Category: Uncategorized

  • ZAYN – Let Me แปลเพลงสากล


    เพลง Let Me เป็นเพลงใหม่ของนักร้องอังกฤษสุดหล่อ ZAYN ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2018 เพลงนี้ถูกเขียนโดย Michael Hannides, Anthony Hannides, Zayn และ Khaled Rohaim

    เสียงไพเราะของ ZAYN บวกกับดนตรีแนว R&B และเนื้อเพลงที่แสนจะโรแมนติก บอกความในใจของชายหนุ่มว่าจะดููแลคนรักของเขาไปตลอดชีวิต จะทำให้คุณหลงรักเพลงนี้อย่างแน่นอน ไปแปลเพลงนี้กันเลยจ้า


    Sweet baby, our sex has meaning
    Know this time you’ll stay ’til the morning
    Duvet days and vanilla ice cream
    More than just one night together exclusively

    ที่รัก เซ็กของเรามีความหมายนะ
    ผมรู้คืนนี้คุณจะค้างที่นี้จนถึงเช้า
    ผ้านวมและไอศรีมวนิลา (น่าจะบรรยายบรรยากาศภายในห้อง)
    มาทำให้คืนนี้กลายเป็นคืนที่แสนพิเศษสำหรับเรา

    Baby, let me be your man
    So I can love you
    And if you let me be your man
    Then I’ll take care of you, you

    ที่รัก อนุญาตให้ผมเป็นคนรักของคุณเถอะ
    ผมถึงจะสามารถรักคุณได้
    ถ้าผมได้เป็นคนของรักของคุณ
    ผมจะดูแลคุณ

    For the rest of my life, for the rest of yours
    For the rest of my life, for the rest of yours
    For the rest of ours

    ไปตลอดชีวิตของผม ตลอดชีวิตของคุณ
    ไปตลอดชีวิตของผม ตลอดชีวิตของคุณ
    ตลอดชีวิตของเรา


    ผู้แปล: ถ้าได้เป็นแฟนก็จะคอยดูแลคุณตลอดไป ตลอดลมหายใจฉันจะหมดเลยทีเดียว (for the rest of my life)

    We’re drinking the finest label
    Dirty dancing on top of the table
    Long walks on the beach in April (beach in April)
    Yeah, I promise, darling, that I’ll be faithful (be faithful)

    เรากำลังดื่มเครื่องดื่มที่ดีที่สุด
    เต้นกันอย่างเมามันส์บนโต๊ะ
    ต่อด้วยเดินชิวๆ บนชายหาดเดือนเมษา
    ที่รัก ผมสัญญา ผมจะซื่อสัตย์กับคุณคนเดียว (รักคุณคนเดียว)

    Baby, let me be your man (let me be your man)
    So I can love you (I can love you)
    And if you let me be your man (let me be your man)
    Then I’ll take care of you (I can love you)

    ที่รัก อนุญาตให้ผมเป็นคนรักของคุณเถอะ
    ผมถึงจะสามารถรักคุณได้
    ถ้าผมได้เป็นคนของรักของคุณ
    ผมจะดูแลคุณ

    For the rest of my life, for the rest of yours
    For the rest of my life, for the rest of yours
    For the rest of ours

    ไปตลอดชีวิตของผม ตลอดชีวิตของคุณ
    ไปตลอดชีวิตของผม ตลอดชีวิตของคุณ
    ตลอดชีวิตของเรา

    Give me your body and let me love you like I do
    Come a little closer and let me do those things to you
    This feeling will last forever, baby, that’s the truth
    Let me be your man so I can love you

    ยกร่างกายคุณให้ผมเถอะ ให้ผมได้รักคุณในแบบของผม
    ขยับเข้ามาใกล้ผมอีกนิด ขอให้ผมได้ใกล้ชิดกับคุณ
    ความรู้สึกนี้จะอยู่กับเราตลอดไป ที่รัก มันคือความจริง
    ให้ผมได้เป็นคนรักของคุณเถอะ ผมถึงจะรักคุณได้

    Baby, let me be your man (let me be your man)
    So I can love you (I can love you)
    And if you let me be your man (let me be your man)
    Then I’ll take care of you, you (I can love you)

    ที่รัก อนุญาตให้ผมเป็นคนรักของคุณเถอะ
    ผมถึงจะสามารถรักคุณได้
    ถ้าผมได้เป็นคนของรักของคุณ
    ผมจะดูแลคุณ

    For the rest of my life, for the rest of yours
    (For the rest of my life, for the rest of yours)
    For the rest of my life, for the rest of yours
    (For the rest of my life, for the rest of yours)
    For the rest of ours (for the rest of ours)

    ไปตลอดชีวิตของผม ตลอดชีวิตของคุณ
    (ไปตลอดชีวิตของผม ตลอดชีวิตของคุณ)
    ไปตลอดชีวิตของผม ตลอดชีวิตของคุณ
    (ไปตลอดชีวิตของผม ตลอดชีวิตของคุณ)
    ตลอดชีวิตของเรา

  • Ed Sheeran – Lego House แปลเพลงสากล


    เพลง Lego Hose ร้องโดย Ed Sheeran เป็นอีกเพลงที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพลงนี้ถูกเขียนโดย Sheeran, Jake Gosling and Chris Leonard และได้ Jake Gosling เป็นโปรดิวเซอร์ มิวสิควิดีโอของเพลงนี้นำแสดงโดย Rupert Grint ที่รับบทเป็น stalker (คนที่คอยติดตามคนอื่นอยู่ตลอดเวลา) แต่เพลงนี้ไม่ได้สื่อถึงความโรคจิตที่ไล่ตามชาวบ้านนะคะ เพลงนี้สื่อถึงการแก้ไขความสัมพันธ์ที่ได้พังลงไปแล้วให้กลับมาใหม่ค่ะ ไปแปลกันเลยค่ะ


    I’m gonna pick up the pieces
    And build a Lego house
    If things go wrong we can knock it down
    My three words have two meanings
    There’s one thing on my mind
    It’s all for you

    ฉันกำลังหยิบชิ้นส่วนของเลโก้ขึ้นมา
    เพื่อที่จะสร้างบ้านเลโก้
    ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาด ฉันสามารถพังมันลงมาได้ (สร้างมันใหม่อีกครั้ง)
    มีสามคำ(ฉันรักคุณ) คำนี้มีสองความหมาย
    แต่หนึ่งความหมายที่อยู่ในใจฉันคือความรัก
    และความรู้สึกทั้งหมดนั้นฉันมอบให้กับคุณ


    ผู้แปล: เพลง Lego house เป็นการเปรียบเทียบความสัมพันธ์คนเรากับบ้านเลโก้
    การสร้างบ้านเลโก้ต้องใช้เวลานานในการต่อให้เป็นรูปร่าง และหากมันพังขึ้นมาต้องใช้เวลาในการประกอบขึ้นมาใหม่ให้เหมือนเดิม ในบางครั้งไม่สามารถประกอบกลับมาเหมือนเดิมได้อีกต่อไป เหมือนกับความสัมพันธ์ที่ต้องใช้เวลาในการสร้างความทรงจำร่วมกัน หากไม่เข้าใจกัน ความสัมพันธ์นั้นก็พังลงได้ บางครั้งเราอาจซ่อมความสัมพันธ์นั้นให้กลับมาดีเหมือนเดิมได้ แต่บางครั้งเราอาจต้องสูญเสียคนที่เรารักไป
    สามคำสองความหมายคือคำว่า ฉันรักคุณแบบเพื่อน/ฉันรักคุณแบบคนรัก และเป็นความรู้สึกรักแท้ที่มอบให้กับเธอเพียงคนเดียว

    And it’s dark in a cold December
    But I’ve got you to keep me warm
    And if you’re broken I’ll mend you
    And keep you sheltered from the storm that’s raging on now

    อากาศหนาวในเดือนธันวาคม
    ฉันได้คุณที่ช่วยให้ความอบอุ่น
    และเมื่อคุณรู้สึกแย่ ฉันจะดูแลคุณเอง
    ฉันจะอยู่เป็นที่พักพิงให้คุณจากพายุที่ตกลงมาตอนนี้


    ผู้แปล: ความอบอุ่นของเธอช่วยให้ Ed ผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากไปได้ ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอรู้สึกแย่หรือเสียใจ Ed เต็มใจที่จะปกป้องและดูแลเธอ (พายุหมายถึงอารมณ์หรือเรื่องราวไม่ดีที่เข้ามา)

    I’m out of touch, I’m out of love
    I’ll pick you up when you’re getting down
    And out of all these things I’ve done
    I think I love you better now
    I’m out of sight, I’m out of mind
    I’ll do it all for you in time
    And out of all these things I’ve done
    I think I love you better now

    ฉันไม่ได้ติดต่อใคร ฉันไม่ได้รักใคร เพราะฉันมีแค่คุณ
    เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณแย่ ฉันจะช่วยให้คุณก้าวผ่านมันไปได้
    และจากทั้งหมดที่ฉันได้ทำ
    ฉันคิดว่าฉันรักคุณมากขึ้น
    ฉันลืมเรื่องราวที่ไม่ดีทั้งหมดไปแล้ว
    ฉันพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อคุณ
    และจากทั้งหมดที่ฉันได้ทำ
    ฉันคิดว่าฉันรักคุณมากขึ้น


    ผู้แปล:I think i love you better now แสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ของ Ed และแฟนเมื่อก่อนมีปัญหา จากนั้น Ed ได้พยายามปรับตัว ทำให้เขารักเธอมากกว่าเดิม

    I’m gonna paint you by numbers
    And colour you in
    If things go right we can frame it
    And put you on a wall
    And it’s so hard to say it
    But I’ve been here before
    Now I’ll surrender up my heart
    And swap it for yours

    ฉันจะเขียนหมายเลขไว้บนตัวคุณ
    และระบายสี
    ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ดี เราจะใส่กรอบ
    ติดไว้ที่ผนังบ้าน
    มันยากมากที่จะพูดมันออกมา
    แต่ฉันเคยผ่านมันมาก่อน
    และตอนนี้ฉันยกหัวใจทั้งหมด
    ให้กับคุณ


    ผู้แปล: Ed เปรียบเทียบความสัมพันธ์กับการระบายสีรูปภาพ เขามองว่าเธอเป็นเหมือนชิ้นส่วนของภาพที่สวยงาม หากความสัมพันธ์ของเธอกับเขาไปด้วยกันได้ดี เขาก็อยากประกาศความสัมพันธ์นี้ให้ทุกคนได้รับรู้ อาจหมายถึงแต่งงานกับเธอ
    Ed รู้สึกว่ามันยากที่จะบอกคนรักของเขาว่า เขาเคยผ่านความรู้สึกตกหลุมรักและผิดหวังมาก่อน แต่เขายังอยากที่จะลองรักกับเธอ ดังนั้นเขาจึงยกหัวใจให้เธอและหวังว่าเธอจะให้ความรักกลับมา

    I’m out of touch, I’m out of love
    I’ll pick you up when you’re getting down
    And out of all these things I’ve done
    I think I love you better now
    I’m out of sight, I’m out of mind
    I’ll do it all for you in time
    And out of all these things I’ve done
    I think I love you better now

    ฉันไม่ได้ติดต่อใคร ฉันไม่ได้รักใคร เพราะฉันมีแค่คุณ
    เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณแย่ ฉันจะช่วยให้คุณก้าวผ่านมันไปได้
    และจากทั้งหมดที่ฉันได้ทำ
    ฉันคิดว่าฉันรักคุณมากขึ้น
    ฉันลืมเรื่องราวที่ไม่ดีทั้งหมดไปแล้ว
    ฉันพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อคุณ
    และจากทั้งหมดที่ฉันได้ทำ
    ฉันคิดว่าฉันรักคุณมากขึ้น

    Don’t hold me down
    I think the braces are breaking and it’s more than I can take

    โปรดอย่าปล่อยมือจากความรักครั้งนี้
    เพราะฉันคงทนไม่ไหว ถ้าขาดคุณ

    And it’s dark in a cold December, but I’ve got you to keep me warm
    If you’re broken I’ll mend you
    And keep you sheltered from the storm that’s raging on now

    อากาศหนาวในเดือนธันวาคม ฉันได้คุณที่ช่วยให้ความอบอุ่น
    และเมื่อคุณรู้สึกแย่ ฉันจะดูแลคุณเอง
    ฉันจะอยู่เป็นที่พักพิงให้คุณจากพายุที่ตกลงมาตอนนี้

    I’m out of touch, I’m out of love
    I’ll pick you up when you’re getting down
    And out of all these things I’ve done
    I think I love you better now
    I’m out of sight, I’m out of mind
    I’ll do it all for you in time
    And out of all these things I’ve done
    I think I love you better now

    ฉันไม่ได้ติดต่อใคร ฉันไม่ได้รักใคร เพราะฉันมีแค่คุณ
    เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณแย่ ฉันจะช่วยให้คุณก้าวผ่านมันไปได้
    และจากทั้งหมดที่ฉันได้ทำ
    ฉันคิดว่าฉันรักคุณมากขึ้น
    ฉันลืมเรื่องราวที่ไม่ดีทั้งหมดไปแล้ว
    ฉันพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อคุณ
    และจากทั้งหมดที่ฉันได้ทำ
    ฉันคิดว่าฉันรักคุณมากขึ้น

    I’m out of touch, I’m out of love
    I’ll pick you up when you’re getting down
    And out of all these things I’ve done
    I will love you better now

    ฉันไม่ได้ติดต่อใคร ฉันไม่ได้รักใคร เพราะฉันมีแค่คุณ
    เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณแย่ ฉันจะช่วยให้คุณก้าวผ่านมันไปได้
    และจากทั้งหมดที่ฉันได้ทำ
    ฉันคิดว่าฉันรักคุณมากขึ้น


    out of sight, out of mind – ลืมสิ่งของหรือคนที่ไม่ได้เห็นมานาน

  • Katy Perry – Roar แปลเพลงสากล


    Roar นั้นเป็นเพลงของนักร้องหญิงชาวอเมริกัน Katy Perry สำหรับอัลบั้มที่สี่จากสตูดิโอของเธอ Prism (2013) มันถูกเปิดตัวเป็นซิงเกิ้ล 10 สิงหาคม 2013 โดย Perry ได้เขียนเพลงนี้ขึ้นมากับ Bonnie McKee และผู้อำนวยการผลิตอย่าง Dr. Luke, Max Martin และ Cirkut มันเป็นเพลงป็อปที่ประกอบไปด้วยจังหวะของ arena rock และมีเนื้อร้องเกี่ยวกับการยืนด้วยขาและความสามารถของตัวเอง วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    I used to bite my tongue and hold my breath
    Scared to rock the boat and make a mess
    So I sat quietly, agreed politely
    I guess that I forgot I had a choice
    I let you push me past the breaking point
    I stood for nothing, so I fell for everything

    ฉันเคยกัดลิ้นของตัวเองและกลั้นลมหายใจของฉัน
    กลัวที่จะโยกเรือและทำความยุ่งเหยิง
    ดังนั้น ฉันจึงนั่งเงียบ ๆ เห็นด้วยอย่างสุภาพ
    ฉันเดาว่าฉันลืมไปว่าฉันมีทางเลือก
    ฉันให้คุณผลักดันให้ฉันผ่านจุดแตกหัก
    ฉันยืนอยู่โดยที่ไม่มีอะไร ฉันล้มเหลวสำหรับทุกอย่าง

    You held me down, but I got up (hey!)
    Already brushing off the dust
    You hear my voice, your hear that sound
    Like thunder, gonna shake the ground
    You held me down, but I got up
    Get ready ’cause I had enough
    I see it all, I see it now

    คุณฉุดฉันลง แต่ฉันลุกขึ้นมา (เฮ้!)
    ได้ใช้แปรงปัดฝุ่นออกไปแล้ว
    คุณได้ยินเสียงของฉัน คุณได้ยินเสียงนั่น
    เหมือนฟ้าร้อง ที่จะทำให้พื้นสั่นสะเทือน
    คุณฉุดฉันลง แต่ฉันลุกขึ้นมา
    ฉันพร้อมและนั่นมันเพียงพอแล้ว
    ฉันเห็นมันทั้งหมด ฉันเห็นมันแล้วตอนนี้

    I got the eye of the tiger, a fighter
    Dancing through the fire
    ‘Cause I am a champion, and you’re gonna hear me roar
    Louder, louder than a lion
    ‘Cause I am a champion, and you’re gonna hear me roar!

    ฉันได้รับสายตาของเสือ นักสู้
    การเต้นรำผ่านไฟ
    เพราะฉันคือแชมป์เปี้ยน และคุณจะได้ยินเสียงฉันคำราม
    ดังกว่า ดังกว่าสิงโต
    เพราะฉันคือแชมป์เปี้ยน และคุณจะได้ยินเสียงฉันคำราม

    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    You’re gonna hear me roar!

    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    คุณจะได้ยินเสียงฉันคำราม

    Now I’m floating like a butterfly
    Stinging like a bee I earned my stripes
    I went from zero, to my own hero

    ตอนนี้ฉันกำลังล่องลอยอยู่เหมือนผีเสื้อ
    ต่อสู้เหมือนผึ้ง ฉันได้รับสัญชาติญาณของฉัน
    ฉันเดินจากศูนย์ ไปเป็นวีรบุรุษ

    You held me down, but I got up (hey!)
    Already brushing off the dust
    You hear my voice, your hear that sound
    Like thunder, gonna shake the ground
    You held me down, but I got up
    Get ready ’cause I’ve had enough
    I see it all, I see it now

    คุณฉุดฉันลง แต่ฉันลุกขึ้นมา (เฮ้!)
    ได้ใช้แปรงปัดฝุ่นออกไปแล้ว
    คุณได้ยินเสียงของฉัน คุณได้ยินเสียงนั่น
    เหมือนฟ้าร้อง ที่จะทำให้พื้นสั่นสะเทือน
    คุณฉุดฉันลง แต่ฉันลุกขึ้นมา
    ฉันพร้อมและนั่นมันเพียงพอแล้ว
    ฉันเห็นมันทั้งหมด ฉันเห็นมันแล้วตอนนี้

    I got the eye of the tiger, a fighter
    Dancing through the fire
    ‘Cause I am a champion, and you’re gonna hear me roar
    Louder, louder than a lion
    ‘Cause I am a champion, and you’re gonna hear me roar!

    ฉันได้รับสายตาของเสือ นักสู้
    การเต้นรำผ่านไฟ
    เพราะฉันคือแชมป์เปี้ยน และคุณจะได้ยินเสียงฉันคำราม
    ดังกว่า ดังกว่าสิงโต
    เพราะฉันคือแชมป์เปี้ยน และคุณจะได้ยินเสียงฉันคำราม

    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    You’re gonna hear me roar!

    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    คุณจะได้ยินเสียงฉันคำราม

    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    You’re gonna hear me roar!

    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    คุณจะได้ยินเสียงฉันคำราม

    Roar, roar, roar, roar, roar!

    คำราม คำราม คำราม คำราม คำราม

    I got the eye of the tiger, a fighter
    Dancing through the fire
    ‘Cause I am a champion, and you’re gonna hear me roar
    Louder, louder than a lion
    ‘Cause I am a champion, and you’re gonna hear me roar!

    ฉันได้รับสายตาของเสือ นักสู้
    การเต้นรำผ่านไฟ
    เพราะฉันคือแชมป์เปี้ยน และคุณจะได้ยินเสียงฉันคำราม
    ดังกว่า ดังกว่าสิงโต
    เพราะฉันคือแชมป์เปี้ยน และคุณจะได้ยินเสียงฉันคำราม

    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    You’re gonna hear me roar!

    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    คุณจะได้ยินเสียงฉันคำราม

    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    Oh oh oh oh oh oh oh oh
    You’re gonna hear me roar!

    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้
    คุณจะได้ยินเสียงฉันคำราม

  • Imagine Dragons – Whatever It Takes แปลเพลงสากล


    Whatever It Takes นั้นเป็นเพลงของวงดนตรีร็อคอเมริกัน Imagine Dragons เพลงได้เปิดตัวเมื่อ 8 พฤษภาคม 2017 เป็นการโปรโมทซิงเกิ้ลผ่านจาก Kidinakorner และ Interscope และในภายหลัง มันก็ได้มาเป็นซิงเกิ้ลที่สามจากอัลบั้มที่สามของวง Evolve ที่เปิดตัวเมื่อ 6 ตุลาคม 2017 และมันยังถูกนำไปใช้เป็นธีมเพลงอย่างเป็นทางการของงาน PPV Battleground ของ WWE นอกจากนี้มันยังถูกนำไปใช้ในวิดีโอเกม Madden NFL 18 และเพลงได้ถูกส่งไปยัง US contemporary hit radio เมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2018 และใน 20 มีนาคม 2018 เพลงได้พุ่งติดอันดับที่ 23 บน Billboard Hot 100 วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน ซึ่งมันมีความหมายในการให้ข้อคิดและแรงบันดาลใจ


    Falling too fast to prepare for this
    Tripping in the world could be dangerous
    Everybody circling, it’s vulturous
    Negative, nepotist

    มันล้มเหลวเร็วเกินกว่าที่เราจะตั้งตัวได้
    การผจญภัยในโลกนี้สามารถเป็นอันตราย
    ทุกคนต่างห้อมล้อม และแย่งชิงกัน
    มีการต่อต้าน และการแบ่งผ่าย

    Everybody waiting for the fall of man
    Everybody praying for the end of times
    Everybody hoping they could be the one
    I was born to run, I was born for this

    ทุกคนรอคอยการล้มเหลวของมนุษย์
    ทุกคนอธิฐานให้ถึงจุดจบของเวลา
    ทุกคนหวังว่าพวกเขาจะได้เป็นที่หนึ่ง
    ฉันเกิดมาเพื่อสู้ ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้

    Whip, whip
    Run me like a racehorse
    Pull me like a ripcord
    Break me down and build me up
    I wanna be the slip, slip
    Word upon your lip, lip
    Letter that you rip, rip
    Break me down and build me up

    วิป วิป (เสียงฟาดด้วยแส้)
    ฉันถูกไล่เหมือนม้าแข่ง
    ดึงฉันเหมือนสายดึงร่มชูชีพ
    ทำลายฉันลง และสร้างฉันขึ้นมาใหม่
    ฉันต้องการเป็นคำพูดที่หลุดลอย
    คำพูดที่ออกมาปากของคุณ
    เป็นจดหมายที่คุณฉีก
    ทำลายฉันลง และสร้างฉันขึ้นมาใหม่

    Whatever it takes
    ‘Cause I love the adrenaline in my veins
    I do whatever it takes
    ‘Cause I love how it feels when I break the chains
    Whatever it takes
    You take me to the top I’m ready for
    Whatever it takes
    ‘Cause I love the adrenaline in my veins
    I do what it takes

    ไม่ว่าอะไรก็ตาม
    เพราะฉันมีความตื่นเต้นในสายเลือดของฉัน
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตามฉันจะทำ
    เพราะว่าฉันรักความรู้สึกในตอนที่ฉันได้ทำลายกฏเกณฑ์
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
    คุณช่วยพาฉันขึ้นไปข้างบน ฉันพร้อมแล้ว
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
    เพราะฉันมีความตื่นเต้นในสายเลือดของฉัน
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตามฉันจะทำ

    Always had a fear of being typical
    Looking at my body feeling miserable
    Always hanging on to the visual
    I wanna be invisible

    มีความกลัวที่จะต้องมาเป็นคนที่โดดเด่น
    ดูที่ร่างกายของฉันสิ มันน่าสังเวชนัก
    กำลังติดอยู่ในภาพลวงตาเสมอมา
    ฉันไม่อยากที่จะมีตัวตน

    Looking at my years like a martyrdom
    Everybody needs to be a part of ’em
    Never be enough, I’m the prodigal son
    I was born to run, I was born for this

    ดูวันเวลาของฉันแล้วมันทุกทรมานมาก
    ทุกคนต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา
    ไม่เคยที่จะเพียงพอเลย ฉันเป็นคนที่ฟุ่มเฟือย
    ฉันเกิดมาเพื่อสู้ ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้

    Whip, whip
    Run me like a racehorse
    Pull me like a ripcord
    Break me down and build me up
    I wanna be the slip, slip
    Word upon your lip, lip
    Letter that you rip, rip
    Break me down and build me up

    วิป วิป
    ฉันถูกไล่เหมือนม้าแข่ง
    ดึงฉันเหมือนสายดึงร่มชูชีพ
    ทำลายฉันลง และสร้างฉันขึ้นมาใหม่
    ฉันต้องการเป็นคำพูดที่หลุดลอย
    คำพูดที่ออกมาปากของคุณ
    เป็นจดหมายที่คุณฉีก
    ทำลายฉันลง และสร้างฉันขึ้นมาใหม่

    Whatever it takes
    ‘Cause I love the adrenaline in my veins
    I do whatever it takes
    ‘Cause I love how it feels when I break the chains
    Whatever it takes
    You take me to the top, I’m ready for
    Whatever it takes
    ‘Cause I love the adrenaline in my veins
    I do what it takes

    ไม่ว่าอะไรก็ตาม
    เพราะฉันมีความตื่นเต้นในสายเลือดของฉัน
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตามฉันจะทำ
    เพราะว่าฉันรักความรู้สึกในตอนที่ฉันได้ทำลายกฏเกณฑ์
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
    คุณช่วยพาฉันขึ้นไปข้างบน ฉันพร้อมแล้ว
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
    เพราะฉันมีความตื่นเต้นในสายเลือดของฉัน
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตามฉันจะทำ

    Hypocritical, egotistical
    Don’t wanna be the parenthetical, hypothetical
    Working onto something that I’m proud of, out of the box
    An epoxy to the world and the vision we’ve lost
    I’m an apostrophe
    I’m just a symbol to remind you that there’s more to see
    I’m just a product of the system, a catastrophe
    And yet a masterpiece, and yet I’m half-diseased
    And when I am deceased
    At least I go down to the grave and die happily
    Leave the body and my soul to be a part of thee
    I do what it takes

    หลอกลวง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง
    ฉันไม่อยากอยู่ในกรอบของการหลอกลวง
    ฉันจะทำในสิ่งที่ฉันพอใจกับมัน ไม่อยู่ในกล่อง
    การยึดติดกับโลกและการมองเห็นที่เราได้สูญเสียไป
    ฉันคือจุดเล็กๆ
    ฉันเป็นแค่เครื่องหมายที่จะเตือนคุณว่ามันยังมีสิ่งที่คุณต้องเห็นอีกมากในโลกนี้
    ฉันเป็นแค่ผลผลิตของระบบแห่งความวิบัติ
    และแน่นอนฉันโดดเด่น และเป็นครึ่งคนป่วย
    และเมื่อฉันสูญสิ้น
    อย่างน้อยฉันก็ได้นอนลงไปยังหลุมฝังศพและตายอย่างมีความสุข
    ทิ้งร่างกายของฉันให้เป็นส่วนหนึ่งของพระองค์
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตามฉันจะทำ

    Whatever it takes
    ‘Cause I love the adrenaline in my veins
    I do whatever it takes
    ‘Cause I love how it feels when I break the chains
    Whatever it takes
    You take me to the top, I’m ready for
    Whatever it takes
    ‘Cause I love the adrenaline in my veins
    I do what it takes

    ไม่ว่าอะไรก็ตาม
    เพราะฉันมีความตื่นเต้นในสายเลือดของฉัน
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
    เพราะว่าฉันรักความรู้สึกในตอนที่ฉันได้ทำลายกฏเกณฑ์
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
    คุณช่วยพาฉันขึ้นไปข้างบน ฉันพร้อมแล้ว
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
    เพราะฉันมีความตื่นเต้นในสายเลือดของฉัน
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตามฉันจะทำ

  • Justin Bieber – Love Yourself แปลเพลงสากล


    Love Yourself เป็นเพลงที่ถูกร้องโดยนักร้องชาวแคนาดาที่มีชื่อว่า Justin Bieber เพลงนี้อยู่ในอัลบั้ม Purpose (2015) เป็นอัลบั้มที่ 4 ของจัสติน เพลงนี้เป็นเพลงที่ 3 ในอัลบั้มและถูกปล่อยออกมาครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2015 เพลงถูกเขียนขึ้นโดย  Ed Sheeran, Benny Blanco and Bieber และผลิตโดย Blanco เป็นเพลงแนว  acoustic pop เสน่ห์ของเพลงนี้คือดนตรีที่สร้างจาก กีตาร์ไฟฟ้าและทรัมเป็ต รวมถึงเนื้อเพลงกวนๆ ที่ควรมอบให้กับแฟนเก่า บวกกับเสียงไพเราะของจัสติน ส่งผลให้เพลง Love yourself ติดอันดับหนึ่งบน US Billboard Hot 100 และ UK Singles Chart ต่อเนื่องกันถึงสามครั้ง และเป็นเพลงขายดีอันดับที่ 7 ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2016 เพลงดังขนาดนี้ดังนั้นวันนี้เรามาแปลกันเถอะ!


    For all the times that you rained on my parade
    And all the clubs you get in using my name
    You think you broke my heart, oh girl for goodness sake
    You think I’m crying on my own, well I ain’t

    ทุกๆครั้งที่เธอเข้ามาขัดขวางความสุขของฉัน
    และชื่อฉันที่เธอเอาไปใช้เพื่อเข้าคลับ
    เธอคิดว่าทำฉันอกหัก โอ้ย เธอ ฉันหมดความอดทนกับเธอแล้วนะ!
    แล้วเธอยังคิดว่าฉันกำลังร้องไห้ เปล่าเลย ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น

    And I didn’t wanna write a song
    ‘Cause I didn’t want anyone thinking I still care
    I don’t but, you still hit my phone up
    And baby I’ll be moving on
    And I think you should be something
    I don’t wanna hold back
    Maybe you should know that

    ฉันไม่ต้องการแต่งเพลง
    เพราะไม่อยากให้คนอื่นคิดว่า ฉันยังแคร์เธออยู่
    ฉันไม่แคร์เธอแล้ว แต่เธอนั่นแหละ โทรมาหาฉันอีกทำไม
    ฉันจะก้าวไปข้างหน้า
    และคิดว่า เธอเป็นแค่สิ่งของ
    ที่ฉันไม่วันจะกลับไปครอบครองอีกเด็ดขาด
    และเธอควรรู้ว่า

    My mama don’t like you and she likes everyone
    And I never like to admit that I was wrong
    And I’ve been so caught up in my job, didn’t see what’s going on
    And now I know, I’m better sleeping on my own

    แม่ของฉันชอบทุกคนยกเว้นเธอ
    และฉันไม่เคยชอบที่ต้องมายอมรับว่า ฉันผิด
    และฉันทุ่มเทให้กับงานจนไม่ได้สนใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้น (น่าจะรวมถึง เรื่องราวของแฟนเก่าด้วย)
    และตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า ชีวิตตอนที่ไม่มีเธอ มันดีกว่าเดิม (นอนคนเดียวหลับสบายกว่า)

    ‘Cause if you like the way you look that much
    Oh baby you should go and love yourself
    And if you think that I’m still holding on to something
    You should go and love yourself

    ถ้าเธอคิดว่าการกระทำของเธอดีอยู่แล้ว (ไม่ยอมปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับคนที่รัก)
    ก็จงรักตัวเองเถอะ
    และถ้าคิดว่าฉันยังคงรักเธออยู่
    เธอก็ควรจะไปและรักตัวเองซะ

    But when you told me that you hated my friends
    The only problem was with you and not them
    And every time you told me my opinion was wrong
    And tried to make me forget where I came from

    ตอนที่เธอบอกว่าเกลียดเพื่อนของฉัน
    ตัวเธอเองนั้นแหละที่เป็นปัญหา ไม่ใช่เพื่อนของฉัน
    และทุกๆ ครั้งที่เธอบอกว่า ความคิดฉันมันไม่ถูกต้อง
    และพยายามที่จะทำให้ฉันลืมว่าฉันมาจากไหน (เธอพูดจาโน้มน้าวให้แฟนคิดแบบเดียวกับเธอ)

    And I didn’t wanna write a song
    ‘Cause I didn’t want anyone thinking I still care
    I don’t but, you still hit my phone up
    And baby I’ll be moving on
    And I think you should be something
    I don’t wanna hold back
    Maybe you should know that

    ฉันไม่ต้องการแต่งเพลง
    เพราะไม่อยากให้คนอื่นคิดว่า ฉันยังแคร์เธออยู่
    ฉันไมแคร์เธอแล้ว แต่เธอนั่นแหละ โทรมาหาฉันอีกทำไม
    ฉันจะก้าวไปข้างหน้า
    และคิดว่า เธอเป็นแค่สิ่งของ
    ที่ฉันไม่วันจะกลับไปครอบครองอีกเด็ดขาด
    และเธอควรรู้ว่า

    My mama don’t like you and she likes everyone
    And I never like to admit that I was wrong
    And I’ve been so caught up in my job, didn’t see what’s going on
    And now I know, I’m better sleeping on my own

    แม่ของฉันชอบทุกคนยกเว้นเธอ
    และฉันไม่เคยชอบที่ต้องมายอมรับว่า ฉันผิด
    และฉันทุ่มเทให้กับงานจนไม่ได้สนใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้น (น่าจะรวมถึง เรื่องราวของแฟนเก่าด้วย)
    และตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า ชีวิตตอนที่ไม่มีเธอ มันดีกว่าเดิม (นอนคนเดียวหลับสบายกว่า)

    ‘Cause if you like the way you look that much
    Oh baby you should go and love yourself
    And if you think that I’m still holding on to something
    You should go and love yourself

    ถ้าเธอคิดว่าการกระทำของเธอดีอยู่แล้ว (ไม่ยอมปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับคนที่รัก)
    ก็จงรักตัวเองเถอะ
    และถ้าคิดว่าฉันยังคงรักเธออยู่
    เธอก็ควรจะไปและรักตัวเองซะ

    For all the times you made me feel small
    I fell in love, now I feel nothin’ at all
    I never felt so low when I was vulnerable
    Was I a fool to let you break down my walls?

    ทุกครั้งที่คุณทำให้ฉันอับอายต่อหน้าคนอื่น
    ฉันเคยรักคุณ แต่ตอนนี้ไม่เหลือความรู้สึกอะไรแล้ว
    ฉันไม่เคยรู้สึกเสียใจ เมื่อฉันอ่อนแอ
    แต่ฉันโง่หรือเปล่าที่ปล่อยให้คุณเข้ามาในชีวิต?

    ‘Cause if you like the way you look that much
    Oh baby you should go and love yourself
    And if you think that I’m still holding on to something
    You should go and love yourself
    ‘Cause if you like the way you look that much
    Oh baby you should go and love yourself
    And if you think that I’m still holding on to something
    You should go and love yourself

    ถ้าเธอคิดว่าการกระทำของเธอดีอยู่แล้ว (ไม่ยอมปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับคนที่รัก)
    ก็จงรักตัวเองเถอะ
    และถ้าคิดว่าฉันยังคงรักเธออยู่
    เธอก็ควรจะไปและรักตัวเองซะ
    ถ้าเธอคิดว่าการกระทำของเธอดีอยู่แล้ว (ไม่ยอมปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับคนที่รัก)
    ก็จงรักตัวเองเถอะ
    และถ้าคิดว่าฉันยังคงรักเธออยู่
    เธอก็ควรจะไปและรักตัวเองซะ


    rain on (one’s) parade (idioms) – ขัดขวางแผนการหรือความสุขของคนอื่น

    goodness sake (pharse) – ใช้แสดงความรู้สึกเมื่อ รำคาญ หมดความอดทน เป็นกังวล หรือเซอร์ไพร์

    hold on to something (pharse)  – ยังคงรู้สึกหรือเชื่อในสิ่งนั้น (ในที่นี้หมายถึงรู้สึกรัก),  ถือไว้อย่างระมัดระวังกลัวตก, ไม่ยอมเสียสิ่งนั้น

    make someone feel small:
    If someone makes you feel small, they deliberately say or do something which makes you feel stupid, especially in front of other people
    พวกเขาจงใจพูดหรือทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองโง่/อับอายต่อหน้าคนอื่น
    ที่มา: https://idioms.thefreedictionary.com/make+feel+small

    หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยค่ะ

  • Zedd, Maren Morris, Grey – The Middle แปลเพลงสากล


    The Middle เป็นเพลงของศิลปินชาวรัสเซีบ Zedd นักร้องหญิงชาวอเมริกันอย่าง Maren Morris และนักดนตรีคู่ชาวอเมริกัน Grey โดยเพลงได้ถูกเขียนขึ้นโดย Jordan K. Johnson, Sarah Aarons, Zedd, Grey และ The Monsters and the Strangerz และควบคุมการผลิตโดย latter three เพลงได้เปิดตัวทางการค้าให้ดาวน์โหลดแบบดิจิตอลเมื่อ 23 มกราคม 2018 โดย Interscope Records มันได้ติด 10 อันดับแรกบรชาร์ติของอเมริกา อังกฤษ และในประเทศอื่นๆ อีกมากมาย วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Take a seat
    Right over there, sat on the stairs
    Stay or leave
    The cabinets are bare, and I’m unaware
    Of just how we got into this mess, got so aggressive
    I know we meant all good intentions

    นั่งลงสิ
    ตรงนั้นไง นั่งตรงบันไดนั่น
    จะอยู่นี่หรือออกไป
    ในตู้นั้นว่างเปล่าและฉันไม่ได้สังเกตุ
    ของการที่เราตกอยู่ในสภาพที่ยุ่งเหยิงนี้ มันดูก้าวร้าวมาก
    ฉันรู้ว่าความเจตนาทั้งหมดของเรานั้นมันเป็นความตั้งใจที่ดี

    So pull me closer
    Why don’t you pull me close?
    Why don’t you come on over?
    I can’t just let you go

    ดังนั้น ดึงฉันเข้าไปใกล้ๆ สิ
    ทำไมคุณไม่ดึงฉันเข้าไปใกล้ๆ ล่ะ
    ทำไมคุณไม่ขยับคุณไม่มาตรงนี้หละ
    ฉันแค่ไม่สามารถปล่อยให้คุณไปได้

    Oh baby, why don’t you just meet me in the middle?
    I’m losing my mind just a little
    So why don’t you just meet me in the middle?
    In the middle
    Baby, why don’t you just meet me in the middle?
    I’m losing my mind just a little
    So why don’t you just meet me in the middle?
    In the middle

    โอ้ที่รัก ทำไมคุณไม่มาพบฉันที่ตรงกลางละ (มาปรับทำความเข้าใจกันคนละครึ่งทาง)
    ฉันกำลังบ้าไปเล็กน้อยแล้วละ
    ดังนั้น ทำไมคุณไม่มาพบฉันที่ตรงกลางละ
    ที่ตรงกลาง
    ที่รัก ทำไมคุณไม่มาพบฉันที่ตรงกลางละ
    ฉันกำลังบ้าไปเล็กน้อยแล้วละ
    ดังนั้น ทำไมคุณไม่มาพบฉันที่ตรงกลางละ
    ที่ตรงกลาง

    Ohh, take a step
    Back for a minute, into the kitchen
    Floors are wet
    And taps are still running, dishes are broken
    How did we get into this mess? Got so aggressive
    I know we meant all good intentions

    โอ้ เดินต่อไป
    ขอเข้าไปในครัวสักนาที
    พื้นครัวนั้นเปียก
    และก๊อกยังคงไหลอยู่ จานทั้งหมดแตกหัก
    เราตกอยู่ในสภาพที่ยุ่งเหยิงนี้ได้อย่างไร มันดูก้าวร้าวมาก
    ฉันรู้ว่าความเจตนาทั้งหมดของเรานั้นมันเป็นความตั้งใจที่ดี

    So pull me closer
    Why don’t you pull me close
    Why don’t you come on over
    I can’t just let you go

    ดังนั้น ดึงฉันเข้าไปใกล้ๆ สิ
    ทำไมคุณไม่ดึงฉันเข้าไปใกล้ๆ ล่ะ
    ทำไมคุณไม่ขยับคุณไม่มาตรงนี้หละ
    ฉันแค่ไม่สามารถปล่อยให้คุณไปได้

    Oh baby, why don’t you just meet me in the middle?
    I’m losing my mind just a little
    So why don’t you just meet me in the middle?
    In the middle

    โอ้ที่รัก ทำไมคุณไม่มาพบฉันที่ตรงกลางละ
    ฉันกำลังบ้าไปเล็กน้อยแล้วละ
    ดังนั้น ทำไมคุณไม่มาพบฉันที่ตรงกลางละ
    ที่ตรงกลาง

    Looking at you, I can’t lie
    Just pouring out admission
    Regardless of my objection
    And it’s not about my pride
    I need you on my skin
    Just come over, pull me in, just

    มองดูคุณสิ ฉันโกหกไม่ได้หรอก
    แค่ไม่ต้องยอมรับอะไร
    ไม่ว่าฉันจะคัดค้านก็ตาม
    และมันไม่ได้เกี่ยวกับความภูมิใจของฉัน
    ฉันต้องการให้คุณมาอยู่ใกล้ฉัน
    แค่มาตรงนี้ แค่ดึงฉันเข้าไป

    Oh, baby, why don’t you just meet me in the middle
    I’m losing my mind just a little
    So why don’t you just meet me in the middle?
    In the middle, no no
    Baby, why don’t you just meet me in the middle?
    Oh yeah, I’m losing my mind just a little
    So why don’t you just meet me in the middle?
    Oh, in the middle
    Baby-y-y, why don’t you just meet me in the middle, baby?
    I’m losing my mind just a little
    So why don’t you just meet me in the middle, middle?
    In the middle, middle

    โอ้ที่รัก ทำไมคุณไม่มาพบฉันที่ตรงกลางละ
    ฉันกำลังบ้าไปเล็กน้อยแล้วละ
    ดังนั้น ทำไมคุณไม่มาพบฉันที่ตรงกลางละ
    ที่ตรงกลาง ไม่ ไม่
    ที่รัก ทำไมคุณไม่มาพบฉันที่ตรงกลางละ
    ฉันกำลังบ้าไปเล็กน้อยแล้วละ
    ดังนั้น ทำไมคุณไม่มาพบฉันที่ตรงกลางละ
    ที่ตรงกลาง
    ที่ ที่ รัก ทำไมคุณไม่มาพบฉันที่ตรงกลางละ
    ฉันกำลังบ้าไปเล็กน้อยแล้วละ
    ดังนั้น ทำไมคุณไม่มาพบฉันที่ตรงกลางละ
    ที่ตรงกลาง ตรงกลาง

  • Coldplay – Hymn For The Weekend แปลเพลงสากล


    Hymn for the Weekend นั้นเป็นเพลงของวงร๊อคอังกฤษ Coldplay กับนักร้องหญิงชาวอเมริกัน Beyoncé มันถูกเปิดตัวเมื่อ 25 มกราคม 2016 เป็นซิงเกิ้ลที่สองจากอัลบั้มสตูดิโอที่เจ็ดของเขา A Head Full of Dreams (2015) โดยเพลงได้เขียนขึ้นโดยสมาชิกของ Coldplay และดำเนินการผลิตโดย Rik Simpson, Tim Bergling, Digital Divide และ Stargate และ Hymn for the Weekend ได้ติดอันกับที่หกบน UK Singles Chart และติดอันกับต่ำกว่า 20 ในประเทศต่างๆ อย่างเช่น สวิตเซอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส สวีเดน ออสเตรีย เบลเยียม อิตาลี และสเปน และในอเมริกาเพลงได้ติดอันดับที่ 25 บน US Billboard Hot 100 และ Music video ของเพลงได้เปิดตัวในวันที่ 29 มกราคม 2016 และมีการแสดงผสมผสานระหว่าง Coldplay และ Beyoncé ตามเมืองต่างๆ ในประเทศอินเดีย วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Oh, angel sent from up above
    You know you make my world light up
    When I was down, when I was hurt
    You came to lift me up
    Life is a drink and love’s a drug
    Oh, now I think I must be miles up
    When I was a river dried up
    You came to rain a flood

    โอ้ นางฟ้าที่ส่งมาจากด้านบน
    คุณรู้ไหมคุณทำให้โลกของฉันสว่างขึ้นมา
    เมื่อฉันเคยตกต่ำ เมื่อฉันเคยเจ็บปวด
    คุณมาฉุดฉันขึ้น
    ชีวิตคือเครื่องดื่มและความรักนั้นเป็นยาเสพติด
    โอ้ ตอนนี้ฉันคิดว่าฉันต้องห่างกันแล้ว
    เมื่อฉันเป็นแม่น้ำที่เหือดแห้ง
    คุณมาเป็นฝนที่ทำให้มันไหลท่วมอีกครั้ง

    Ah-oh-ah-oh-ah
    Got me feeling drunk and high
    So high, so high
    Ah-oh-ah-oh-ah
    Now I’m feeling drunk and high
    So high, so high
    Feeling drunk and high
    Feeling drunk and high
    So high

    อา โอ อา โอ อา
    ทำให้ฉันรู้สึกเมาและลอยสูงมาก
    สูงมาก สูงมาก
    อา โอ อา โอ อา
    ตอนนี้ ฉันรู้สึกเมาและลอยสูงมาก
    สูงมาก สูงมาก
    รู้สึกเมาและลอยสูงมาก
    รู้สึกเมาและลอยสูงมาก
    สูงมาก

    Oh, angel sent from up above
    I feel it coursing through my blood
    Life is a drink, your love’s about
    To make the stars come out

    โอ้ นางฟ้าที่ส่งมาจากด้านบน
    ฉันรู้สึกว่ามันไหลผ่านเลือดของฉัน
    ชีวิตคือเครื่องดื่มและความรักของคุณนั้นเกี่ยวกับ
    เพื่อทำให้ดวงดาวปรากฏออกมา

    Ah-oh-ah-oh-ah
    Got me feeling drunk and high
    So high, so high
    Ah-oh-ah-oh-ah
    Now I’m feeling drunk and high
    So high, so high
    Feeling drunk and high
    Feeling drunk and high
    So high

    อา โอ อา โอ อา
    ทำให้ฉันรู้สึกเมาและลอยสูงมาก
    สูงมาก สูงมาก
    อา โอ อา โอ อา
    ตอนนี้ ฉันรู้สึกเมาและลอยสูงมาก
    สูงมาก สูงมาก
    รู้สึกเมาและลอยสูงมาก
    รู้สึกเมาและลอยสูงมาก
    สูงมาก

    That we shoot across the sky
    That we shoot across the
    That we shoot across the sky
    That we shoot across the
    That we shoot across the sky
    That we shoot across the
    That we shoot across the sky
    That we shoot across the

    ที่เรายิงข้ามท้องฟ้านั้นไป
    ที่เรายิงข้าม
    ที่เรายิงข้ามท้องฟ้านั้นไป
    ที่เรายิงข้าม
    ที่เรายิงข้ามท้องฟ้านั้นไป
    ที่เรายิงข้าม
    ที่เรายิงข้ามท้องฟ้านั้นไป
    ที่เรายิงข้าม

  • Calvin Harris – My Way แปลเพลงสากล


    My Way นั้นเป็นเพลงของ Calvin Harris โดยเพลงได้ถูกเปิดตัวใน 16 กันยายน 2016 ซึ่ง Harris ได้ประกาศก่อนหน้าห้าวันสำหรับการเปิดตัวเพลงของเขาทาง Twitter เช่นเดียวกับเพลงก่อนหน้าของเขาอย่าง Summer และ Feel So Close โดย Harris ได้มาเป็นคนร้องเพลงของเขาเอง มันติดท็อปชาร์ตของ สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี และสกอตแลนด์ และในประเทศอื่นๆ อีกมากมายที่อยู่ต่ำกว่าอันดับ 10 ในสหรัฐอเมริกา My Way เปิดตัวที่อันดับที่ 24 บน Billboard Hot 100 เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2016 และชาร์ตอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับ Music video ของเพลงนี้เป็นหนึ่งในวิดีโอที่มีความคิดสร้างสรรค์มาก และมีดนตรีของเพลงที่ไพเราะ วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Why wait to say
    At least I did it my way
    Lie awake, two faced
    But in my heart I understand
    I made my move
    And it was all about you
    Now I feel so far removed

    ทำไมต้องรอเมื่อจะพูด
    อย่างน้อยฉันได้ทำมันในทางของฉัน
    คำโกหกถูกเปิดออก ตีสองหน้า
    แต่ในใจของฉัน ฉันเข้าใจ
    ฉันเดินหน้า
    และทุกอย่างมันเกี่ยวกับคุณ
    ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าถูกลบไปแล้ว

    You were the one thing in my way
    You were the one thing in my way
    You were the one thing in my way

    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน
    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน
    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน

    You were the one thing in my way
    You were the one thing in my way
    You were the one thing in my way

    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน
    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน
    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน

    My way, oh way, oh way, oh way
    My way, oh way, oh way, oh way
    My way, oh way, oh way, oh way
    My way, oh way, oh way, oh way
    My way

    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน

    My way
    My way

    ทางของฉัน
    ทางของฉัน

    Why wait to say
    At least I did it my way
    Lie awake, two faced
    But in my heart I understand
    I made my move
    And it was all about you
    Now I feel so far removed

    ทำไมต้องรอเมื่อจะพูด
    อย่างน้อยฉันได้ทำมันในทางของฉัน
    คำโกหกถูกเปิดออก ตีสองหน้า
    แต่ในใจของฉัน ฉันเข้าใจ
    ฉันเดินหน้า
    และทุกอย่างมันเกี่ยวกับคุณ
    ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าถูกลบไปแล้ว

    You were the one thing in my way
    You were the one thing in my way
    You were the one thing in my way

    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน
    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน
    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน

    You were the one thing in my way
    You were the one thing in my way
    You were the one thing in my way

    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน
    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน
    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน

    My way, oh way, oh way, oh way
    My way, oh way, oh way, oh way
    My way, oh way, oh way, oh way
    My way, oh way, oh way, oh way
    My way

    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน

    You were the one thing in my way
    You were the one thing in my way
    You were the one thing in my way

    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน
    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน
    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน

    You were the one thing in my way
    You were the one thing in my way
    You were the one thing in my way

    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน
    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน
    คุณเคยเป็นสิ่งหนึ่งในทางของฉัน

    My way, oh way, oh way, oh way
    My way, oh way, oh way, oh way
    My way, oh way, oh way, oh way
    My way, oh way, oh way, oh way
    My way

    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน

    My way, oh way, oh way, oh way
    My way, oh way, oh way, oh way
    My way, oh way, oh way, oh way
    My way, oh way, oh way, oh way

    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง
    ทางของฉัน โอ้ทาง โอ้ทาง โอ้ทาง

  • James Arthur – Say You Won’t Let Go แปลเพลงสากล


    Say You Won’t Let Go นั้นเป็นเพลงของนักร้องและนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ James Arthur โดยเพลงได้เปิดตัวให้สามารถดาวน์โหลดในแบบดิจิตอลได้เมื่อ 9 กันยายน 2016 ในประเทศอังกฤษโดย Columbia Records เป็นซิงเกิ้ลนำจากอัลบั้มสตูดิโอที่สองของเขา Back from the Edge (2016) โดยเพลงได้พุ่งติดอันดับหนึ่งบน UK Singles Chart และรักษาอันดับได้นานกว่าสัปดาห์ นอกจากอังกฤษเพลงยังได้ติดชาร์ตในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สวีเดน และสาธารณรัฐไอร์แลนด์ นอกจากนี้เพลงนี้ยังเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จของเขาในอเมริกาโดยพุ่งติดอันดับที่ 11 บน Billboard Hot 100 คุณสนใจแล้วใช่ไหมละ เอาละวันนี้เรามาแปลเพลงนี้กัน


    I met you in the dark
    You lit me up
    You made me feel as though
    I was enough
    We danced the night away
    We drank too much
    I held your hair back when
    You were throwing up

    ฉันพบคุณในขณะที่ฉันกำลังแย่
    คุณช่วยให้ฉันก้าวผ่านมันมาได้
    คุณทำให้ฉันรู้สึกว่า
    ฉันดีพอ
    เราเต้นด้วยกันทั้งคืน
    เราดื่มไปมาก
    ฉันช่วยจับผมของคุณ
    ในขณะที่คุณอ้วกออกมา

    Then you smiled over your shoulder
    For a minute, I was stone cold sober
    I pulled you closer to my chest
    And you asked me to stay over
    I said, I already told ya
    I think that you should get some rest

    เมื่อคุณหันหน้ากลับมายิ้มให้
    วินาทีนั้น ฉันถึงกับตะลึงในรอยยิ้มของคุณ
    ฉันดึงคุณเข้ามาใกล้อกของฉัน
    แล้วคุณก็ถามว่า คืนนี้นอนค้างที่นี้ได้ไหม
    ฉันตอบไปว่า ฉันบอกคุณไปแล้วนะ
    ฉันคิดว่าคุณควรจะพักผ่อน

    I knew I loved you then
    But you’d never know
    ‘Cause I played it cool when I was scared of letting go
    I knew I needed you
    But I never showed
    But I wanna stay with you
    Until we’re grey and old
    Just say you won’t let go
    Just say you won’t let go

    ตอนนั้นฉันรู้แล้วว่า ฉันรักคุณ
    แต่คุณไม่รู้หรอก
    เพราะฉันทำท่าทีเฉยชา ทั้งๆ ที่จริงฉันกลัวที่จะห่างกับคุณ
    ตอนนั้นฉันรู้แล้วว่า ฉันต้องการคุณ
    เพียงแต่ฉันไม่เคยแสดงออก
    ฉันอยากที่จะอยู่กับคุณ
    จนเราแก่ไปด้วยกัน
    ขอแค่เพียงคุณบอกฉันว่า คุณจะไม่จากฉันไปไหน
    ขอแค่เพียงคุณบอกฉันว่า คุณจะไม่จากฉันไปไหน

    I’ll wake you up with some breakfast in bed
    I’ll bring you coffee
    With a kiss on your head
    And I’ll take the kids to school
    Wave them goodbye
    And I’ll thank my lucky stars for that night

    ฉันจะคอยปลุกคุณในตอนเช้าพร้อมกับเสิร์ฟอาหารเช้าให้คุณถึงเตียง
    เอากาแฟมาให้คุณ
    และบรรจงจูบหน้าผากของคุณ
    และฉันจะพาลูกๆ ของเราไปโรงเรียน
    โบกมือลาลูกๆ
    และฉันจะขอบคุณดวงดาวแห่งความโชคดีที่ทำให้ฉันกัับคุณได้พบกันในคืนนั้น

    When you looked over your shoulder
    For a minute, I forget that I’m older
    I wanna dance with you right now, oh
    And you look as beautiful as ever
    And I swear that everyday you’ll get better
    You make me feel this way somehow

    เมื่อคุณหันหน้ากลับมายิ้มให้
    วินาทีนั้น ฉันลืมไปเลยว่าฉันแก่แล้ว
    ฉันอยากที่จะเต้นกับคุณ
    และคุณดูสวยมากจริงๆ
    ฉันสาบานว่า คุณจะดูดีมากขึ้นทุกวันๆ
    คุณทำให้ฉันรู้สึกดี

    I’m so in love with you
    And I hope you know
    Darling your love is more than worth its weight in gold
    We’ve come so far my dear
    Look how we’ve grown
    And I wanna stay with you
    Until we’re grey and old
    Just say you won’t let go
    Just say you won’t let go

    ฉันรักคุณมากขึ้นทุกวัน
    และฉันหวังให้คุณรู้
    ที่รักความรักของคุณมีค่ามากกว่าทองคำเสียอีก
    เราเดินทางมาไกลกันมากแล้ว
    ลองมองดูสิว่าความรักของเราเติบโตมากขนาดไหน
    และฉันอยากที่จะอยู่กับคุณ
    จนเราแก่ไปด้วยกัน
    ขอแค่เพียงคุณบอกฉันว่า คุณจะไม่จากฉันไปไหน
    ขอแค่เพียงคุณบอกฉันว่า คุณจะไม่จากฉันไปไหน

    I wanna live with you
    Even when we’re ghosts
    ‘Cause you were always there for me
    When I needed you most

    ฉันอยากจะใช้ชีวิตอยู่กับคุณ
    แม้เราจะตายกลายเป็นผีแล้ว ก็ยังอยากที่อยู่ด้วยกัน (ภพชาติพรากเราจากกันไม่ได้ 555)
    เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที๋ฉันต้องการคุณ
    คุณจะอยู่เคียงข้างฉันเสมอ

    I’m gonna love you till
    My lungs give out
    I promise till death we part
    Like in our vows
    So I wrote this song for you
    Now everybody knows
    That it’s just you and me
    Until we’re grey and old
    Just say you won’t let go
    Just say you won’t let go

    ฉันจะรักคุณจนกว่า
    ความตายจะมาพราก (หมดลมหายใจ)
    ฉันสัญญาว่าจะรักคุณจนกว่าฉันจะตาย
    เหมือนกับคำสัญญาในวันแต่งงานของเรา
    ดังนั้นฉันได้เขียนเพลงนี้ให้กับคุณ
    และตอนนี้ทุกคนได้รับรู้แล้วว่า
    เพลงนี้หมายถึงฉันและคุณ
    ที่จะอยู่เคียงข้างกันไปจนแก่
    ขอแค่เพียงคุณบอกฉันว่า คุณจะไม่จากฉันไปไหน
    ขอแค่เพียงคุณบอกฉันว่า คุณจะไม่จากฉันไปไหน

    Just say you won’t let go
    Oh, just say you won’t let go

    ขอแค่เพียงคุณบอกฉันว่า คุณจะไม่จากฉันไปไหน
    โอ้ ขอแค่เพียงคุณบอกฉันว่า คุณจะไม่จากฉันไปไหน


    sober – เงียบขรึม, สุขุม
    vow – สาบาน, รับปาก

  • Ellie Goulding – Beating Heart แปลเพลงสากล


    Beating Heart เป็นเพลงของนักร้องและนักแต่งเพลงหญิงชาวอังกฤษ Ellie Goulding โดยมันเป็นเพลง Soundtack ของภาพยนต์เรื่อง Divergent (2014) เพลงได้เขียนขึ้นโดย Goulding และ Joe Janiak และอำนวยการผลิตโดย Greg Kurstin มันถูกเปิดตัวใน 22 เมษายน 2014 เป็นซิงเกิ้ลที่สองจาก Soundtack วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Eyes make their peace in difficulties with wounded lips and salted cheeks.
    And finally we step to leave to the departure lounge of disbelief.

    ดวงตาที่ทำให้พวกเขาพบกับความสงบสุขในเวลาที่ยากลำบาก กับริมฝีปากที่บาดเจ็บและแก้มที่เปียกด้วยเหงื่อ
    และในที่สุดเรามุ่งหน้าออกไปจากที่นี่ ไปยังที่แห่งการเดินทางออกจากความศรัทธา

    And I don’t know where I’m going but I know it’s gonna be a long time
    ‘Cause I’ll be leaving in the morning come to the white wine bitter sunlight

    และฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังจะไปที่ไหน แต่ฉันรู้ว่ามันจะต้องไปเป็นเวลายาวนานแน่ๆ
    เพราะว่าฉันจะออกไปตั้งแต่ตอนเช้าเมื่อแสงตะวันยังเหมือนไวน์สีขาวอ่อนๆ

    Wanna hear your beating heart tonight
    Before the bleeding sun comes alive
    I want to make the best of what is left hold tight
    And hear my beating heart one last time before daylight.

    อยากได้ยินเสียงหัวใจของคุณคืนนี้
    ก่อนที่ดวงอาทิตย์สีเลือดจะโผล่ออกมา
    ฉันต้องการทำสิ่งที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด
    และได้ยินเสียงหัวใจของฉันครั้งสุดท้ายก่อนแสงอาทิตย์ปรากฏออกมา

    And the canyon underneath the trees
    Behind the dark sky you looked at me.
    I fell for you like autumn leaves
    Never faded evergreen

    และร่มไม้ที่บดบังแคนยอน
    เบื้องหลังท้องฟ้าสีดำที่คุณมองมาที่ฉัน
    ฉันตกลงมากหาคุณเหมือนใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง
    ไม่เคยจางหายไปเป็นสีเขียว

    And I don’t know where I’m going but I know it’s gonna be a long time
    ‘Cause I’ll be leaving in the morning come to the white wine bitter sunlight

    และฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังจะไปที่ไหน แต่ฉันรู้ว่ามันจะต้องไปเป็นเวลายาวนานแน่ๆ
    เพราะว่าฉันจะออกไปตั้งแต่ตอนเช้าเมื่อแสงตะวันยังเหมือนไวน์สีขาวอ่อนๆ

    Wanna hear your beating heart tonight
    Before the bleeding sun comes alive
    I want to make the best of what is left hold tight
    And hear my beating heart one last time.

    อยากได้ยินเสียงหัวใจของคุณคืนนี้
    ก่อนที่ดวงอาทิตย์สีเลือดจะโผล่ออกมา
    ฉันต้องการทำสิ่งที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด
    และได้ยินเสียงหัวใจของฉันครั้งสุดท้ายก่อนแสงอาทิตย์ปรากฏออกมา

    I can’t face, now everything has changed
    I just wanna be by your side
    Here’s hoping we collide
    Here’s hoping we collide
    Here’s hoping we collide

    ฉันไม่สามารถเผชิญหน้ากับอะไรได้เลย ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว
    ฉันแค่ต้องการอยู่เคียงข้างคุณ
    หวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกัน
    หวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกัน
    หวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกัน

    Wanna hear your beating heart tonight
    Before the bleeding sun comes alive
    I wanna make the best of what is left hold tight
    And hear my beating heart one last time
    Wanna hear your beating heart tonight.

    อยากได้ยินเสียงหัวใจของคุณคืนนี้
    ก่อนที่ดวงอาทิตย์สีเลือดจะโผล่ออกมา
    ฉันต้องการทำสิ่งที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด
    และได้ยินเสียงหัวใจของฉันครั้งสุดท้ายก่อนแสงอาทิตย์ปรากฏ
    อยากได้ยินเสียงหัวใจของคุณคืนนี้