Category: Uncategorized

  • แปลเพลง Impossible – Shontelle


    Impossible เป็นเพลงของนักร้องและนักเขียนเพลงหญิงชาวบาร์เบโดส Shontelle เพลงได้ถูกเปิดตัวเป็นซิงเกิลนำในอัลบั้มสตูดิโอที่สองของเธอ No Gravity (2010) ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2010 เพลงได้ถูกเขียนโดย Arnthor Birgisson และ Ina Wroldsen ในขณะที่การดำเนินการผลิตนั้นควบคุมโดย Birgisson โดยในการเปิดตัวนั้น Impossible ได้ติดอันดับที่ 13 บน Billboard Hot 100 ในเนื้อเพลงนั้นพูดถึงการที่แฟนของเธอได้นอกใจเธอมาตลอด และในตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอถูกนอกใจและเธอบอกเลิกกับเขาในทันที ทั้งที่เธอเคยเชื่อมาโดยตลอดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำแบบนี้กับเธอ วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กัน


    I remember years ago
    Someone told me I should take
    Caution when it comes to love
    I did, I did
    And you were strong and I was not
    My illusion, my mistake
    I was careless, I forgot
    I did

    ฉันจำได้เมื่อหลายปีก่อน
    ใครบางคนได้บอกฉันว่าฉันควร
    ให้ความรัดมัดระวังเมื่อมีความรัก
    ฉันทำนะ ฉันทำนะ
    และคุณเป็นคนที่แข็งแกร่งแต่ฉันไม่ใช่
    มันเป็นภาพลวงตา และความผิดพลาดของฉัน
    ฉันเคยประมาท แต่ฉันลืมไปแล้ว
    ฉันทำ ฉันทำ

    And now, when all is done, there is nothing to say
    You have gone and so effortlessly
    You have won, you can go ahead, tell them

    และตอนนี้เมื่อทุกอย่างจบลง ก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีกแล้ว
    คุณได้ทิ้งฉันไปอย่างง่ายดาย
    คุณชนะฉันแล้ว และไปบอกพวกเขาเลยว่า

    Tell them all I know now
    Shout it from the rooftops
    Write it on the skyline
    All we had is gone now
    Tell them I was happy
    And my heart is broken
    All my scars are open
    Tell them what I hoped would be
    Impossible, impossible
    Impossible, Impossible

    บอกพวกเขาว่าตอนนี้ฉันรู้แล้ว (รู้ว่าโดนทรยศ)
    ขึ้นไปตะโกนบนยอดหลังคาเลยก็ได้
    เขียนมันลงไปบนเส้นขอบฟ้า
    ทั้งหมดที่เรามีได้หายไปแล้วในตอนนี้
    บอกพวกเขาด้วยว่าฉันมีความสุขดี
    อยู่กับหัวใจที่แตกสลายของฉัน
    บาดแผลทั้งหมดของฉันได้ถูกเปิดออก
    บอกพวกเขาว่าฉันเคยหวังว่ามันจะ
    เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้
    เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้

    Falling out of love is hard
    Falling for betrayal is worse
    Broken trust and broken hearts
    I know, I know
    Thinking all you need is there
    Building faith on love and words
    Empty promises will wear
    I know, I know

    การตัดใจจากความรักนั้นเป็นเรื่องยาก
    แต่การเป็นคนทรยศนั้นแย่กว่า
    ความไว้ใจที่ถูกทำลายและหัวใจที่แตกสลาย
    ฉันรู้ ฉันรู้
    กำลังคิดว่าทุกสิ่งที่คุณต้องการอยู่ที่นั่น
    การสร้างศรัทธาในความรักและคำพูด
    สัญญาที่ว่างเปล่าจะถูกยึดมั่น
    ฉันรู้ ฉันรู้

    And now, when all is gone, there is nothing to say
    And if you’re done with embarrassing me
    On your own, you can go ahead, tell them

    และในตอนนี้ เมื่อทุกอย่างได้สิ้นสุดลง มันก็ไม่มีอะไรต้องพูด
    และถ้าหากคุณได้ทำให้เรื่องให้ฉันอับอาย
    ด้วยตัวของคุณเอง คุณสามารถทำมันได้เลย แล้วบอกพวกเขา

    Tell them all I know now
    Shout it from the rooftops
    Write it on the skyline
    All we had is gone now
    Tell them I was happy
    And my heart is broken
    All my scars are open
    Tell them what I hoped would be
    Impossible, impossible
    Impossible, Impossible
    Impossible, impossible
    Impossible, impossible

    บอกพวกเขาว่าตอนนี้ฉันรู้แล้ว
    ขึ้นไปตะโกนบนยอดหลังคาเลยก็ได้
    เขียนมันลงไปบนเส้นขอบฟ้า
    เรื่องของเราทั้งหมดได้จบแล้วในตอนนี้
    บอกพวกเขาด้วยว่าฉันมีความสุขดี
    อยู่กับหัวใจที่แตกสลายของฉัน
    บาดแผลทั้งหมดของฉันได้ถูกเปิดออก
    บอกพวกเขาว่าฉันเคยหวังว่ามันจะ
    เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้
    เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้
    เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้
    เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้

    Ooh, impossible
    (Yeah, yeah)

    โอ้ เป็นไปไม่ได้
    (ใช่แล้ว ใช่แล้ว)

    I remember years ago
    Someone told me I should take
    Caution when it comes to love
    I did

    ฉันจำได้เมื่อหลายปีก่อน
    ใครบางคนได้บอกฉันว่าฉันควร
    ให้ความรัดมัดระวังเมื่อมีความรัก
    ฉันทำนะ

    Tell them all I know now
    Shout it from the rooftops (Shout it from the rooftops)
    Write it on the skyline
    All we had is gone now (Hey)
    Tell them I was happy (Tell them I was happy)
    And my heart is broken (And my heart is broken)
    All my scars are open
    Tell them what I hoped would be (Whoa)
    Impossible, impossible
    Impossible, impossible
    Impossible, impossible
    Impossible, impossible
    Impossible, impossible

    บอกพวกเขาว่าตอนนี้ฉันรู้แล้ว
    ขึ้นไปตะโกนบนยอดหลังคาเลยก็ได้
    เขียนมันลงไปบนเส้นขอบฟ้า
    เรื่องของเราทั้งหมดได้จบแล้วในตอนนี้
    บอกพวกเขาด้วยว่าฉันมีความสุขดี
    อยู่กับหัวใจที่แตกสลายของฉัน
    บาดแผลทั้งหมดของฉันได้ถูกเปิดออก
    บอกพวกเขาว่าฉันเคยหวังว่ามันจะ
    เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้
    เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้
    เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้
    เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้
    เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้

    I remember years ago
    Someone told me I should take
    Caution when it comes to love
    I did

    ฉันจำได้เมื่อหลายปีก่อน
    ใครบางคนได้บอกฉันว่าฉันควร
    ให้ความรัดมัดระวังเมื่อมีความรัก
    ฉันทำนะ

  • แปลเพลง Heaven – Avicii


    Heaven เป็นเพลงของ DJ และศิลปินเพลงอิเล็กทรอนิกส์ชาวสวีเดน Avicii โดยเพลงได้ร่วมร้องกับ Chris Martin นักร้องจากวงดนตรีอังฤษ Coldplay เพลงได้ถูกเปิดตัวใน 6 มิถุนายน 2019 เป็นซิงเกิลที่สามจากอัลบั้มหลังจากการเสียชีวิตของเขา Tim (2019) เพลงได้ติดชาร์ตอันดับที่ 1 บน Billboard’s Dance/Mix Show Airplay ในเนื้อเพลงนั้นได้พูดเกี่ยวกับความรู้สึกที่เหมือนกับว่าได้ตายไปแล้วของเขา วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กัน


    Step out into the dawn
    You pray ’til, you pray ’til the lights come on
    And then you feel like you’ve just been born
    Yeah, you come to raise me up
    When I’m beaten and broken up
    And now I’m back in the arms I love

    ก้าวเดินออกไปสู่รุ่งอรุณ
    คุณอธิษฐาน คุณอธิษฐาจนกว่าแสงสว่างจะปรากฏ
    และจากนั้นคุณจะรู้สึกว่าคุณเพิ่งเกิดใหม่
    ใช่แล้ว คุณมาเพื่อฉุดฉันขึ้น
    เมื่อฉันพ่ายแพ้และสูญสลาย
    และตอนนี้ฉันได้กลับมาอยู่ในอ้อมแขนที่ฉันรัก

    And I think I just died
    I think I just died
    Yeah, I think I just died
    I think I just died

    และฉันคิดว่าฉันเพิ่งจะตายไป
    ฉันคิดว่าฉันเพิ่งจะตายไป
    ใช่แล้ว ะฉันคิดว่าฉันเพิ่งจะตายไป
    ฉันคิดว่าฉันเพิ่งจะตายไป

    And went to Heaven
    And went to Heaven, whoa

    และไปยังสวรรค์
    และไปยังสวรรค์ โว้ว

    Beaten and bathed in blood
    I’m hit by, I’m hit by your love and drug
    And now you’ve c-come to raise me up

    ถูกทุบตีและอาบไปด้วยเลือด
    ฉันถูกชนโดย ฉันถูกชนโดยความรักและยาของคุณ
    และตอนนี้คุณมาเพื่อฉุดฉันขึ้น

    And I think I just died
    I think I just died
    Yeah, I think I just died

    และฉันคิดว่าฉันเพิ่งจะตายไป
    ฉันคิดว่าฉันเพิ่งจะตายไป
    ใช่แล้ว ฉันคิดว่าฉันเพิ่งจะตายไป

    And went to Heaven
    And went to Heaven
    Whoa, and went to Heaven

    และไปยังสวรรค์
    และไปยังสวรรค์
    โว้ว และไปยังสวรรค์

    Ooh, oh

    โอ้ โอ้

    It’s such a night, such a beautiful night
    It’s such a view, such a beautiful sight
    I think I just, oh, I think I just died, oh

    มันช่างเป็นค่ำคืน ช่างเป็นค่ำคืนที่สวยงาม
    มันช่างเป็นมุมมอง ช่างเป็นมุมมองที่สวยงาม
    ฉันคิดว่าฉันเพิ่งจะ ฉันคิดว่าฉันเพิ่งจะตาย

    And went to Heaven
    And went to Heaven
    Oh, yeah, yeah

    และไปยังสวรรค์
    และไปยังสวรรค์
    โอ้ ใช่แล้ว ใช่แล้ว

    We’re gonna be birds and fly
    We’re gonna set the world alight
    We’re gonna lose ourselves tonight, whoa
    We’re gonna be birds and fly
    We’re gonna set the world alight
    We’re gonna lose ourselves tonight, oh
    In Heaven (Heaven)

    เราจะเป็นนกและโบยบินไป
    เราทำจะให้โลกทั้งใบส่องว่าง
    เราจะสูญเสียความเป็นตัวตนของเราในคืนนี้ โว้ว
    เราจะเป็นนกและโบยบินไป
    เราทำจะให้โลกทั้งใบส่องว่าง
    เราจะสูญเสียความเป็นตัวตนของเราในคืนนี้ โว้ว
    ในสวรรค์ (สวรรค์)

  • แปลเพลง Only Human – Jonas Brothers


    Only Human เป็นเพลงของวงดนตรีป๊อปอเมริกัน Jonas Brothers ที่มีสมาชิกในวงสามคนคือ Nick Jonas, Joe Jonas และ Kevin Jonas เพลงได้เปิดตัวใน 2 กรกฎาคม 2019 เป็นซิงเกิลที่สามในอัลบั้มสูติโอที่ห้าของพวกเขา Happiness Begins (2019) เพลงได้ถูกเขียนโดย Nick Jonas, Joe Jonas, Kevin Jonas และรวมเขียนและดำเนินการผลิตโดย Shellback วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กัน


    Yeah, ayy

    ใช่แล้ว เอ้

    I don’t want this night to end
    It’s closing time, so leave with me again (yeah)
    You got all my love to spend, oh
    Let’s find a place where happiness begins

    ฉันไม่อยากให้คืนนี้จบลงแค่นี้
    แต่มันถึงเวลาร้านปิดแล้ว ดังนั้นไปที่บ้านของฉันอีกนะ
    คุณได้รับความรักทั้งหมดที่ฉันมอบให้คุณ
    มาหาสถานที่สำหรับเริ่มต้นความสุขของเรากันเถอะ

    We gon’ dance in my living room, slave to the way you move
    Hurts when I’m leaving you (ayy)
    Just dance in the living room, love with an attitude
    Drunk to an 80s groove (ayy)
    We gon’ dance in my living room, slave to the way you move
    Hurts when I’m leaving you (ayy)
    Dance in the living room, love with an attitude
    Drunk

    เราจะเต้นรำในห้องนั่งเล่นของฉัน และหลงไหลไปกับการเคลื่อนไหวของคุณ
    มันเป็นความเจ็บปวดเมื่อฉันกำลังจะจากคุณไป
    แค่มาเต้นรำในห้องนั่งเล่น ความรักกับทัศนคติ
    และดื่มด่ำไปกับเพลงของ groove ในยุค 80s
    เราจะเต้นรำในห้องนั่งเล่นของฉัน และหลงไหลไปกับการเคลื่อนไหวของคุณ
    มันเป็นความเจ็บปวดเมื่อฉันกำลังจะจากคุณไป
    เต้นรำในห้องนั่งเล่น ความรักกับทัศนคติ
    พร้อมดื่มด่ำ

    It’s only human, you know that it’s real
    So why would you fight or try to deny the way that you feel?
    Oh, babe, you can’t fool me, your body’s got other plans
    So stop pretending you’re shy, just come on and
    Dance, dance, dance, dance, oh

    เรามันก็แค่คนธรรมดา คุณก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง
    แล้วทำไมคุณถึงพยายามที่จะปฏิเสธในสิ่งที่คุณรู้สึกละ
    โอ้ที่รัก คุณหลอกฉันไม่ได้หรอก เพราะร่างกายของคุณมันแสดงออก
    ดังนั้นอย่าแกล้งทำเป็นว่าคุณขี้อาย แค่เข้ามาเต้นกับฉัน
    มาเต้นกับฉัน เต้นกับฉัน

    Early morning la-la-light
    Only getting up to close the blinds, oh
    I’m praying you don’t change your mind
    ‘Cause leaving now just don’t feel right
    Let’s do it one more time, oh babe

    แสงสว่างในยามเช้าตรู่
    กำลังค่อยๆ ส่องขึ้นมาเหนือผ้าม่านแล้ว
    ฉันได้แต่ภาวะนาว่าคุณจะไม่เปลี่ยนใจ
    เพราะถ้าคุณไปตอนนี้มันไม่โอเคเลย
    มาสนุกกันอีกสักครั้ง โอ้ที่รัก

    We gon’ dance in my living room, slave to the way you move
    Hurts when I’m leaving you (hurts when I’m leaving you)
    Just dance in the living room, love with an attitude
    Drunk to an 80s groove (ayy)
    We gon’ dance in my living room, slave to the way you move
    Hurts when I’m leaving you (ayy)
    Dance in the living room, love with an attitude
    Drunk

    เราจะเต้นรำในห้องนั่งเล่นของฉัน และหลงไหลไปกับการเคลื่อนไหวของคุณ
    มันเป็นความเจ็บปวดเมื่อฉันกำลังจะจากคุณไป
    แค่มาเต้นรำในห้องนั่งเล่น ความรักกับทัศนคติ
    และดื่มด่ำไปกับเพลงของ groove ในยุค 80s
    เราจะเต้นรำในห้องนั่งเล่นของฉัน และหลงไหลไปกับการเคลื่อนไหวของคุณ
    มันเป็นความเจ็บปวดเมื่อฉันกำลังจะจากคุณไป
    เต้นรำในห้องนั่งเล่น ความรักกับทัศนคติ
    พร้อมดื่มด่ำ

    It’s only human, you know that it’s real (know that it’s real)
    So why would you fight or try to deny the way that you feel?
    (The way that you feel)
    Oh, babe, you can’t fool me, your body’s got other plans
    So stop pretending you’re shy, just come on and
    Dance, dance, dance, dance, oh

    เรามันก็แค่คนธรรมดา คุณก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง
    แล้วทำไมคุณถึงพยายามที่จะปฏิเสธในสิ่งที่คุณรู้สึกละ
    (ในแบบที่คุณรู้สึกนั้นไง)
    โอ้ที่รัก คุณหลอกฉันไม่ได้หรอก เพราะร่างกายของคุณมันแสดงออก
    ดังนั้นอย่าแกล้งทำเป็นว่าคุณขี้อาย แค่เข้ามาเต้นกับฉัน
    มาเต้นกับฉัน เต้นกับฉัน

    Dance, oh (woo, ayy)
    Only human
    It’s only (man), it’s only (man)
    Only human
    Oh yeah, yeah, yeah
    Only human
    It’s only (man), it’s only (man)
    Only human

    มาเต้นรำ โอ้
    แค่คนธรรมดา
    มันเป็นแค่ (คนธรรมดา) มันเป็นแค่ (คนธรรมดา)
    แค่คนธรรมดา
    โอ้ ใช่แล้ว ใช่แล้ว
    แค่คนธรรมดา
    มันเป็นแค่ (คนธรรมดา) มันเป็นแค่ (คนธรรมดา)
    แค่คนธรรมดา

  • แปลเพลง Those Nights – Bastille


    Those Nights เป็นเพลงของวงดนตรีป๊อปอินดี้อังกฤษ Bastille เพลงได้เปิดตัวใน 4 มิถุนายน 2019 เป็นซิงเกิลที่สี่จากอัลบั้มสตูดิโอที่สามของพวกเขา Doom Days (2019) เพลงได้ถูกเขียนโดย Dan Smith ผู้ที่ควบคุมการผลิตร่วมกับ Mark Crew ในเนื้อเพลงนั้น Dan ได้เล่าถึงเรื่องราวของการพบกันกับผู้หญิงคนหนึ่งหลังจากที่เขาได้ตื่นขึ้นมาในงานปาร์ตี้ในตอนเช้า และเขาหวังว่าเขาจะได้รู้จักเธอมากขึ้นและเพื่อสานสัมพันธ์ต่อไป วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    I can feel your eyes in the back of my head
    Burning, burning, burning
    Floating through the room as the hairs on my arms are
    Rising, rising, rising
    I’m chemically drawn closer to you
    Eyes wide, eyes wide open
    Will you be my future or just an escape?
    Love me, love me, love me

    ฉันสัมผัสได้ถึงสายตาของคุณที่ด้านหลังของฉัน
    มันกำลังลุกเป็นไฟ ลุกเป็นไฟ ลุกเป็นไฟ
    ลอยไปลอยมาภายในห้องในขณะที่ขนบนแขนของฉันก็
    ลุกขึ้น ลุกขึ้น ลุกขึ้น
    มันเหมือนมีอะไรดึงฉันเข้าไปหาคุณ
    ดวงตาที่เบิกกว้าง ดวงตาที่เบิกกว้าง
    คุณจะเป็นอนาคตของฉันหรือจะหนีฉันไป?
    รักฉันสิ รักฉันสิ รักฉันสิ

    You’ll never get to Heaven on a night like this

    คุณจะไม่สามารถไปสวรรค์ได้ในคืนเช่นนี้

    Those nights when your friends are gone
    When you’re holding on for someone to leave with
    Those nights when you crave someone
    To be there at dawn, to wake with, ’cause aren’t we all just
    Looking for a little bit of hope these days?
    Looking for somebody you can wake up with?
    Looking for a little bit of hope these days?
    We are, we are

    ในคืนเหล่านั้นเมื่อเพื่อนของคุณจากไป
    เมื่อคุณกำลังรอให้ใครบางคนไปกับคุณ
    ในคืนนั้นเมื่อคุณกระหายใครสักคน (อยากมี sex ด้วย)
    อยู่ที่นั่นด้วยกันในตอนเช้า ตื่นขึ้นมาด้วยกัน เพราะไม่ใช่ว่าตอนนี้เรา
    กำลังมองหาความหวังอันน้อยนิดอยู่ทุกวันไม่ใช่เหรอ
    กำลังมองหาใครบางคนที่จะตื่นขึ้นมาด้วยกันไม่ใช่เหรอ
    กำลังมองหาความหวังอันน้อยนิดอยู่ทุกวันไม่ใช่เหรอ
    เรากำลัง เรากำลัง

    Pulling at my t-shirt, your hands everywhere
    Rising, rising, rising
    As you trip and fall, dragging me up the stairs
    What’s your, what’s your name, now?

    มือของคุณเต็มไปหมดกำลังดึงที่คอเสื้อของฉัน
    แล้วก็ยกขึ้น ยกขึ้น ยกขึ้น
    ในขณะที่คุณเดินทางเหลว คุณลากฉันขึ้นไปบันได
    คุณชื่ออะไร ตอนนี้คุณชื่ออะไรกันแน่

    You try to get to Heaven on a night like this
    But you, you never get to Heaven on a night like this

    คุณพยายามที่จะขึ้นสวรรค์ในคืนเช่นนี้
    แต่คุณ คุณจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์ในคืนเช่นนี้หรอก

    Those nights when your friends are gone
    When you’re holding on for someone to leave with
    Those nights when you crave someone
    To be there at dawn, to wake with, ’cause aren’t we all just
    Looking for a little bit of hope these days?
    Looking for somebody you can wake up with?
    Looking for a little bit of hope these days?
    We are, we are

    ในคืนเหล่านั้นเมื่อเพื่อนของคุณจากไป
    เมื่อคุณกำลังรอให้ใครบางคนไปกับคุณ
    ในคืนนั้นเมื่อคุณกระหายใครสักคน
    อยู่ที่นั่นด้วยกันในตอนเช้า ตื่นขึ้นมาด้วยกัน เพราะไม่ใช่ว่าตอนนี้เรา
    กำลังมองหาความหวังอันน้อยนิดอยู่ทุกวันไม่ใช่เหรอ
    กำลังมองหาใครบางคนที่จะตื่นขึ้นมาด้วยกันไม่ใช่เหรอ
    กำลังมองหาความหวังอันน้อยนิดอยู่ทุกวันไม่ใช่เหรอ
    เราคือ เราคือ

    The lights, the lights, the lights
    They cut a path across the room
    The lights, the lights, the lights
    A blinding look from me to you
    And I’ll be your rabbit in the headlights
    We’ll never get to Heaven
    I’ll be your rabbit in the headlights
    We’ll never get to Heaven

    แสงสว่าง แสงสว่าง แสงสว่าง
    มันตัดผ่านเข้ามาในห้อง
    แสงสว่าง แสงสว่าง แสงสว่าง
    ผ้าม่านได้มองจากฉันไปยังคุณ
    และฉันจะเป็นกระต่ายที่ไฟหน้ารถของคุณ
    เราจะไม่ได้ไปสวรรค์
    ฉันจะเป็นกระต่ายในไฟหน้าของคุณ
    เราจะไม่ได้ไปสวรรค์

    Those nights when your friends are gone
    When you’re holding on for someone to leave with
    Those nights when you crave someone
    To be there at dawn, to wake with, ’cause aren’t we all just
    Looking for a little bit of hope these days?
    Looking for somebody you can wake up with?
    Looking for a little bit of hope these days?
    We are, we are

    ในคืนเหล่านั้นเมื่อเพื่อนของคุณจากไป
    เมื่อคุณกำลังรอให้ใครบางคนไปกับคุณ
    ในคืนนั้นเมื่อคุณกระหายใครสักคน
    อยู่ที่นั่นด้วยกันในตอนเช้า ตื่นขึ้นมาด้วยกัน เพราะไม่ใช่ว่าตอนนี้เรา
    กำลังมองหาความหวังอันน้อยนิดอยู่ทุกวันไม่ใช่เหรอ
    กำลังมองหาใครบางคนที่จะตื่นขึ้นมาด้วยกันไม่ใช่เหรอ
    กำลังมองหาความหวังอันน้อยนิดอยู่ทุกวันไม่ใช่เหรอ
    เราคือ เราคือ

    Ooh, ooh, ooh
    Ooh, ooh, ooh
    Yeah, yeah
    From my brain

    โอ้ โอ้ โอ้
    โอ้ โอ้ โอ้
    ใช่แล้ว ใช่แล้ว
    จากความคิดของฉัน

  • แปลเพลง Believer – Imagine Dragons


    Believer เป็นเพลงของวงดนตรีร็อคอเมริกัน Imagine Dragons เพลงได้เปิดตัวใน 1 กุมภาพันธ์ 2017 เป็นซิงเกิลที่สองจากอัลบั้มสตูดิโอที่สามของพวกเขา Evolve (2017) เพลงได้ถูกเขียนโดย Dan Reynolds, Wayne Sermon, Ben McKee, Daniel Platzman และ Justin Tranter ในขณะที่การดำเนินการผลิตนั้นควบคุมโดย Mattman โดยในความหมายของเพลงนั้นสะท้อนความเจ็บปวดต่างๆ ในชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเป็นความกังวลที่ต้องเจอกับคนมากมาย ความรู้สึกดีใจอย่างท้วมท้นกับความสำเร็จของวง เหมือนโรคคนที่กำลังจะเป็นโรคซึมเศร้า วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กัน


    First things first
    I’ma say all the words inside my head
    I’m fired up and tired of the way that things have been, oh-ooh
    The way that things have been, oh-ooh
    Second thing second
    Don’t you tell me what you think that I could be
    I’m the one at the sail, I’m the master of my sea, oh-ooh
    The master of my sea, oh-ooh

    สิ่งแรกเลยก็คือ
    ฉันอยากจะพูดทุกอย่างที่อยู่ในใจออกมา
    ฉันกระวนกระวายใจและเหนื่อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
    ในแบบที่มันได้เกิดขึ้น
    และสิ่งที่สองก็คือ
    คุณจะไม่บอกฉันหน่อยเหรอว่าคุณคิดว่าฉันจะเป็นยังไง
    ฉันเป็นคนหนึ่งที่กำลังล่องเรือ ฉันเป็นเจ้าแห่งท้องทะเล โอ้ โอ้
    เจ้าแห่งท้องทะเล โอ้ โอ้

    I was broken from a young age
    Taking my sulkin’ to the masses
    Writing my poems for the few
    That look at me, took to me, shook at me, feelin’ me
    Singing from heartache from the pain
    Taking my message from the veins
    Speaking my lesson from the brain
    Seeing the beauty through the…

    ฉันเคยถูกทำลายตั้งแต่อายุยังน้อย
    ตอนนี้ฉันแสดงความเศร้าเหล่านั้นให้ผู้คนได้เห็น
    เขียนบทเพลงของฉันสำหรับคนไม่กี่คน
    ที่มองมาที่ฉัน เอามาให้ฉัน พยักหน้าให้ฉัน เข้าใจฉัน
    ฉันร้องเพลงออกมาจากความปวดใจ จากความเจ็บปวด
    นำข้อความในเส้นเลือดของฉันออกไป
    พูดถึงบทเรียนที่ฉันได้รับจากความคิด
    และได้มองเห็นความสวยงามผ่าน…

    Pain! You made me a, you made me a believer, believer
    Pain! You break me down and build me up, believer, believer
    Pain! Oh, let the bullets fly, oh, let them rain
    My life, my love, my drive, it came from…
    Pain! You made me a, you made me a believer, believer

    ความเจ็บปวด ที่ทำให้ฉันเป็นผู้ศรัทธา ที่ทำให้ฉันเป็นผู้ศรัทธา
    ความเจ็บปวด มันได้ทำลายฉันและสร้างฉันขึ้นมาใหม่
    ความเจ็บปวด โอ้ ปล่อยให้กระสุนลอยออกไป และให้มันโปรยปรายลงมา
    ชีวิตของฉัน คนรักของฉัน แรงขับเคลื่อนของฉัน มันมาจาก
    ความเจ็บปวด ที่ทำให้ฉันเป็นผู้ศรัทธา ที่ทำให้ฉันเป็นผู้ศรัทธา

    Third things third
    Send a prayer to the ones up above
    All the hate that you’ve heard has turned your spirit to a dove, oh-ooh
    Your spirit up above, oh-ooh

    สิ่งที่สามก็คือ
    ส่งคำอธิษฐานถึงคนข้างบน
    ความเกลียดชังทั้งหมดที่คุณเคยได้ยินได้ทำให้วิญญาณของคุณกลายเป็นนกพิราบ โอ้ โอ้
    จิตวิญญาณเบื้องบนของคุณ โอ้ โอ้

    I was chokin’ in the crowd
    Building my rain up in the cloud
    Falling like ashes to the ground
    Hoping my feelings, they would drown
    But they never did, ever lived, ebbin’ and flowin’
    Inhibited, limited ’til it broke open and rained down
    It rained down, like…

    ฉันกำลังสำลักอยู่ในฝูงชน
    สร้างฝนของฉันเองบนก่อนเมฆ
    และปล่อยให้มันตกลงมาเหมือนขี้เถ้าที่ตกลงพื้น
    หวังว่าความรู้สึกของฉัน จะไม่จมดิ่งไปกับมันด้วย
    แต่มันก็ไม่เคยเกิดขึ้น แต่เคยมีชีวิตอยู่ และไหลอยู่ในตัวของฉัน
    ที่ถูกยับยั้งและถูกจำกัด จนกว่ามันจะเปิดออกและไหลลงมา
    ทำให้ฝนเทลองมา เหมือน

    Pain! You made me a, you made me a believer, believer
    Pain! You break me down and build me up, believer, believer
    Pain! Oh, let the bullets fly, oh, let them rain
    My life, my love, my drive, it came from…
    Pain! You made me a, you made me a believer, believer

    ความเจ็บปวด ที่ทำให้ฉันเป็นผู้ศรัทธา ที่ทำให้ฉันเป็นผู้ศรัทธา
    ความเจ็บปวด มันได้ทำลายฉันและสร้างฉันขึ้นมาใหม่
    ความเจ็บปวด โอ้ ปล่อยให้กระสุนลอยออกไป และให้มันโปรยปรายลงมา
    ชีวิตของฉัน คนรักของฉัน แรงขับเคลื่อนของฉัน มันมาจาก
    ความเจ็บปวด ที่ทำให้ฉันเป็นผู้ศรัทธา ที่ทำให้ฉันเป็นผู้ศรัทธา

    Last things last
    By the grace of the fire and the flames
    You’re the face of the future, the blood in my veins, oh-ooh
    The blood in my veins, oh-ooh
    But they never did, ever lived, ebbin’ and flowin’
    Inhibited, limited ’til it broke open and rained down
    It rained down, like…

    สิ่งสุดท้ายก็คือ
    ด้วยพระคุณแห่งไฟและเปลวเพลิง
    คุณคือใบหน้าแห่งอนาคต คือเลือดในร่างกายของฉัน
    เลือดในร่างกายของฉัน
    แต่มันก็ไม่เคยเกิดขึ้น แต่เคยมีชีวิตอยู่ และไหลอยู่ในตัวของฉัน
    ที่ถูกยับยั้งและถูกจำกัด จนกว่ามันจะเปิดออกและไหลลงมา
    ฝนตกลงมา เหมือน

    Pain! You made me a, you made me a believer, believer
    Pain! You break me down and build me up, believer, believer
    Pain! Oh, let the bullets fly, oh, let them rain
    My life, my love, my drive, it came from…
    Pain! You made me a, you made me a believer, believer

    ความเจ็บปวด ที่ทำให้ฉันเป็นผู้ศรัทธา ที่ทำให้ฉันเป็นผู้ศรัทธา
    ความเจ็บปวด มันได้ทำลายฉันและสร้างฉันขึ้นมาใหม่
    ความเจ็บปวด โอ้ ปล่อยให้กระสุนลอยออกไป และให้มันโปรยปรายลงมา
    ชีวิตของฉัน คนรักของฉัน แรงขับเคลื่อนของฉัน มันมาจาก
    ความเจ็บปวด ที่ทำให้ฉันเป็นผู้ศรัทธา ที่ทำให้ฉันเป็นผู้ศรัทธา

  • แปลเพลง Now You’re Gone – Tom Walker ft. Zara Larsson


    Now You’re Gone เป็นเพลงของนักร้องและนักเขียนเพลงชาวอังกฤษ Tom Walker และเพลงได้ร่วมร้องกับนักร้องและนักเขียนเพลงชาวสวีเดน Zara Larsson เพลงได้เปิดตัวใน 1 มีนาคม 2019 เป็นซิงเกิลที่หาจากการเปิดตัวอัลบั้มแรกของเขา What a Time to Be Alive (2019) เพลงได้ถูกเขียนโดย Tom Walker, Chelcee Grimes และ Steve Mac และดำเนินการผลิตโดย Steve Mac ในเนื้อเพลงนั้นพูดเกี่ยวกับคู่รักที่ได้เลิกกันไปแล้ว แต่พวกเขายังคงคิดถึงกันอยู่และอยากจะกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ในวันนี้เรามาแปลเพลงนี้กัน


    Of all the battles that I’ve won
    They don’t matter now you’re gone
    Nothing matters now you’re gone
    Of all the battles that I’ve won
    They don’t matter now you’re gone
    Nothing matters now you’re gone

    จากการต่อสู้ทั้งหมดที่คุณได้รับชัยชนะมา
    มันไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว
    ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว
    จากการต่อสู้ทั้งหมดที่คุณได้รับชัยชนะมา
    มันไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว
    ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว

    I said I’m done with you
    But I can’t help it when I lay down, still think of you
    Keeps me awake at night and
    Why do I let it get so far?
    How do we end with broken hearts?
    How do we end with broken hearts, broken hearts?

    ฉันพูดว่าฉันเป็นคนทำมันกับคุณ
    แต่ฉันก็อดไม่ได้ทุกครั้งที่หลับตาลง ยังคงได้แต่คิดถึงคุณ
    มันทำให้ฉันนอนไม่หลับและ
    ทำไมฉันถึงปล่อยให้มันบานปลายแบบนี้
    เราจะจบกันด้วยการอกหักแบบนี้หรือ
    เราจะจบกันด้วยการอกหักแบบนี้หรือ

    So was it really worth it?
    Caught in the moment while we burn it down
    No one’s perfect
    Try to connect and we turn it ’round
    Well, I’m over this game
    No one’s taking the blame
    So was it really worth it?
    Was it really worth it?

    มันคุ้มค่าแล้วจริงๆ ใช่ไหม
    ติดอยู่ในความรู้สึกที่เราเผามันให้มอดไหม้
    ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
    พยายามคืนดี และทำให้มันกลับมาเหมือนเดิม
    ดีละ ฉันจบเกมนี้แล้ว
    ไม่มีใครที่ต้องมารับโทษ
    มันคุ้มค่าแล้วจริงๆ ใช่ไหม
    มันคุ้มค่าแล้วจริงๆ ใช่ไหม

    Everything we’ve been criticizing
    Well, I don’t wanna live like that
    Overthinking and analyzing
    Never gonna take it back
    I thought I was winning, but I was dying
    Everything we never had
    Losing you is what I want fighting

    ทุกสิ่งที่เราได้เคยวิจารณ์
    ฉันไม่ต้องการอยู่แบบนั้น
    การคิดมากและวิเคราะห์อย่างหนัก
    ไม่เคยอยากให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมเลย
    ฉันคิดว่าฉันเคยชนะ แต่ฉันกำลังจะตายต่างหาก
    ทุกสิ่งที่เราไม่เคยมี
    แต่การสูญเสียคุณเป็นสิ่งที่ฉันยอมไม่ได้

    Of all the battles that I’ve won
    They don’t matter now you’re gone
    Nothing matters now you’re gone
    Of all the battles that I’ve won
    They don’t matter now you’re gone
    Nothing matters now you’re gone

    จากการต่อสู้ทั้งหมดที่คุณได้รับชัยชนะมา
    มันไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว
    ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว
    จากการต่อสู้ทั้งหมดที่คุณได้รับชัยชนะมา
    มันไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว
    ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว

    Well, you said you hated me
    Tried to forget, but it stays with me
    What scares me is when I’m locked up, got me feeling free
    Does it come from the heart?
    Words cut deep, cut deeper than scars
    Thought that you were perfect, was it really worth it?

    ดีละ คุณบอกว่าคุณเกลียดฉัน
    พยายามที่จะลืม แต่มันก็อยู่กับฉัน
    สิ่งที่ทำให้ฉันกลัวคือเมื่อฉันตัดสินใจ มันจะทำให้ฉันเป็นอิสระ
    มันมาจากในใจฉันไหมนะเหรอ
    คำพูดที่ตัดลึก ตัดลึกกว่ารอยแผลเป็น
    คิดว่าคุณสมบูรณ์แบบ มันคุ้มค่าแล้วจริงๆ ใช่ไหม

    Everything we’ve been criticizing
    Well, I don’t wanna live like that
    Overthinking and analyzing
    Never gonna take it back
    I thought I was winning, but I was dying
    Everything we never had
    Losing you is what I want fighting

    ทุกสิ่งที่เราได้เคยวิจารณ์
    ฉันไม่ต้องการอยู่แบบนั้น
    การคิดมากและวิเคราะห์อย่างหนัก
    ไม่เคยอยากให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมเลย
    ฉันคิดว่าฉันเคยชนะ แต่ฉันกำลังจะตายต่างหาก
    ทุกสิ่งที่เราไม่เคยมี
    แต่การสูญเสียคุณเป็นสิ่งที่ฉันยอมไม่ได้

    Of all the battles that I’ve won
    They don’t matter now you’re gone
    Nothing matters now you’re gone
    Of all the battles that I’ve won
    They don’t matter now you’re gone
    Nothing matters now you’re gone

    จากการต่อสู้ทั้งหมดที่คุณได้รับชัยชนะมา
    มันไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว
    ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว
    จากการต่อสู้ทั้งหมดที่คุณได้รับชัยชนะมา
    มันไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว
    ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว

    I’m too proud to call you
    But I’m still thinking of you
    Oh, I think I love you (Ah)
    I’m too proud to call you
    But I’m still thinking of you
    Oh, I think I love you (Ah)
    I’m too proud to call you
    But I’m still thinking of you
    Oh, I think I love you (Ah)
    I’m too proud to call you
    But I’m still thinking of you
    Oh, I think I love you (Ah)

    ฉันหยิ่งเกินไปที่ไม่ยอมโทรหาคุณ
    แต่ฉันก็ยังคิดถึงคุณอยู่
    โอ้ ฉันคิดว่าฉันรักคุณอยู่
    ฉันหยิ่งเกินไปที่ไม่ยอมโทรหาคุณ
    แต่ฉันก็ยังคิดถึงคุณอยู่
    โอ้ ฉันคิดว่าฉันรักคุณอยู่
    ฉันหยิ่งเกินไปที่ไม่ยอมโทรหาคุณ
    แต่ฉันก็ยังคิดถึงคุณอยู่
    โอ้ ฉันคิดว่าฉันรักคุณอยู่
    ฉันหยิ่งเกินไปที่ไม่ยอมโทรหาคุณ
    แต่ฉันก็ยังคิดถึงคุณอยู่
    โอ้ ฉันคิดว่าฉันรักคุณอยู่

    Of all the battles that I’ve won
    They don’t matter now you’re gone
    Nothing matters now you’re gone
    Of all the battles that I’ve won
    They don’t matter now you’re gone
    Nothing matters now you’re gone

    จากการต่อสู้ทั้งหมดที่คุณได้รับชัยชนะมา
    มันไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว
    ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว
    จากการต่อสู้ทั้งหมดที่คุณได้รับชัยชนะมา
    มันไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว
    ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้คุณไปจากฉันแล้ว

  • แปลเพลง Live Fast – Alan Walker x A$AP Rocky


    Live Fast เป็นเพลงของนักดนตรีและโปรดิวเซอร์เพลงอิเล็กทรอนิกส์ชาวนอร์เวย์ Alan Walker และนักร้องเพลงแร็พชาวอเมริกันอย่าง ASAP Rocky เพลงได้เปิดตัวใน 25 กรกฎาคม 2019 โดยเป็นเพลงประกอบในเกม PUBG Mobile เพลงได้ถูกเขียนโดย Jonas Aden, Pål Håkon Sundsbø, Kevin Högdahl, Kameron Alexander, Fredrik Borch Olsen, Mood Melodies, Alan Walker และ A$AP Rocky ในขณะที่การดำเนินการผลิตนั้นควบคุมโดย Pål Håkon Sundsbø, Mood Melodies, Jonas Aden และ Alan Walker ในเนื้อเพลงนั้นเป็นการพูดถึงการต่อสู้เพือเอาชีวิตรอดในเกม PUBG Mobile ที่มาพร้อมกับ MV ข้างล่าง วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Live fast for the moment
    Keep burning on both ends
    I gotta get out ‘fore I die, out ’fore I die‚ get out ‘fore I die
    Blacked out in the morning
    Too high never cave in
    I gotta get out ‘fore I die‚ out ’fore I die‚ get out ‘fore I die

    มันเป็นช่วงเวลาที่ร้อนแรงในชีวิตของฉัน
    ทุกอย่างถูกกดดันเข้ามาจากทั้งสองด้าน
    ฉันต้องออกไปสู้ก่อนที่ฉันจะตาย ไปก่อนที่ฉันจะตาย ไปก่อนที่ฉันจะตาย
    ออกไปข้างนอกในตอนเช้า
    เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ และไม่เคยยอมแพ้
    ฉันต้องออกไปสู้ก่อนที่ฉันจะตาย ไปก่อนที่ฉันจะตาย ไปก่อนที่ฉันจะตาย

    Burning like a candle both ends dripping spills loose
    Ends burn heads burning end bridges
    Better use the stairs till your legs hurting
    Running for the hills I’m on their heels keep their heads turning
    Consider it a fair warning
    My partners steady moving like it’s feds on us, uh uh
    Probably cause you assuming that its meds on us, uh uh
    Kick big s**t I need leg warmers chug water all love
    Blood is thicker than the dreads on us (wooh)
    Now I remember that when I’m in my bag
    It ain’t where you from it’s where you’re at
    Where them n****s at
    Time to toe tag‚ yeah, body bag, yeah
    Karate chop the s**t in half ’till they find my match (fight)
    ’Till they find me laying dead on my back
    This could be my last year
    Putting up a fight until I collapse
    2013 I went wild for night
    In 2019 I’m getting out ’fore I die

    มันเผาไหม้เหมือนเที่ยนที่ปลายของด้านกำลังละลาย
    เมื่อการเผาไหม้สิ้นสุดลง ก็เหมือนกับสะพานที่ถูกทำลาย
    คุณควรใช้บันไดจนกว่าขาของคุณจะเจ็บ
    วิ่งขึ้นไปที่เนินเขา ฉันหมอบอยู่ที่เท้าของเขาและพวกเขาก็มองหาฉัน
    คิดเสียว่ามันเป็นสัญญาณเตือนที่ดี
    พันธมิตรของฉันเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่อง เหมือนมันกำลังหล่อเลี้ยงพวกเรา
    บางทีอาจจะเป็นเพราะว่ามันกำลังให้ยากับเรา
    Kick big s**t ฉันต้องการเครื่องอุ่นขาและเครื่องดื่มจากความรักทั้งหมด
    เลือดนั้นเข้มข้นกว่าความกลัวของเรา
    ฉันยังจำได้ว่าตอนนั้นฉันยังอยู่ที่บ้านอยู่เลย
    มันไม่สำคัญว่าคุณมาจากไหน แต่มันสำคัญว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน
    แล้วพวกเขาอยู่ไหนกันหมด
    ถึงเวลาต่อสู้แล้ว ใช่แล้ว ฉันพร้อมและสะพายกระเป๋าแล้ว
    คาราเต้สับอึให้เป็นครึ่งหนึ่ง จนกว่าพวกเขาจะเจอการต่อสู้ของฉัน
    จนกว่าพวกเขาจะพบว่าฉันใกล้ตายอยู่ข้างหลัง
    นี่อาจะเป็นปีสุดท้ายของฉันสำหรับการต่อสู้ของฉัน
    ฉันจะต่อสู้จนกว่าร่างจะแตกสลายไป
    ในปี 2013 ฉันได้ไปเที่ยวกลางคืน
    แต่ในปี 2019 นี้ ฉันต้องได้ออกไปต่อสู้ก่อนที่ฉันจะตาย

    Live fast for the moment
    Keep burning on both ends
    I gotta get out ‘fore I die‚ out ‘fore I die, get out ‘fore I die
    Blacked out in the morning
    Too high never cave in
    I gotta get out ’fore I die, out ‘fore I die, get out ‘fore I die

    มันเป็นช่วงเวลาที่ร้อนแรงในชีวิตของฉัน
    ทุกอย่างถูกกดดันเข้ามาจากทั้งสองด้าน
    ฉันต้องออกไปสู้ก่อนที่ฉันจะตาย ไปก่อนที่ฉันจะตาย ไปก่อนที่ฉันจะตาย
    ออกไปข้างนอกในตอนเช้า
    เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ และไม่เคยยอมแพ้
    ฉันต้องออกไปสู้ก่อนที่ฉันจะตาย ไปก่อนที่ฉันจะตาย ไปก่อนที่ฉันจะตาย

    Oh, I gotta get out ‘fore I die
    Oh, I gotta get out ‘fore I die

    โอ้ ฉันต้องออกไปก่อนที่ฉันจะตาย
    โอ้ ฉันต้องออกไปก่อนที่ฉันจะตาย

    When you started from the bottom go top forward, yeah
    Name like saliva whole mouth full of it, yeah
    Chasing for the clout go all out for it
    ‘Till they pull up with the toasters like a house warming, yeah
    I just need my piece please like a Reese’s butter cup
    Is you a punk or a power puff, huh, toughen up
    Bunk my species time to feces
    Then repeat rock my CC Chanel
    Just popped a CC now I’m up
    When it’s time for me
    Show me empathy
    When it ends for me
    Would you fend for me
    When it’s time for me
    Show me empathy
    When it ends for me
    Would you fend for me

    เมื่อคุณเริ่มจากฐานเพื่อขึ้นไปยังยอด
    ชื่ออย่างน้ำลายเต็มฟูมปากไปหมด
    การไล่ล่าหาอิทธิพล ทุกคนก็ต่างทำเพื่อมัน
    จนกว่าพวกเขาจะดึงขึ้นมาพร้อมกับเครื่องปิ้งขนมปัง เหมือนเครื่องทำความอุ่น
    ฉันแค่ต้องการชิ้นส่วนของฉัน ได้โปรดเหมือนถ้วยเนยของรีส
    คุณเป็นพั้งค์หรือพาวเวอร์พัฟ คุณดูแกร่งขึ้นมาก
    แยกสปีชีส์ของฉันออกเป็นสองส่วน และมันก็ถึงเวลาอึ
    จากนั้นทำซ้ำกับช่อง CC ของฉัน
    CC ของฉันได้ผุดขึ้นมาแล้วในตอนนี้
    เมื่อมันถึงเวลาสำหรับฉัน
    แสดงให้ฉันเห็นถึงความเอาใจใส่
    และเมื่อมันสิ้นสุดลงสำหรับฉัน
    คุณจะดูแลฉันได้ไหม
    เมื่อถึงเวลาสำหรับฉัน
    แสดงให้ฉันเห็นถึงความเอาใจใส่
    เมื่อมันสิ้นสุดลงสำหรับฉัน
    คุณจะดูแลฉันได้ไหม

    Live fast for the moment
    Keep burning on both ends
    I gotta get out ‘fore I die, out ‘fore I die, get out ‘fore I die
    Blacked out in the morning
    Too high never cave in
    I gotta get out ‘fore I die, out ‘fore I die, get out ‘fore I die

    มันเป็นช่วงเวลาที่ร้อนแรงในชีวิตของฉัน
    ทุกอย่างถูกกดดันเข้ามาจากทั้งสองด้าน
    ฉันต้องออกไปสู้ก่อนที่ฉันจะตาย ไปก่อนที่ฉันจะตาย ไปก่อนที่ฉันจะตาย
    ออกไปข้างนอกในตอนเช้า
    เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ และไม่เคยยอมแพ้
    ฉันต้องออกไปสู้ก่อนที่ฉันจะตาย ไปก่อนที่ฉันจะตาย ไปก่อนที่ฉันจะตาย

    It ain’t where you from, it’s where you at
    Oh, I gotta get out ‘fore I die

    มันไม่สำคัญว่าคุณมาจากไหน แต่มันสำคัญว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน
    โอ้ ฉันต้องออกไปก่อนที่ฉันจะตาย

  • แปลเพลง All You Need To Know – Gryffin, Slander ft. Calle Lehmann


    All You Need To Know เป็นเพลงของ DJ และโปรดิวเซอร์เพลงอิเล็กทรอนิกส์ชาวอเมริกัน Gryffin และคู่หู DJ ชาวอเมริกันอย่าง Slander และได้ร่วมร้องกับนักร้องเพลงอิเล็กทรอนิกส์อย่าง Calle Lehmann เพลงได้ถูกเปิดตัวแบบดิจิตอลดาวน์โหลดใน 26 มีนาคม 2019 ในเนื้อเพลงนั้น Lehmann ได้ร้องเกี่ยวกับการที่เขาต้องการแบกรับเอาความเจ็บปวดทุกอย่างจากคนรักของเขา และนั่นก็คือทั้งหมดที่เขาอยากบอกให้เธอรู้ วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Simple as can be
    I got your hands in mine
    And you don’t have to listen carefully
    I’ll tell you a thousand times

    เรียบง่ายเท่าที่จะเป็นไปได้
    ฉันมีคุณในมือของฉัน
    คุณไม่จำเป็นต้องตั้งใจฟังฉันหรอกนะ
    เพราะฉันจะบอกคุณนับพันครั้ง

    Anything you feel, put it all on me
    All of your thoughts, I want everything
    And when you get sad, like you do sometimes
    Put it all on me
    Put it all on me

    อะไรก็ตามที่คุณรู้สึก ส่งมันมาให้ฉัน
    ความคิดทั้งหมดของคุณ ฉันต้องการมันทั้งหมด
    และเมื่อคุณเศร้า เหมือนในบางครั้งที่คุณเคย
    ส่งมันทั้งหมดมาให้ฉัน
    ส่งมันทั้งหมดมาให้ฉัน

    I’ll lift you when you’re feeling low
    I’ll hold you when the night gets cold
    You’ll never have to be alone
    And that’s all you need to know
    No love lost, we’ve got you and I
    No clouds, we shoot them out the sky
    You’ll never have to be alone
    And that’s all you need to know
    And that’s all you need to know
    And that’s all you need to know

    ฉันจะฉุดคุณขึ้นเมื่อคุณรู้สึกตกต่ำ
    ในจะกอดคุณเอาไว้ในคืนที่หนาวเหน็บ
    คุณจะไม่ต้องอยู่คนเดียว
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้
    ไม่มีความรักที่หายไป เพราะเรามีกันและกัน
    ไม่มีเมฆบดบัง เราเป่ามันออกไปจากท้องฟ้า
    คุณจะไม่ต้องอยู่คนเดียว
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้

    Simple as can be
    I’m gonna be around
    And you know we got everything we need
    Look at this thing we found

    เรียบง่ายเท่าที่จะเป็นไปได้
    ฉันจะอยู่ใกล้ๆ คุณ
    และคุณรู้ว่าเรามีทุกสิ่งที่เราต้องการ
    มองดูสิ่งนี้ที่เราได้พบสิ

    Anything you feel, put it all on me
    Your fears and your thoughts, give me all of it
    And when you get sad, like you do sometimes
    Put it all on me
    Put it all on me
    I’ll lift you when you’re feeling low
    I’ll hold you when the night gets cold
    You’ll never have to be alone
    And that’s all you need to know
    No love lost, we’ve got you and I
    No clouds, we shoot them out the sky
    You’ll never have to be alone
    And that’s all you need to know
    And that’s all you need to know
    And that’s all you need to know

    อะไรก็ตามที่คุณรู้สึก ส่งมันมาให้ฉัน
    ความคิดทั้งหมดของคุณ ฉันต้องการมันทั้งหมด
    และเมื่อคุณเศร้า เหมือนในบางครั้งที่คุณเคย
    ส่งมันทั้งหมดมาให้ฉัน
    ส่งมันทั้งหมดมาให้ฉัน
    ฉันจะฉุดคุณขึ้นเมื่อคุณรู้สึกตกต่ำ
    ในจะกอดคุณเอาไว้ในคืนที่หนาวเหน็บ
    คุณจะไม่ต้องอยู่คนเดียว
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้
    ไม่มีความรักที่หายไป เพราะเรามีกันและกัน
    ไม่มีเมฆบดบัง เราเป่ามันออกไปจากท้องฟ้า
    คุณจะไม่ต้องอยู่คนเดียว
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้

    Simple as can be
    I got your hands in mine
    And you don’t have to listen carefully
    I’ll tell you a thousand times
    And that’s all you need to know

    เรียบง่ายเท่าที่จะเป็นไปได้
    ฉันมีคุณในมือของฉัน
    คุณไม่จำเป็นต้องตั้งใจฟังฉันหรอกนะ
    เพราะฉันจะบอกคุณนับพันครั้ง
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้

    I’ll lift you when you’re feeling low
    I’ll hold you when the night gets cold
    You’ll never have to be alone
    And that’s all you need to know
    No love lost, we’ve got you and I
    No clouds, we shoot them out the sky
    You’ll never have to be alone
    And that’s all you need to know
    And that’s all you need to know
    And that’s all you need to know
    I’ll lift you when you’re feeling low
    I’ll hold you when the night gets cold
    You’ll never have to be alone
    And that’s all you need to know
    No love lost, we’ve got you and I
    No clouds, we shoot them out the sky
    You’ll never have to be alone
    And that’s all you need to know
    And that’s all you need to know

    ฉันจะฉุดคุณขึ้นเมื่อคุณรู้สึกตกต่ำ
    ในจะกอดคุณเอาไว้ในคืนที่หนาวเหน็บ
    คุณจะไม่ต้องอยู่คนเดียว
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้
    ไม่มีความรักที่หายไป เพราะเรามีกันและกัน
    ไม่มีเมฆบดบัง เราเป่ามันออกไปจากท้องฟ้า
    คุณจะไม่ต้องอยู่คนเดียว
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้
    ฉันจะฉุดคุณขึ้นเมื่อคุณรู้สึกตกต่ำ
    ในจะกอดคุณเอาไว้ในคืนที่หนาวเหน็บ
    คุณจะไม่ต้องอยู่คนเดียว
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้
    ไม่มีความรักที่หายไป เพราะเรามีกันและกัน
    ไม่มีเมฆบดบัง เราเป่ามันออกไปจากท้องฟ้า
    คุณจะไม่ต้องอยู่คนเดียว
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้
    และนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้

  • แปลเพลง Left Me Yet – Daya


    Left Me Yet เป็นเพลงของนักร้องและนักเขียนเพลงหญิงชาวอเมริกัน Daya เพลงได้เปิดตัวใน 21 มิถุนายน 2019 เป็นซิงเกิลในอัลบั้มที่สองเธอ เพลงได้ถูกเขียนโดย Kennedi, Jason Gill และ Daya ในขณะที่การดำเนินการผลิตนั้นควบคุมโดย Jason Gill ในเนื้อเพลงนั้นพูดเกี่ยวกับนิสัยแย่ๆ ที่เธอได้ทำกับคนรักของเธอ แต่เขาก็ยังอดทนและปกป้องเธอเสมอ และยังไม่ยอมทิ้งเธอไปไหนอีก ดังนั้นในตอนนี้เธอสำนึกและรู้สึกว่าโชคดีที่มีเขา วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Bad at sorrys, good at finding places
    I don’t belong, where I don’t belong
    You hold your tongue and light another blunt
    When you know I’m wrong, when you know I’m wrong

    ไม่เก่งเรื่องขอโทษ แต่เก่งในการหาเรื่อง
    เรื่องที่ไม่ใช่ของฉัน เรื่องที่ไม่ใช่ของฉัน
    คุณปิดปากเงียบ และพูดเรื่องอื่นขึ้นมา
    เมื่อคุณรู้ว่าฉันผิด เมื่อคุณรู้ว่าฉันผิด

    I feel so lucky
    When you say that you love me
    ‘Cause I know I’m not worthy
    Every time, you always forgive me
    And you say that you miss me
    Never hold it against me

    ฉันรู้สึกโชคดีมาก
    เมื่อคุณบอกว่าคุณรักฉัน
    เพราะฉันรู้ว่าฉันไม่คู่ควร
    คุณให้อภัยฉันทุกครั้ง
    และคุณบอกว่าคุณคิดถึงฉัน
    ไม่เคยปิดบังอะไรฉันเลย

    I get mad, I hide things and say things I can’t take back
    I push you away, why do I do that?
    Impatient, but you’re patient with me
    I’m surprised you haven’t left me yet

    เมื่อฉันโกรธ ฉันปกปิดเรื่องต่างๆ และพูดในสิ่งไม่ทันยังคิด
    ฉันไล่คุณไป ฉันทำแบบนั้นทำไมกัน
    ฉันเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่คุณก็อดทนกับฉันเสมอ
    ฉันประหลาดใจที่คุณยังไม่ได้ทิ้งฉันไปไหน

    Everybody’s looking at you
    But you’re looking at me, don’t know what you see
    Keep me safe, you always stay awake
    When I can’t sleep, when I can’t sleep

    ทุกคนต่างก็กำลังมองไปที่คุณ
    แต่คุณกำลังมองมาที่ฉัน ไม่รู้ว่าคุณเห็นอะไร
    เพื่อทำให้ฉันปลอดภัย คุณจะตื่นอยู่เสมอ
    เมื่อฉันนอนไม่หลับ เมื่อฉันนอนไม่หลับ

    I feel so lucky
    When you say that you love me
    ‘Cause I know I’m not worthy
    Every time, you always forgive me
    And you say that you miss me
    Never hold it against me

    ฉันรู้สึกโชคดีมาก
    เมื่อคุณบอกว่าคุณรักฉัน
    เพราะฉันรู้ว่าฉันไม่คู่ควร
    คุณให้อภัยฉันทุกครั้ง
    และคุณบอกว่าคุณคิดถึงฉัน
    ไม่เคยปิดบังอะไรฉันเลย

    I get mad, I hide things and say things I can’t take back
    I push you away, why do I do that?
    Impatient, but you’re patient with me
    I’m surprised you haven’t left me yet
    I get mad, I hide things and say things I can’t take back
    I push you away, why do I do that?
    Impatient, but you’re patient with me
    I’m surprised you haven’t left me yet

    เมื่อฉันโกรธ ฉันปกปิดเรื่องต่างๆ และพูดในสิ่งไม่ทันยังคิด
    ฉันไล่คุณไป ฉันทำแบบนั้นทำไมกัน
    ฉันเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่คุณก็อดทนกับฉันเสมอ
    ฉันประหลาดใจที่คุณยังไม่ได้ทิ้งฉันไปไหน
    เมื่อฉันโกรธ ฉันปกปิดเรื่องต่างๆ และพูดในสิ่งไม่ทันยังคิด
    ฉันไล่คุณไป ฉันทำแบบนั้นทำไมกัน
    ฉันเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่คุณก็อดทนกับฉันเสมอ
    ฉันประหลาดใจที่คุณยังไม่ได้ทิ้งฉันไปไหน

    I get mad
    I break things, mistake things, my temper’s bad
    But you’re still here with me, why do you do that?
    Impatient, but you’re patient with me

    ฉันโกรธ
    ฉันทำลายทุกสิ่ง ทำทุกอย่างให้ผิดพลาด มันเป็นนิสัยที่ไม่ดีของฉัน
    แต่คุณก็ยังคงอยู่กับฉัน ทำไมคุณแบบนั้นละ
    ฉันเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่คุณก็อดทนกับฉันเสมอ

    I get mad (You know)
    I hide things and say things I can’t take back
    I push you away, why do I do that?
    Impatient, but you’re patient with me
    And I’m surprised you haven’t left me yet
    I get mad (I get mad)
    I hide things and say things I can’t take back
    I push you away, why do I do that?
    Impatient, but you’re patient with me
    And I’m surprised you haven’t left me yet

    เมื่อฉันโกรธ
    ฉันปกปิดเรื่องต่างๆ และพูดในสิ่งไม่ทันยังคิด
    ฉันไล่คุณไป ฉันทำแบบนั้นทำไมกัน
    ฉันเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่คุณก็อดทนกับฉันเสมอ
    ฉันประหลาดใจที่คุณยังไม่ได้ทิ้งฉันไปไหน
    เมื่อฉันโกรธ
    ฉันปกปิดเรื่องต่างๆ และพูดในสิ่งไม่ทันยังคิด
    ฉันไล่คุณไป ฉันทำแบบนั้นทำไมกัน
    ฉันเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่คุณก็อดทนกับฉันเสมอ
    ฉันประหลาดใจที่คุณยังไม่ได้ทิ้งฉันไปไหน

  • แปลเพลง All the Time – Zara Larsson


    All the Time เป็นเพลงของนักร้องและนักเขียนเพลงหญิงชาวสวีเดน Zara Larsson เพลงได้เปิดตัวใน 21 มิถุนายน 2019 เป็นซิงเกิลที่สี่จากอัลบั้มสตูดิโอที่กำลังจะเปิดตัวในปีนี้ของเธอ โดยได้เปิดตัวผ่านทางค่ายเพลง TEN Music Group และ Epic Records เพลงได้ร่วมเขียนโดย Larsson, Noonie Bao, D McKee และ Ilsey Juber ในขณะที่การดำเนินการผลิตนั้นควบคุมโดย Linus Wiklund ในเนื้อเพลงนั้นพูดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับคนรักของเธอที่ตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว นั่นมันทำให้เธอคิดถึงเขาตลอดเวลา วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    From the breaking of the day to the middle of night
    From the breaking of the day to the middle of night
    From the breaking of the day to the middle of night
    From the breaking of the day to the middle of night

    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน
    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน
    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน
    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน

    Summertime and I’m caught in the feeling
    Getting high and I’m up on the ceiling
    I don’t know what you’re doing in New York
    All I know is you ain’t on my bedroom floor

    วันหนึ่งในฤดูร้อน ฉันคิดว่าฉันคิดถึงคุณเข้าแล้วละ
    ฉันกำลังเมาได้ที่ และกำลังจะเมาถึงขีดสุดแล้ว
    ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรในนิวยอร์ก
    ทั้งหมดที่ฉันรู้คือ คุณไม่ได้อยู่บนเตียงนอนของฉัน

    I’m seein’ you undressed in my room
    But it’s just a memory, a fantasy
    Are you in your house? Are you going out?
    Are you going crazy like me?
    From the breaking of the day to the middle of the night

    ฉันเห็นคุณไม่ใส่เสื้อผ้าในห้องของฉัน
    แต่มันเป็นเพียงความทรงจำในจินตนาการของฉัน
    คุณอยู่บ้านของคุณไหม คุณจะออกไปไหนหรือเปล่า
    คุณกำลังจะบ้าเหมือนฉันหรือเปล่า
    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน

    I try to forget about you, baby
    And I die when I think of you with someone else and
    I don’t know why, I don’t know why you’re dancing in my mind
    From the breaking of the day to the middle of the night
    All the time
    From the breaking of the day to the middle of the night
    All the time

    ฉันพยายามที่จะลืมคุณ ที่รัก
    และฉันเหมือนตายทั้งเป็นเมื่อคิดถึงคุณกำลังอยู่กับคนอื่น
    และฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงเห็นคุณกำลังเต้นรำในหัวของฉัน
    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน
    และตลอดเวลา
    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน
    และตลอดเวลา

    Everyone’s been wearing your perfume
    Everything is reminding me of you
    I don’t know what I’m doing in New York
    But all I know is you ain’t walking through the door

    ทุกคนต่างก็ใส่น้ำหอมของคุณ
    ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นทำให้ฉันนึกถึงคุณ
    ฉันไม่รู้ว่าฉันมาทำอะไรในนิวยอร์ก
    แต่ทั้งหมดที่ฉันรู้คือไม่มีคุณเดินผ่านหน้าประตูแล้ว

    I’m seein’ you undressed in my room
    But it’s just a memory, a fantasy
    Are you in your house? Are you going out?
    Are you going crazy like me?
    From the breaking of the day to the middle of the night

    ฉันเห็นคุณไม่ใส่เสื้อผ้าในห้องของฉัน
    แต่มันเป็นเพียงความทรงจำในจินตนาการของฉัน
    คุณอยู่บ้านของคุณไหม คุณจะออกไปไหนหรือเปล่า
    คุณกำลังจะบ้าเหมือนฉันหรือเปล่า
    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน

    I try to forget about you, baby
    And I die when I think of you with someone else and
    I don’t know why, I don’t know why you’re dancing in my mind
    From the breaking of the day to the middle of the night
    I try to forget about you, baby
    And I die when I think of you with someone else and
    I don’t know why, I don’t know why you’re dancing in my mind
    From the breaking of the day to the middle of the night (Yeah)

    ฉันพยายามที่จะลืมคุณ ที่รัก
    และฉันเหมือนตายทั้งเป็นเมื่อคิดถึงคุณกำลังอยู่กับคนอื่น
    และฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงเห็นคุณกำลังเต้นรำในหัวของฉัน
    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน
    ฉันพยายามที่จะลืมคุณ ที่รัก
    และฉันเหมือนตายทั้งเป็นเมื่อคิดถึงคุณกำลังอยู่กับคนอื่น
    และฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงเห็นคุณกำลังเต้นรำในหัวของฉัน
    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน

    And I wonder if you think about me, too
    Where we used to go, what we used to do
    And I wonder if you’re crying out inside, oh yeah
    (From the breaking of the day to the middle of the night)
    (From the breaking of the day to the middle of the night)
    Oh whoa
    From the breaking of the day to the middle of the night

    และฉันสงสัยเหลือเกินว่าคุณจะคิดถึงฉันบ้างไหม
    ในที่ที่เราเคยไป ในสิ่งที่เราเคยทำ
    และฉันสงสัยว่าคุณจะร้องไห้หาฉันไหม โอ้ ใช่แล้ว
    (จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน)
    (จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน)
    โอ้ โว้ว
    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน

    I try to forget about you, baby (I try)
    And I die when I think of you with someone else and
    I don’t know why (I don’t know why)
    I don’t know why you’re dancing in my mind (Yeah)
    From the breaking of the day to the middle of the night
    I try to forget about you, baby (Baby, baby)
    And I die when I think of you with someone else and
    I don’t know why, I don’t know why you’re dancing in my mind
    From the breaking of the day to the middle of the night
    All the time
    From the breaking of the day to the middle of the night
    All the time
    From the breaking of the day to the middle of the night

    ฉันพยายามที่จะลืมคุณ ที่รัก
    และฉันเหมือนตายทั้งเป็นเมื่อคิดถึงคุณกำลังอยู่กับคนอื่น
    และฉันไม่รู้ว่าทำไม
    ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงเห็นคุณกำลังเต้นรำในหัวของฉัน
    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน
    ฉันพยายามที่จะลืมคุณ ที่รัก
    และฉันเหมือนตายทั้งเป็นเมื่อคิดถึงคุณกำลังอยู่กับคนอื่น
    ฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงเห็นคุณกำลังเต้นรำในหัวของฉัน
    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน
    และตลอดเวลา
    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน
    และตลอดเวลา
    จากเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน