a situation where people around you are arguing:
    เพื่อมีส่วนร่วมในสถานการณ์ที่ผู้คนรอบตัวคุณกำลังโต้เถียงและทะเลาะกัน
    ที่มา: https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/caught-in-the-crossfire

    Hand sth out:
    to give something to each person in a group or place:
    เพื่อมอบบางสิ่งให้กับแต่ละคนในกลุ่มหรือสถานที่
    ที่มา: https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/hand-sth-out

  • Coldplay – The Scientist แปลเพลงสากล


    The Scientist เป็นเพลงวงดนตรีร็อคอังกฤษ Coldplay เพลงได้เปิดตัวใน 4 พฤศจิกายน 2002 เป็นซิงเกิลที่สี่จากอัลบั้มสตูดิโอที่สองของพวกเขา A Rush of Blood to the Head (2002) เพลงได้ถูกเขียนและดำเนินการผลิตโดย Coldplay ในเนื้อเพลงนั้นพูดถึงชายผู้ที่พยายามจะกลับไปหาคนรักของเขาเหมือนเดิม เพื่อไปขอโทษเธอหลังจากที่เขาได้ทิ้งเธอไป สำหรับ Music video ของเพลงนั้นเป็นการเปรียบเทียบถึงเรื่องราวที่เขาได้ทิ้งเธอไปและต้องการกลับไปรักกันเหมือนเดิม วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Come up to meet you, tell you I’m sorry
    You don’t know how lovely you are
    I had to find you, tell you I need you
    Tell you I set you apart
    Tell me your secrets, and ask me your questions
    Oh let’s go back to the start
    Running in circles, coming up tails
    Heads on a science apart

    ฉันกำลังมาพบคุณ เพื่อบอกคุณว่าฉันเสียใจ
    คุณไม่รู้หรอกว่าคุณน่ารักแค่ไหน
    ฉันจำเป็นต้องพบคุณ เพื่อบอกคุณว่าฉันรักคุณ
    บอกคุณว่าคุณเป็นคนพิเศษของฉัน
    บอกความลับของคุณกับฉัน และถามคำถามของคุณกับฉัน
    โอ้ มากลับไปที่จุดเริ่มต้น
    มันก็วนอยู่อย่างนั้น แล้วก็จบลงเหมือนเดิม
    ไม่ต้องมีเหตุผลเหมือนวิทยาศาสตร์

    Nobody said it was easy
    It’s such a shame for us to part
    Nobody said it was easy
    No one ever said it would be this hard
    Oh take me back to the start

    ไม่มีใครพูดว่ามันง่าย
    มันเป็นความอัปยศของเราที่ต้องจากกัน
    ไม่มีใครพูดว่ามันง่าย
    ไม่มีใครเคยบอกว่ามันจะเป็นเรื่องยากแบบนี้
    โอ้ พาฉันกลับไปยังจุดเริ่มต้น

    I was just guessing at numbers and figures
    Pulling the puzzles apart
    Questions of science, science and progress
    Do not speak as loud as my heart
    Tell me you love me, come back and haunt me
    Oh and I rush to the start
    Running in circles, chasing our tails
    Coming back as we are

    ฉันแค่คาดเดาตัวเลขและรูปภาพ
    แล้วดึงปริศนาออกจากกัน
    คำถามทางวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์และความก้าวหน้า
    ไม่ต้องพูดให้ดังเหมือนหัวใจของฉัน
    บอกฉันว่าคุณรักฉัน ได้โปรดกลับมาตามล่าฉัน
    โอ้ และฉันวิ่งกลับไปที่จุดเริ่มต้น
    มันก็วนอยู่อย่างนั้น แล้วก็จบลงเหมือนเดิม
    กลับมาเหมือนที่เราเคยเป็น

    Nobody said it was easy
    It’s such a shame for us to part
    Nobody said it was easy
    No one ever said it would be so hard
    I’m going back to the start

    ไม่มีใครพูดว่ามันง่าย
    มันเป็นความอัปยศของเราที่ต้องจากกัน
    ไม่มีใครพูดว่ามันง่าย
    ไม่มีใครเคยบอกว่ามันจะเป็นเรื่องยากแบบนี้
    ฉันกำลังกลับไปยังจุดเริ่มต้น

    Ahh-oohh
    Ahh-oohh
    Oh-oohh
    Oh-oohh

    อา-โอ้
    อา-โอ้
    โอ้-โอ้
    โอ้-โอ้


    Come up:
    to move towards someone:
    เพื่อมุ่งหน้าไปหาใครบางคน หรือบางสิ่ง
    ที่มา: https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/come-up

    Set apart:
    to make someone or something different and special
    เพื่อที่จะทำให้ใครบางคนหรือบางสิ่งที่แตกต่างและพิเศษ
    ที่มา: https://www.macmillandictionary.com/dictionary/british/set-apart

  • James Blake – Retrograde แปลเพลงสากล


    Retrograde เป็นเพลงของโปรดิวเซอร์เพลงอิเล็กทรอนิกส์ชาวอังกฤษ James Blake เพลงได้ถูกเปิดตัวให้ดาวน์โหลดแบบดิจิตอลใน 11 กุมภาพันธ์ 2013 เป็นซิงเกิลนำจากอัลบั้มสตูดิโอที่สองของเขา Overgrown (2013) เพลงได้ถูกเขียนและดำเนินการผลิตโดย Blake และ Music video ของเพลงถูกกำกับโดย Martin de Thurah ในเนื้อเพลงนั้นเขาได้พูดถึงคนรักของเขาที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว พร้อมกับความเศร้าและความคิดถึงที่เขาอยากจะบอก หลังจากที่ทั้งสองคนก็ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    You’re on your own
    In a world you’ve grown
    Few more years to go
    Don’t let the hurdle fall
    So be the girl you loved
    Be the girl you loved

    คุณอยู่อย่างโดดเดี่ยว
    ในโลกที่คุณเติบโตขึ้นมา
    เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่ปี
    อย่าให้อุปสรรรค์มาขวางคุณ
    ดังนั้นเป็นผู้หญิงในแบบที่คุณรัก
    เป็นผู้หญิงในแบบที่คุณรัก

    I’ll wait
    So show me while you’re strong
    Ignore everybody else
    We’re alone now
    I’ll wait
    So show me while you’re strong
    Ignore everybody else
    We’re alone now

    ฉันจะรอ
    ดังนั้นแสดงให้ฉันเห็นในขณะที่คุณยังเข้มแข็ง
    ไม่สนใจคนอื่น
    ตอนนี้เราต่างโดดเดี่ยว
    ฉันจะรอ
    ดังนั้นแสดงให้ฉันเห็นในขณะที่คุณยังเข้มแข็ง
    ไม่สนใจคนอื่น
    ตอนนี้เราต่างโดดเดี่ยว

    Suddenly I’m hit
    It’s the starkness of the dawn
    And your friends are gone
    And your friends won’t come
    So show me where you fit
    So show me where you fit

    ทันใดนั้นฉันรู้ทัน
    ว่านี่เป็นความมืดในตอนเช้าใช่ไหม
    และเพื่อนของคุณหายไป
    เมื่อเพื่อนของคุณไม่มาหา
    แสดงให้ฉันดูว่าคุณพอใจแบบไหน
    แสดงให้ฉันดูว่าคุณพอใจแบบไหน

    I’ll wait
    So show me while you’re strong
    Ignore everybody else
    We’re alone now (We’re alone now)
    I’ll wait (We’re alone now)
    (We’re alone now)
    (We’re alone now)
    I’ll wait (We’re alone now)
    (We’re alone now)
    (We’re alone now)
    (We’re alone now)
    (We’re alone now)

    ฉันจะรอ
    ดังนั้นแสดงให้ฉันเห็นในขณะที่คุณยังเข้มแข็ง
    ไม่สนใจคนอื่น
    ตอนนี้เราต่างโดดเดี่ย (ตอนนี้เราต่างโดดเดี่ยว)
    ฉันจะรอ (ตอนนี้เราต่างโดดเดี่ยว)
    (ตอนนี้เราต่างโดดเดี่ยว)
    (ตอนนี้เราต่างโดดเดี่ยว)
    ฉันจะรอ (ตอนนี้เราต่างโดดเดี่ยว)
    (ตอนนี้เราต่างโดดเดี่ยว)
    (ตอนนี้เราต่างโดดเดี่ยว)
    (ตอนนี้เราต่างโดดเดี่ยว)
    (ตอนนี้เราต่างโดดเดี่ยว)

    Suddenly I’m hit
    It’s the starkness of the dawn
    And your friends are gone
    And your friends won’t come
    So show me where you fit
    So show me where you fit

    ทันใดนั้นฉันรู้ทัน
    ว่านี่เป็นความมืดในยามเช้าหรือปล่าว
    และเพื่อนของคุณหายไป
    เมื่อเพื่อนของคุณไม่มาหา
    แสดงให้ฉันดูว่าคุณพอใจแบบไหน
    แสดงให้ฉันดูว่าคุณพอใจแบบไหน


    On your own:
    alone:
    โดเดี่ยว
    ที่มา: https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/on-your-own

  • Galantis – Firebird แปลเพลงสากล


    Firebird เป็นเพลงของคู่หูนักดนตรีอิเล็กทรอนิคชาวสวีเดน Galantis เพลงได้เปิดตัวใน 4 มิถุนายน 2015 เป็นซิงเกิลที่สิบจากการเปิดตัวอัลบั้มสตูดิโอของพวกเขา Pharmacy (2015) เพลงได้ถูกเขียนโดย Henrik Jonback, Jimmy Koitzsch, Martina Sorbara และ Galantis ในเนื้อเพลงนั้นเป็นการพูดเกี่ยวกับรถยนต์ Firebird ซึ่งเป็นรถที่สามารถปรับหลังคาลงได้ เขาเล่าเกี่ยวกับความรู้สึกดีๆ ที่ได้นอนดูดวงดาวและฟังเสียงของรถไปด้วย พร้อมกับขับรถและโบกมือไปในสายลม คุณอยากมีช่วงเวลาแบบนั้นบ้างไหม วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    We started at the cinema
    T-roof dancing, hands in the wind
    Rizlas, rolling up a cigarette
    The boys are calling shotgun again!

    เราเริ่มขับจากโรงภาพยนตร์
    เต้นรำบนหลังคารถ และโบกมือในสายลม
    ริซเลสกำลังม้วนบุหรี่
    เด็กชายกำลังนั่งข้างเบาะคนขับ

    Hot-blooded like a harlequin
    Our heroine is trembling
    Shake-shaking like a tambourine
    Colors running into our skin!

    เลือดร้อนเหมือนกับตัวตลก
    นางเอกของเรากำลังสั่นไหว (เสียงเครื่องยนต์ของรถ)
    สั่น-สั่นคลอนเหมือนกลอง
    สีกำลังซึมซับเข้าสู่ผิวหนังของเรา

    Under the stars awaken to the sound of a firebird
    Under the sky, half-naked, oooh oh oh oh
    Under the stars awaken to the sound of a firebird
    Under the sky, half-naked, oooh oh oh oh
    Oooh oh oh oh
    Oooh oh oh oh

    ภายใต้แสงดาว เราตื่นขึ้นมาฟังเสียงของ Firebird
    ภายใต้ท้องฟ้า เราครึ่งเปลือยกาย โอ้ โอ้
    ภายใต้แสงดาว เราตื่นขึ้นมาฟังเสียงของ Firebird
    ภายใต้ท้องฟ้า เราครึ่งเปลือยกาย โอ้ โอ้
    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้

    Oooh oh oh oh
    Oooh oh oh oh

    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้

    And all the stars are awaken
    To the sound of the firebird
    Under the sky half naked
    Oh oh, oh oh oh

    และดวงดาวทุกดวงก็ตื่นขึ้น
    เพื่อฟังเสียงของ Firebird
    ภายใต้ท้องฟ้า เราครึ่งเปลือยกาย
    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้

    We started at the cinema
    T-Roof dancing hands in the wind
    Rizlas, rollin up a cigarette
    The boys are calling shotgun again
    Hot blooded like a harlequin
    Our heroine is tremblin
    Shake shaking like a tambourine
    Colors runnin into our skin

    เราเริ่มขับจากโรงภาพยนตร์
    เต้นรำบนหลังคารถ และโบกมือในสายลม
    ริซเลสกำลังม้วนบุหรี่
    เด็กชายกำลังนั่งข้างเบาะคนขับ
    เลือดร้อนเหมือนกับตัวตลก
    นางเอกของเรากำลังสั่นไหว
    สั่น-สั่นคลอนเหมือนกลอง
    สีกำลังซึมซับเข้าสู่ผิวหนังของเรา

    Oh oh, oh oh oh Oh oh, oh oh oh

    โอ้ โอ้, โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้, โอ้ โอ้ โอ้

    Under the stars awaken
    To the sound of a firebird
    Under the sky, half-naked, oooh oh oh oh

    ภายใต้แสงดาว
    เราตื่นขึ้นมาฟังเสียงของ Firebird
    ภายใต้ท้องฟ้า เราครึ่งเปลือยกายโอ้ โอ้


    Call shotgun:
    If you call shotgun, you get the privilege to sit in the passenger seat in front, next to the driver.
    ได้รับสิทธิ์ในการนั่งข้างคนขับ
    ที่มา: https://www.urbandictionary.com/define.php?term=call%20shotgun