Category: Uncategorized

  • Sia – Never Give Up แปลเพลงสากล


    Never Give Up เป็นเพลงของนักร้องและนักแต่งเพลงชาวออสเตรเลีย Sia ซึ่งเป็นเพลงจาก soundtrack ของภาพยนตร์เรื่อง Lion ที่กำกับการแสดงโดย Garth Davis เพลงได้ถูกเขียนโดย Sia และ Greg Kurstin มันถูกเปิดตัวใน 18 พฤศจิกายน 2016 และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และมันถูกเสนอชื่อเข้าชิง Grammy Award สำหรับเพลงยอดเยี่ยมที่แต่งขึ้นสำหรับ Visual Media เนื้อร้องของเพลงพูดถึงการไม่ยอมแพ้ที่จะหาทางกลับบ้าน วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    I’ve battled demons that won’t let me sleep
    Called to the sea but she abandoned me

    ฉันได้ต่อสู่กับปีศาจที่ทำให้ฉันไม่สามารถนอนหลับได้
    ฉันเรียกหาท้องทะเลแต่เธอได้ละทิ้งฉัน

    But I won’t never give up, no, never give up, no, no
    No, I won’t never give up, no, never give up, no, no

    แต่ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้
    ไม่มีทาง ฉันจะไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้

    And I won’t let you get me down
    I’ll keep gettin’ up when I hit the ground
    Oh, never give up, no, never give up no, no, oh
    I won’t let you get me down
    I’ll keep gettin’ up when I hit the ground
    Oh, never give up, no, never give up no, no, oh

    และฉันจะไม่ให้คุณมาทำให้ฉันล้มลง
    ฉันจะพยายามลุกขึ้น เมื่อฉันตกลงถึงพื้น
    โอ้ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้
    ฉันจะไม่ให้คุณมาทำให้ฉันล้มลง
    ฉันจะพยายามลุกขึ้น เมื่อฉันตกลงถึงพื้น
    โอ้ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้

    I’ll find my way, find my way home, oh, oh, oh
    I’ll find my way, find my way home, oh, oh, oh
    I’ll find my way, find my way home, oh, oh, oh
    I’ll find my way, find my way home, oh, oh, oh

    ฉันจะหาทางกลับบ้านของฉัน
    ฉันจะหาทางกลับบ้านของฉัน
    ฉันจะหาทางกลับบ้านของฉัน
    ฉันจะหาทางกลับบ้านของฉัน

    Oh yeah, I’m haunted by the distant past
    Called to the skies but she was she overcast

    โอ้ ฉันถูกตามล่าจากอดีตอันไกลโพ้น
    ฉันร้องเรียกท้องฟ้าแต่เธอก็ได้ทำให้มืดครึ้มกลับมา

    But I won’t never give up, no, never give up, no, no
    No, I won’t never give up, no, never give up, no, no

    แต่ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้
    ไม่มีทาง ฉันจะไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้

    And I won’t let you get me down
    I’ll keep gettin’ up when I hit the ground
    Oh, never give up, no, never give up no, no, oh
    I won’t let you get me down
    I’ll keep gettin’ up when I hit the ground
    Oh, never give up, no, never give up no, no, oh

    และฉันจะไม่ให้คุณมาทำให้ฉันล้มลง
    ฉันจะพยายามลุกขึ้น เมื่อฉันตกลงถึงพื้น
    โอ้ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้
    ฉันจะไม่ให้คุณมาทำให้ฉันล้มลง
    ฉันจะพยายามลุกขึ้น เมื่อฉันตกลงถึงพื้น
    โอ้ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้

    I’ll find my way, find my way home, oh, oh, oh
    I’ll find my way, find my way home, oh, oh, oh
    I’ll find my way, find my way home, oh, oh, oh
    I’ll find my way, find my way home, oh, oh, oh

    ฉันจะหาทางกลับบ้านของฉัน
    ฉันจะหาทางกลับบ้านของฉัน
    ฉันจะหาทางกลับบ้านของฉัน
    ฉันจะหาทางกลับบ้านของฉัน

    Never give up, never give up
    Never give up, never give up
    No, no, oooh

    ไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้
    ไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้
    ไม่มีทาง

    And I won’t let you get me down
    I’ll keep gettin’ up when I hit the ground
    Oh, never give up, no, never give up no, no, oh
    I won’t let you get me down
    I’ll keep gettin’ up when I hit the ground
    Oh, never give up, no, never give up no, no, oh

    และฉันจะไม่ให้คุณมาทำให้ฉันล้มลง
    ฉันจะพยายามลุกขึ้น เมื่อฉันตกลงถึงพื้น
    โอ้ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้
    ฉันจะไม่ให้คุณมาทำให้ฉันล้มลง
    ฉันจะพยายามลุกขึ้น เมื่อฉันตกลงถึงพื้น
    โอ้ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้

    I’ll find my way, find my way home, oh, oh, oh
    I’ll find my way, find my way home, oh, oh, oh
    I’ll find my way, find my way home, oh, oh, oh
    I’ll find my way, find my way home, oh, oh, oh

    ฉันจะหาทางกลับบ้านของฉัน
    ฉันจะหาทางกลับบ้านของฉัน
    ฉันจะหาทางกลับบ้านของฉัน
    ฉันจะหาทางกลับบ้านของฉัน

  • OneRepublic – Start Again ft. Logic แปลเพลงสากล


    เพลง Start Again เป็นเพลงประกอบซีรีย์ 13 Reasons Why ซีซั่น 2 ค่ะ เพลงถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2018 เพลงนี้เป็นการทำงานร่วมกันของวง One Republic และแรปเปอร์อเมริกัน Logic เป็นเพลงที่ความหมายดีค่ะ สื่อถึงชีวิตที่ผิดพลาดไปแล้ว และต้องการจะเริ่มต้นใหม่ วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กันค่ะ


    Can’t I just turn back the clock?
    Forgive my sins
    I just wanna roll my sleeves up
    And start again
    I know that I messed it up
    Time and time again
    I just wanna roll my sleeves up
    And start again

    ฉันไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ใช่มั้ย
    ได้โปรดอโหสิกรรมให้ฉันด้วย
    ฉันอยากเตรียมตัว
    และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
    ฉันรู้ ฉันทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
    ครั้งแล้วครั้งเล่า
    ฉันอยากเตรียมตัว
    และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

    I was switchin’ up the lanes
    Steppin’ out the frame I’m in
    I was pulling on the reins
    Sick of all the same happenin’
    I swear I was looking for disaster
    Mixed with a bottle of gin
    And just because I come home after
    Doesn’t mean you’ll take me in

    ฉันเคยกินเหล้าสูบบุหรี่มาก่อน
    ทำตัวเกเรไม่อยู่ในกฏระเบียบ
    ฉันต้องทำทุกอย่างอย่างระมัดระวัง
    เหนื่อยกับอะไรเดิมๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    ฉันสาบานฉันกำลังมองหาหายนะ
    ผสมมันเข้ากับเหล้า
    และเพราะฉันกลับบ้าน
    ไม่ได้หมายความว่า คุณจะหลอกฉันได้นะ

    You see my world is spinning like there’s nothing to know
    You see my world is feeling like it just might explode
    And yes I know it’s hard to take it backwards from my mind
    I need to get a ride, need to see some light come in

    คุณเห็นว่าโลกของผมฉันยังคงหมุนต่อไป เหมือนกับไม่มีอะไรที่ต้องรู้
    คุณเห็นว่าโลกของฉันเหมือนจะระเบิดออกมา
    และใช่ ฉันรู้ว่ามันยากมากที่จะนำมันออกไปจากความคิดของฉัน
    ฉันอยากที่จะออกไป ต้องการให้แสงส่องลงมาที่โลกของฉันบ้าง

    Can’t I just turn back the clock?
    Forgive my sins
    I just wanna roll my sleeves up
    And start again
    I know that I messed it up
    Time and time again
    I just wanna roll my sleeves up
    And start again

    ฉันไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ใช่มั้ย
    ได้โปรดอโหสิกรรมให้ฉันด้วย
    ฉันอยากเตรียมตัว
    และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
    ฉันรู้ ฉันทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
    ครั้งแล้วครั้งเล่า
    ฉันอยากเตรียมตัว
    และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

    Feelin’ like maybe I’m unappreciated
    Like my presence in your life has been alleviated
    I feel like everything I’ve done before is different now
    But I can see clearer than ever from a distance now
    Every day I do it, I been goin’ through it
    But you never knew it ’cause I never showed you
    You gave me the world, so I feel I owed you
    I been lookin’ through the mirror and that’s the old you
    I’ma get it right now, don’t know how
    But I promise that we’re gonna make it somehow
    I’m all in, it’s from the heart again
    Open up your mind and maybe we could start again

    บางทีฉันรู้สึกไร้ค่า
    การที่ฉันอยู่ในชีวิตคุณช่วยบรรเทาความเจ็บปวด
    ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ทุกสิ่งที่เคยทำมามันเปลี่ยนไป
    ตอนนี้ฉันมองอะไรได้ชัดเจนกว่าแต่ก่อนมาก
    แต่คุณไม่รู้หรอก เพราะฉันไม่เคยแสดงออกให้คุณเห็น
    ทุกวันที่ฉันได้ทำมัน เหมือนฉันได้ก้าวผ่านมัน
    คุณให้โลกใบใหม่แก่ฉัน ดังนั้นฉันรู้สึกว่าฉันติดหนี้คุณ
    ฉันมองไปที่กระจก และภาพในกระจกนั่นแหละคือคุณคนเดิม
    ฉันเข้าใจมันแล้ว แม้ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป
    แต่ฉันสัญญาว่า เราต้องหาวิธีทำมันสำเร็จ
    ฉันเหนื่อยมาก เป็นเสียงจากหัวใจของฉัน
    เปิดใจของคุณสิ บางทีเราอาจจะเริ่มต้นกันใหม่ได้อีกครั้ง

    Can’t I just turn back the clock?
    Forgive my sins
    I just wanna roll my sleeves up
    And start again
    I know that I messed it up
    Time and time again
    I just wanna roll my sleeves up
    And start again

    ฉันไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ใช่มั้ย
    ได้โปรดอโหสิกรรมให้ฉันด้วย
    ฉันอยากเตรียมตัว
    และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
    ฉันรู้ ฉันทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
    ครั้งแล้วครั้งเล่า
    ฉันอยากเตรียมตัว
    และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

    Oh-oh-oh, oh-oh-oh
    Oh-oh-oh, oh-oh-oh

    Oh-oh-oh, oh-oh-oh
    Oh-oh-oh, oh-oh-oh

    And yes I know it’s hard to take it backwards from my mind
    I need to get a ride, need to see some light come in
    Can’t I just turn back the clock?
    Forgive my sins
    I just wanna roll my sleeves up
    And start again

    และใช่ ฉันรู้ว่ามันยากมากที่จะนำมันออกไปจากความคิดของฉัน
    ฉันอยากที่จะออกไป ต้องการให้แสงส่องลงมาที่โลกของฉันบ้าง
    ฉันย้อนเวลากลับไปได้มั้ย
    ได้โปรดอโหสิกรรมให้ฉันด้วย
    ฉันอยากเตรียมตัว
    และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง


    roll (one’s) sleeves up:
    To do or get ready to do something difficult, intense, or demanding.
    เตรียมพร้อมที่จะทำสิ่งที่ยากลำบาก เข้มแข็ง หรือสิ่งต้องการ
    ที่มา: https://idioms.thefreedictionary.com/roll+my+sleeves+up

    mess sth up:
    to do something wrong or badly
    ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือสิ่งที่แย่
    ที่มา: https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/mess-sth-up

    unappreciated:
    someone who is unappreciated is someone whose value is not recognized or rewarded
    คนที่ไม่มีคุณค่าอะไรให้จดจำ
    ที่มา: https://www.vocabulary.com/dictionary/unappreciated

    *ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ แนะนำติชมได้ที่กล่องแสดงความคิดเห็นข้างล่างเลยค่ะ

  • Alesso Vs. OneRepublic – If I Lose Myself (Alesso Remix) แปลเพลงสากล


    If I Lose Myself เป็นเพลงของวงดนตรีร็อคอเมริกัน OneRepublic ในอัลบั้มที่สามของพวกเขา Native (2013) มันได้ถูกเปิดตัวใน 8 มกราคม 2013 เป็นซิงเกิลแรกของอัลบั้ม ในเวอร์ชัน Alesso vs. OneRepublic นี้ เพลงได้ถูกนำมารีมิกซ์ให้เป็น progressive house โดยดีเจและโปรดิวเซอร์ชาวสวีเดน Alesso และถูกเล่นครั้งแรกในงาน Ultra Music Festival ที่ Miami, Florida ใน 24 มีนาคม 2013 หลังจากนั้นได้เปิดตัวเป็นเพลงเสริมของอัลบั้ม Native และในอัลบั้ม Forever (2015) ของ Alesso ด้วย วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    I stared up at the sun
    Thought of all the people,
    Places and things I’ve loved

    ฉันจ้องมองขึ้นไปยังดวงอาทิตย์
    ท่ามกลางผู้คนมากมาย
    สถานที่และสิ่งของที่ฉันรัก

    You can feel the light start to tremble
    Washing what you know out to sea
    You can see your life out of the window, tonight

    คุณสามารถรู้สึกได้ว่าแสงสว่างนั้นได้เริ่มสั่นสะเทือน
    ลบล้างสิ่งที่คุณรู้ออกไปให้หมด
    คุณสามารถเห็นชีวิตของคุณนอกหน้าต่างนี้ได้ ในคืนนี้

    If I lose myself tonight
    It’ll be by your side
    If I lose myself tonight
    Wooh, wooh, wooh!

    ถ้าฉันสูญเสียการควบคุมตัวเองในคืนนี้
    มันจะอยู่เคียงข้างคุณ
    ถ้าฉันสูญเสียการควบคุมตัวเองในคืนนี้
    โว้ว โว้ว โว้ว

    If I lose myself tonight
    It’ll be you and I
    Lose myself tonight

    ถ้าฉันสูญเสียการควบคุมตัวเองในคืนนี้
    มันจะเป็นคุณและฉัน
    ที่สูญเสียการควบคุมตัวเองในคืนนี้

    I woke up with the sun
    Thought of all the people
    Places and things I’ve loved

    ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับแสงสว่าง
    ท่ามกลางผู้คนมากมาย
    สถานที่และสิ่งของที่ฉันรัก

    You can feel the light start to tremble
    Washing what you know out to sea
    You can see your life out the window, tonight

    คุณสามารถรู้สึกได้ว่าแสงสว่างนั้นได้เริ่มสั่นสะเทือน
    ลบล้างสิ่งที่คุณรู้ออกไปให้หมด
    คุณสามารถเห็นชีวิตของคุณนอกหน้าต่างนี้ได้ ในคืนนี้

    If I lose myself tonight
    It’ll be by your side
    If I lose myself tonight
    Wooh, wooh, wooh!

    ถ้าฉันสูญเสียการควบคุมตัวเองในคืนนี้
    มันจะอยู่เคียงข้างคุณ
    ถ้าฉันสูญเสียการควบคุมตัวเองในคืนนี้
    โว้ว โว้ว โว้ว

    If I lose myself tonight
    It’ll be you and I
    Lose myself tonight
    Wooh!

    ถ้าฉันสูญเสียการควบคุมตัวเองในคืนนี้
    มันจะเป็นคุณและฉัน
    สูญเสียการควบคุมตัวเองในคืนนี้
    โว้ว

    Lose myself tonight

    สูญเสียการควบคุมตัวเองในคืนนี้

    Wooh, wooh, wooh, wooh
    Wooh, wooh, wooh, wooh

    โว้ว โว้ว โว้ว โว้ว
    โว้ว โว้ว โว้ว โว้ว

  • Albin Lee Meldau – I Need Your Love แปลเพลงสากล


    I Need Your Love เป็นเพลงของนักร้อง นักเขียนเพลง และนักดนตรีชาวสวีเดน Albin Lee Meldau คาดว่าเพลงจะเปิดตัวใน 1 มิถุนายน 2018 พร้อมกับการเปิดตัวในอัลบั้ม About You (2018) ซึ่งเพลงจะเป็นซิงเกิลที่สามของอัลบั้มนี้ เนื้อร้องของเพลงเกี่ยวกับการพูดถึงความรักของเขา ที่เขารู้สึกว่าได้รับมันไม่เพียงพอและต้องการมันมากกว่านี้ มันเป็นแนว Alternative ที่นุ่มนวลซึ่งมีจังหวะเหมือนเพลงร็อคเล็กน้อย วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Our love is something
    Baby, it is more than love
    Our love is something
    And I just can’t get enough

    ความรักของเราเป็นเหมือนอะไรบางอย่าง
    ที่รัก มันเป็นมากกว่าความรัก
    ความรักของเราเป็นเหมือนอะไรบางอย่าง
    และฉันยังได้รับมันเพียงพอ

    The walls are closing in
    On me, oh my
    The walls are closing in
    On me right now
    Just like a boat out on the open sea
    Well on the distance, no sirens sing for me
    Like Moses he did divide the waves
    We’ll say that’s an infant
    To free the slaves

    กำแพงกำลังเคลื่อนใกล้เข้ามา
    หาฉัน โอ้ กำลังมาทางฉัน
    กำแพงกำลังเคลื่อนใกล้เข้ามา
    เข้ามาหาฉันในตอนนี้
    มันเหมือนเรือที่แล่นออกไปในทะเลกว้าง
    ดีละ ออกมาไกลขนาดนี้ คงไม่มีสาวสวยที่จะมาร้องเพลงให้ฉันฟังได้
    เหมือนโมเสส ที่เขาได้แหวกคลื่นน้ำออก
    เราจะบอกว่านั่นคือเด็กทารกที่เกิดมา
    เพื่อปลอดปล่อยทาสอย่างเราให้เป็นอิสระ

    Our love is something
    Baby, it is more than love
    Our love is something
    And I just can’t get enough
    I need your love
    I need your love

    ความรักของเราเป็นเหมือนอะไรบางอย่าง
    ที่รัก มันเป็นมากกว่าความรัก
    ความรักของเราเป็นเหมือนอะไรบางอย่าง
    และฉันยังได้รับมันเพียงพอ
    ฉันต้องการความรักจากคุณ
    ฉันต้องการความรักจากคุณ

    Just like I’m starved
    Exhausted in this draught
    I need a drink of water
    Oh boy, I need it fast
    I’m stuck out in the desert
    And all I can see
    Is you and your [?]
    You’re waiting for me

    เหมือนฉันกำลังตกอยู่ในความหิวโหย
    หมดแรงจากการถูกลาก
    ฉันต้องการดื่มน้ำสักแก้ว
    โอ้เด็กน้อย ฉันต้องการมันโดยเร็ว
    ฉันกำลังติดอยู่ในทะเลทราย
    และนั่นคือทั้งหมดที่ฉันเห็น
    นั่นใช่คุณหรือปล่าว
    คุณกำลังรอฉันอยู่

    Our love is something
    Baby, it is more than love
    Our love is something
    And I just can’t get enough

    ความรักของเราเป็นเหมือนอะไรบางอย่าง
    ที่รัก มันเป็นมากกว่าความรัก
    ความรักของเราเป็นเหมือนอะไรบางอย่าง
    และฉันยังได้รับมันเพียงพอ

    I need your love
    I need your love
    I need your love
    Well, I need your kiss
    And I need your love
    All I care every day

    ฉันต้องการความรักจากคุณ
    ฉันต้องการความรักจากคุณ
    ฉันต้องการความรักจากคุณ
    ดีเลย ฉันต้องการจูบของคุณ
    ฉันฉันต้องการความรักจากคุณ
    สิ่งที่ฉันห่วงใยในทุกวัน

    Our love is something
    Baby, it is more than love
    Our love is something
    And I just can’t get enough

    ความรักของเราเป็นเหมือนอะไรบางอย่าง
    ที่รัก มันเป็นมากกว่าความรัก
    ความรักของเราเป็นเหมือนอะไรบางอย่าง
    และฉันยังได้รับมันเพียงพอ

    Our love is something
    Baby, it is more than love
    Our love is something
    And I just can’t get enough
    I need your love
    I need your love
    I need your love

    ความรักของเราเป็นเหมือนอะไรบางอย่าง
    ที่รัก มันเป็นมากกว่าความรัก
    ความรักของเราเป็นเหมือนอะไรบางอย่าง
    และฉันยังได้รับมันเพียงพอ
    ฉันต้องการความรักจากคุณ
    ฉันต้องการความรักจากคุณ
    ฉันต้องการความรักจากคุณ

  • 009 Sound System – Speak to Angels แปลเพลงสากล


    Speak to Angels เป็นเพลงของนักดนตรีและโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกัน Alexander Perls ที่อยู่ในสังกัด 009 Sound System music group เพลงได้ถูกเปิดตัวใน 29 เมษายน 2009 ในอัลบั้ม 009 Sound System (2010) โดยค่ายเพลง track one recordings ในเนื้อร้องของเพลงนั้นจะเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ และเสียงดนตรีจะทำให้คุณรู้สึกยิงใหญ่ได้ วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    I was there when Jesus came down from the cross
    Everyone was just standin’ round like idiots

    ฉันอยู่ที่นั่นเมื่อพระเยซูได้ลงมาจากไม้กางเขน
    ทุกคนก็ยืนอยู่รอบๆ เหมือนคนโง่เลย

    These are the things that you can’t explain
    Killing all of what’s makin’ you ok
    Shouldn’t be that way

    สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถอธิบายได้
    มันทำลายทุกสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกโอเค
    ไม่ควรเป็นเช่นนั้น

    So this is how to talk when you speak to angels
    Dreamin’ while you walk with chimin’ bangles yeah
    I could see it tonight

    ดังนั้น นี่คือวิธีการพูดเมื่อคุณได้พูดกับเทวดา
    ในความฝันในขณะที่คุณกำลังเดินไปพร้อมกับใส่กำไลที่ส่งเสียง
    ฉันอาจจะได้เห็นมันในคืนนี้

    This is what they say when they tell the storya
    cold hearts waitin for a moments glory
    I
    Guess I don’t knew why
    They’re always singin’

    นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาพูดเมื่อพูดเขาได้เล่าเรื่อง
    หัวใจที่หนาวเย็นกำลังรอช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์
    ฉัน
    ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
    พวกเขาร้องเพลงตลอดเวลา

    My love will take you higher
    My heart is still on fire yeah
    Wanna hear you say

    ความรักของฉันจะพาคุณสูงส่ง
    หัวใจของฉันยังเร่าร้อนเหมือนไฟ
    อยากจะได้ยินคุณพูด

    Your love can take this higher
    To everything that you desire yeah
    Wanna hear you say

    ความรักของคุณสามารถช่วยให้สิ่งนี้สูงส่ง
    เพื่อทุกอย่างที่คุณปรารถนา
    อยากจะได้ยินคุณพูด

    Tell me babe are you feelin’ down givin’ up your hope
    Sure I know that these feelins’ they won’t let you go

    บอกฉันสิว่าคุณกำลังรู้สึกหมดหวังและท้อแท้อยู่ใช่ไหม
    ฉันู้ว่าความรู้สึกเหล่านี้จะไม่ปล่อยให้คุณไป

    These sort of things shouldn’t block your way
    And believin’s all you need to feel ok
    It should be easy

    คุณไม่ควรให้สิ่งเหล่านี้มาปิดกั้นทางเดินของคุณ
    และคุณต้องการความเชื่อเพื่อที่จะทำให้รู้สึกโอเค
    มันควรจะง่ายดาย

  • Brett Eldredge – Don’t Ya แปลเพลงคันทรี่


    Don’t Ya เป็นเพลงของนักร้องและนักเขียนเพลงคันทรีชาวอเมริกัน Brett Eldredge มันถูกเปิดตัวใน 8 ตุลาคม 2012 เป็นซิงเกิลที่สองในการเปิดตัวอัลบั้มสตูดิโอที่สามของเขา Bring You Back (2012) โดย Eldredge ได้เขียนเพลงกับ Chris DeStefano และ Ashley Gorley ในเนื้อร้องของเพลงนั้นได้พูดถึงการนั่งมองสาวสวยและเขาก็ตกหลุ่มรักเธอเข้า วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Girl you cut those jeans just right
    I know you didn’t buy ’em like that
    So baby don’t even try that
    You dance, Oh you move
    Like there ain’t nobody watchin’
    But girl you know I’m watchin’

    สาวน้อย คุณตัดกางเกงยีนส์เหล่านั้นได้พอดีเลย
    ฉันรู้ว่าตอนคุณซื้อมามันไม่ได้เป็นแบบนั้น
    ดังนั้น อย่าพยายามทำแบบนั้นเลยที่รัก
    คุณกำลังเต้น โอ้ ดูคุณเคลื่อนไหวสิ
    ทำเหมือนว่าไม่มีใครดูคุณอยู่
    แต่สาวน้อย คุณรู้ไหมว่าฉันกำลังดูคุณอยู่

    Don’t lie, you’ve got it all figured out
    That smile has got me spinnin’ around
    Don’t even try actin’ like it ain’t no thing
    Cause I can see you move a little closer, closer
    Girl I gotta get to get to know ya, know ya
    Everything about ya makes me want ya, want ya
    Know what you’re doin baby don’t ya, don’t ya

    อย่ามาโกหก คุณรู้อยู่แล้วว่าฉันกำลังมองคุณ
    รอยยิ้มนั่นมันทำให้ฉันตัวหมุนเลยละ
    อย่าพยายามทำเหมือนมันไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    เพราะว่าฉันสามารถมองเห็นคุณเคลื่อนไหวอยู่ใกล้เพียงแค่นี้เอง
    สาวน้อย ฉันอยากจะทำความรู้จักกับคุณ อยากรู้จักกับคุณ
    ทุกอย่างในตัวคุณทำให้ฉันต้องการคุณ อยากเป็นของคุณ
    คุณรู้ตัวไหมว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่

    You’ve been lookin’ over here all night
    And When I look, you look away
    Oh I love the little games you play
    Yea I bet you didn’t mean to brush my hand when you walked by me
    Like you didn’t mean to drive me crazy

    คุณได้ถูกนั่งมองตลอดเวลาที่ตรงนี้
    และเมื่อฉันมองคุณ คุณได้มองไปทางอื่น
    โอ้ ฉันชอบเกมส์ที่คุณเล่นแล้วละ
    ใช่แล้ว ฉันพนันว่าคุณคงไม่คิดจะปัดมือฉันนะ ถ้าฉันเดินเข้าไปจับมือคุณ
    เหมือนที่คุณไม่ได้ตั้งใจทำให้ฉันแทบบ้าไง

    Don’t lie, you’ve got it all figured out
    That smile has got me spinnin’ around
    Don’t even try actin’ like it ain’t no thing
    Cause I can see you move a little closer, closer
    Girl I gotta get to get to know ya, know ya
    Everything about ya makes me want ya, want ya
    Know what you’re doin baby don’t ya, don’t ya

    อย่ามาโกหก คุณรู้อยู่แล้วว่าฉันกำลังมองคุณ
    รอยยิ้มนั่นมันทำให้ฉันตัวหมุนเลยละ
    อย่าพยายามทำเหมือนมันไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    เพราะว่าฉันสามารถมองเห็นคุณเคลื่อนไหวอยู่ใกล้เพียงแค่นี้เอง
    สาวฉันอยากจะทำความรู้จักกับคุณ อยากรู้จักกับคุณ
    ทุกอย่างในตัวคุณทำให้ฉันต้องการคุณ อยากเป็นของคุณ
    คุณรู้ตัวไหมว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่

    Wanna get outta here and let me show ya
    How good it would feel to hold ya
    Put your pretty little head on my shoulder
    Oh yea

    อยากจะพาคุณไปจากที่นี่และให้ฉันแสดงให้คุณเห็น
    ว่ามันรู้สึกดียังไงถ้าได้อยู่กับคุณ
    ซบหัวที่น่ารักของคุณบนไหล่ของฉันสิ
    โอ้ แบบนั้นแหละ

    Don’t lie, you’ve got it all figured out
    That smile has got me spinnin’ around
    Don’t even try actin’ like it ain’t no thing
    Cause I can see you move a little closer, closer
    Girl I gotta get to get to know ya, know ya
    Everything about ya makes me want ya, want ya
    Know what you’re doin baby don’t ya, don’t ya

    อย่ามาโกหก คุณรู้อยู่แล้วว่าฉันกำลังมองคุณ
    รอยยิ้มนั่นมันทำให้ฉันตัวหมุนเลยละ
    อย่าพยายามทำเหมือนมันไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    เพราะว่าฉันสามารถมองเห็นคุณเคลื่อนไหวอยู่ใกล้เพียงแค่นี้เอง
    สาวฉันอยากจะทำความรู้จักกับคุณ อยากรู้จักกับคุณ
    ทุกอย่างในตัวคุณทำให้ฉันต้องการคุณ อยากเป็นของคุณ
    คุณรู้ตัวไหมว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่

  • Shawn Mendes – Where Were You In The Morning ft. John Mayer แปลเพลงสากล


    เพลง Where Were You In The Morning เป็นเพลงของนักร้องชาวแคนนาคา Shawn Mendes ที่ได้ John Mayer มาร่วมร้อง เพลงนี้เป็นเพลงที่ 4 ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2018 อยู่ในอัลบั้ม Shawn Mendes เนื้อเพลงกล่าวถึง One Night Stand ของชายหนุ่มที่ยังคงลืมหญิงสาวไม่ได้ ดนตรีเพราะมากค่ะ เนื้อเพลงเศร้านิดๆ แต่ฟังแล้วไม่รู้สึกเศร้าเท่าไหร่เพราะดนตรีมันทำให้รู้สึกละมุนมากกว่า ยังไม่มีวิดีโอจาก Youtube ของ Shawn Mendes ถ้ามีมาเมื่อไหร่จะรีบอัพเดทให้นะคะ มาลองแปลเพลงนี้กันค่ะ


    You said, “I wanna get to know ya”
    Why you gotta get my hopes up?
    You said that you were staying over
    But then I woke up to the cold air

    คุณพูดว่า “คุณอยากจะรู้จักผม”
    ทำไมคุณถึงมาให้ความหวังผมล่ะ ทั้งๆ ที่คุณไม่ได้คิดจริงจัง
    วันนั้นคุณพูดว่า คืนนี้คุณจะค้างกับผม
    แต่เมื่อผมตื่นขึ้นมากับอากาศที่หนาวเย็น

    How could you make me believe?
    That there was something in between you and me, yeah
    I look around and I don’t see you

    คุณทำให้ผมเชื่อได้ยังไงกัน?
    ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน
    ผมมองไปรอบๆ กลับไม่เห็นคุณ

    Where were you in the morning, baby?
    You didn’t leave your number for me
    Left me without a warning, baby
    I said where were you in the morning, baby?

    เช้าวันนั้นคุณไปอยู่ไหน ที่รัก
    คุณไม่ทิ้งเบอร์โทรให้ผมด้วยซ้ำ
    ทิ้งผมไปโดยไม่มีสัญญาณเตือนสักนิด
    ผมได้แต่ถามว่า ที่รักเช้าวันนั้นคุณหายไปไหน?

    How do you, how do you just walk away?
    How do you, how do you just walk away?

    คุณทำได้ยังไง เดินจากผมไปได้ยังไงกัน?
    คุณทำได้ยังไง เดินจากผมไปได้ยังไงกัน?

    And I thought you really felt this
    When we were talking about breakfast
    You made it seem like we connected
    I guess I just didn’t expect this

    ตอนนั้นผมคิดว่าคุณรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
    ตอนที่เราคุยกันเกี่ยวกับอาหารเช้า
    คุณทำเหมือนกับว่า เราสองคนชอบกันแล้ว
    ผมเดานะ ผมไม่ได้คาดหวังหรอก

    How could you make me believe?
    That there was something in between you and me, yeah
    I look around and I don’t see you

    คุณทำให้ผมเชื่อได้ยังไงกัน?
    ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน
    ผมมองไปรอบๆ กลับไม่เห็นคุณ

    Where were you in the morning, baby?
    You didn’t leave your number for me
    Left me without a warning, baby
    I said where were you in the morning, baby?

    เช้าวันนั้นคุณไปอยู่ไหน ที่รัก
    คุณไม่ทิ้งเบอร์โทรให้ผมด้วยซ้ำ
    ทิ้งผมไปโดยไม่มีสัญญาณเตือนสักนิด
    ผมได้แต่ถามว่า ที่รักเช้าวันนั้นคุณหายไปไหน

    How do you, how do you just walk away?
    Where were, where were you?
    How do you, how do you just walk away?
    Where were, where were you?

    คุณทำได้ยังไง เดินจากผมไปได้ยังไงกัน?
    คุณไปอยู่ที่ไหนนะ?
    คุณทำได้ยังไง เดินจากผมไปได้ยังไงกัน?
    คุณไปอยู่ที่ไหนนะ?

    And I hope you had a good reason
    ‘Cause I know you had a good time
    And I’m looking up at the ceiling
    And I keep wondering why

    และผมหวังว่าคุณคงมีเหตุผลที่ดีที่จากผมไปนะ
    เพราะผมรู้ว่า คุณมีช่วงเวลาที่ดีกับผม
    ผมได้แต่มองเพดาน
    และยังคงสงสัยว่าทำไม

    Where were you in the morning, baby?
    Where were you in the morning?
    You didn’t leave your number for me
    You didn’t leave your number
    Left me without a warning, babe
    Left me without a warning
    I said, where were you in the morning baby?
    Where were you in the morning?

    ตอนเช้าคุณไปอยู่ที่ไหนกันที่รัก?
    เช้าวันนั้นคุณหายไปไหน
    คุณไม่ได้ทิ้งเบอร์โทรไว้ให้ผม
    คุณไม่ได้ทิ้งเบอร์โทรไว้ด้วยซ้ำ
    ที่รักคุณทิ้งผมไปโดยไม่มีสัญญาณเตือนสักนิด
    ทิ้งผมไปโดยไม่บอกกล่าวอะไรเลย
    ผมได้แต่ถามว่า ที่รักเช้าวันนั้นคุณไปอยู่ที่ไหน?
    ที่รักเช้าวันนั้นคุณไปอยู่ที่ไหน?

    How do you, how do you just walk away?
    Where were, where were you?
    How do you, how do you just walk away?
    Where were, where were you?
    How do you, how do you just walk away?
    Where were, where were you?
    How do you, how do you just walk away?
    Where were, where were you?

    คุณทำได้ยังไง เดินจากผมไปได้ยังไงกัน?
    คุณหายไปอยู่ที่ไหน?
    คุณทำได้ยังไง เดินจากผมไปได้ยังไงกัน?
    คุณหายไปอยู่ที่ไหน?
    คุณทำได้ยังไง เดินจากผมไปได้ยังไงกัน?
    คุณหายไปอยู่ที่ไหน?
    คุณทำได้ยังไง เดินจากผมไปได้ยังไงกัน?
    คุณหายไปอยู่ที่ไหน?


    get someone’s hopes up:
    to make someone expect something that they want even though you are not certain it will happen
    ทำให้คนคาดหวังว่ามันจะเกิดขึ้น แม้ว่าคนพูดเองจะไม่แน่ใจว่าจะเกิดขึ้นได้จริงรึเปล่า
    ที่มา: https://www.macmillandictionary.com/dictionary/british/get-someone-s-hopes-up-build-someone-s-hopes-up-raise-someone-s-hopes

  • Clean Bandit – Solo feat. Demi Lovato แปลเพลงสากล


    เพลง Solo เป็นเพลงใหม่ของ Clean Bandit เป็นเพลงแนว EDM ค่ะ ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2018 ได้เสียงร้องเพราะๆ ของนักร้องเพลงป๊อปชื่อ Demu Lovato ยิ่งทวีความเพราะเข้าไปอีก เนื้อเพลงเกี่ยวกับความรักที่จบลงไปแล้ว ยังอยู่ในช่วงเฮิร์ต ยังไม่มีใครแทนเธอได้ วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กันนะคะ


    It solo, solo, everybody
    It solo, everybody
    It solo, solo, everybody
    Woop woop woop woop woop woop woop

    เต้นคนเดียวได้ ฉันเต้นคนเดียวได้นะ ทุกคน
    ฉายเดี่ยวเลย ทุกคน
    เต้นคนเดียวได้ ฉันเต้นคนเดียวได้นะ ทุกคน
    มาสนุกกัน

    I never meant to leave you hurting
    I never meant to do the worst thing
    Not to you (it solo, solo, everybody)
    ‘Cause every time I read your message
    I wish I wasn’t one of your exes
    Now I’m the fool (it solo, solo, everybody)

    ฉันไม่ได้ตั้งใจทิ้งให้คุณเจ็บปวดนะ
    ฉันไม่ได้ตั้งใจทำสิ่งที่แย่
    ไม่ใช่คุณ (ฉายเดี่ยวเลย ฉายเดี่ยวเลย ทุกคน)
    เพราะทุกๆ ครั้งที่ฉันอ่านข้อความของคุณ
    ฉันปรารถนาว่า ฉันต้องไม่เป็นหนึ่งในแฟนเก่าของคุณ
    แต่ตอนนี้ฉันโง่จริงๆ (ฉายเดี่ยวเลย ฉายเดี่ยวเลย ทุกคน)

    Since you’ve been gone
    Been dancing on my own
    There’s boys up in my zone
    But they can’t turn me on
    ‘Cause baby you’re, the only one I’m coming for
    I can’t take no more, no more, no more

    ตั้งแต่ที่คุณจากไป
    ฉันยืนเต้นคนเดียวมาตลอด
    มีผู้ชายมากมายเข้ามาหาฉัน
    แต่พวกเขาไม่สามารถทำให้ฉันสนใจได้
    เพราะว่าที่รัก คุณคือคนเดียวที่ฉันตามหา
    ฉันไม่ต้องการใครอีกแล้ว ไม่อีกแล้ว ไม่อีกแล้ว

    I wanna f-woop woop woop, but I’m broken hearted
    Cr-cr-cry but I like to party
    T-t-touch but I got nobody
    Here on my own
    I wanna f-woop woop woop, but I’m broken hearted
    Cr-cr-cry since the day we parted
    T-t-touch but I got nobody
    So I do it solo

    ฉันอยากสนุก อยากตื่นเต้น อยากพอใจ แต่ความจริงแล้วฉันอกหัก
    ได้แต่ร้องไห้ ฉันชอบปาร์ตี้นะ
    อยากจะสัมผัสใครสักคน แต่ฉันไม่มีใคร
    ฉันอยู่ที่นี้เพียงลำพัง
    ฉันอยากสนุก อยากตื่นเต้น อยากพอใจ แต่ความจริงแล้วฉันอกหัก
    เอาแต่ร้องไห้ตั้งแต่วันที่เราแยกทางกัน
    อยากจะสัมผัสใครสักคน แต่ฉันไม่มีใคร
    ดังนั้นเออ ฉายเดี่ยวก็ได้วะ

    It solo, solo, everybody
    It solo, everybody
    It solo, solo, everybody
    I do it solo
    It solo, solo, everybody
    It solo, everybody
    It solo, solo, everybody
    I do it solo

    เต้นคนเดียวได้ ฉันเต้นคนเดียวได้นะ ทุกคน
    ฉายเดี่ยวเลย ทุกคน
    เต้นคนเดียวได้ ฉันเต้นคนเดียวได้นะ ทุกคน
    ฉันฉายเดี่ยวเลยละกัน
    เต้นคนเดียวได้ ฉันเต้นคนเดียวได้นะ ทุกคน
    ฉายเดี่ยวเลย ทุกคน
    เต้นคนเดียวได้ ฉันเต้นคนเดียวได้นะ ทุกคน
    ฉันฉายเดี่ยวเลยละกัน

    Every single night I lose it
    I can’t even hear the music without you (it solo, solo, everybody)
    Ah, yeah, yeah
    Try to stop myself from calling
    But I really wanna know if you’re, with someone new (it solo, solo, everybody)

    ทุกๆ คืนฉันเสียสติไปแล้ว
    ฉันไม่ได้ยินเสียงดนตรีเมื่อไม่มีคุณอยู่ข้างกัน (ฉายเดี่ยวกัน ฉายเดี่ยวกัน ทุกคน)
    Ah, yeah, yeah
    ฉันพยายามห้ามตัวเองไม่ให้เรียกหาคุณ
    แต่ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่าคุณอยู่กับคนใหม่รึเปล่า? (ฉายเดี่ยวกัน ฉายเดี่ยวกัน ทุกคน)

    Since you’ve been gone
    I’ve been dancing on my own
    There’s boys up in my zone
    But they can’t turn me on
    ‘Cause baby you’re the only one I’m coming for
    I can’t take no more, no more, no more

    ตั้งแต่ที่คุณจากไป
    ฉันยืนเต้นคนเดียวมาตลอด
    มีผู้ชายมากมายเข้ามาหาฉัน
    แต่พวกเขาไม่สามารถทำให้ฉันสนใจได้
    เพราะว่าที่รัก คุณคือคนเดียวที่ฉันตามหา
    ฉันไม่ต้องการใครอีกแล้ว ไม่อีกแล้ว

    I wanna f-woop woop woop, but I’m broken hearted
    Cr-cr-cry but I like to party
    T-t-touch but I got nobody
    Here on my own
    I wanna f-woop woop woop, but I’m broken hearted
    Cr-cr-cry since the day we parted
    T-t-touch but I got nobody
    So I do it solo

    ฉันอยากสนุก อยากตื่นเต้น อยากพอใจ แต่ความจริงแล้วฉันอกหัก
    ได้แต่ร้องไห้ ฉันชอบปาร์ตี้นะ
    อยากจะสัมผัสใครสักคน แต่ฉันไม่มีใคร
    ฉันอยู่ที่นี้เพียงลำพัง
    ฉันอยากสนุก อยากตื่นเต้น อยากพอใจ แต่ความจริงแล้วฉันอกหัก
    เอาแต่ร้องไห้ตั้งแต่วันที่เราแยกทางกัน
    อยากจะสัมผัสใครสักคน แต่ฉันไม่มีใคร
    ดังนั้นเออ ฉายเดี่ยวก็ได้วะ

    It solo, solo, everybody
    It solo, everybody
    It solo, solo, everybody
    I do it solo
    It solo, solo, everybody
    It solo, everybody
    It solo, solo, everybody
    I do it solo

    เต้นคนเดียวได้ ฉันเต้นคนเดียวได้นะ ทุกคน
    ฉายเดี่ยวเลย ทุกคน
    เต้นคนเดียวได้ ฉันเต้นคนเดียวได้นะ ทุกคน
    ฉันฉายเดี่ยวเลยละกัน
    เต้นคนเดียวได้ ฉันเต้นคนเดียวได้นะ ทุกคน
    ฉายเดี่ยวเลย ทุกคน
    เต้นคนเดียวได้ ฉันเต้นคนเดียวได้นะ ทุกคน
    ฉันฉายเดี่ยวเลยละกัน

    Can do it solo

    ทำคนเดียวได้ไหมล่ะ

    I wanna f-woop woop woop, but I’m broken hearted
    Cr-cr-cry but I like to party
    T-t-touch but I got nobody
    Here on my own (here on my own)
    I wanna f-woop woop woop, but I’m broken hearted
    Cr-cr-cry since the day we parted
    T-t-touch but I got nobody
    So I do it solo

    ฉันอยากสนุก อยากตื่นเต้น อยากพอใจ แต่ความจริงแล้วฉันอกหัก
    ได้แต่ร้องไห้ ฉันชอบปาร์ตี้นะ
    อยากจะสัมผัสใครสักคน แต่ฉันไม่มีใคร
    ฉันอยู่ที่นี้เพียงลำพัง
    ฉันอยากสนุก อยากตื่นเต้น อยากพอใจ แต่ความจริงแล้วฉันอกหัก
    เอาแต่ร้องไห้ตั้งแต่วันที่เราแยกทางกัน
    อยากจะสัมผัสใครสักคน แต่ฉันไม่มีใคร
    ดังนั้นเออ ฉายเดี่ยวก็ได้วะ

    It solo, solo, everybody
    It solo, everybody
    It solo, solo, everybody
    I do it solo (it solo, solo, everybody)
    It solo, solo, everybody
    It solo, everybody
    It solo, solo, everybody
    I do it solo

    เต้นคนเดียวได้ ฉันเต้นคนเดียวได้นะ ทุกคน
    ฉายเดี่ยวเลย ทุกคน
    เต้นคนเดียวได้ ฉันเต้นคนเดียวได้นะ ทุกคน
    ฉันฉายเดี่ยวเลยละกัน (เต้นคนเดียวได้อยู่แล้ว ทุกคน)
    เต้นคนเดียวได้ ฉันเต้นคนเดียวได้นะ ทุกคน
    ฉายเดี่ยวเลย ทุกคน
    เต้นคนเดียวได้ ฉันเต้นคนเดียวได้นะ ทุกคน
    ฉันฉายเดี่ยวเลยละกัน

    So I do it solo

    ดังนั้นฉันฉายเดี่ยวเลยละกัน


    fwoop:
    Used to convey a feeling of excitement, satisfaction or joy
    ใช้เพื่อแสดงถึงความตื่นเต้น ความพึงพอใจ ความปิติ
    ที่มา: https://www.urbandictionary.com/define.php?term=fwoop

    *ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ

  • Alan Walker – All Falls Down ft. Noah Cyrus with Digital Farm Animals แปลเพลงสากล


    All Falls Down นั้นเป็นเพลงของนักดนตรีและ DJ ชาวนอร์เวย์ Alan Walker โดยร่วมกับนักร้องหญิงชาวอเมริกา Noah Cyrus และดีเจและนักโปรดิวเซอร์เพลงชาวอังกฤษ Digital Farm Animals เพลงได้ถูกประกอบขึ้นโดย Digital Farm Animals, Pablo Bowman, Sarah Blanchard และดำเนินการผลิตโดย Walker, Mood Melodies และ The Six สำหรับเนื้อร้องเขียนโดย The Six, Bowman, Blanchard และ Daniel Boyle เพลงได้ถูกเปิดตัวใน 27 ตุลาคม 2017 ทาง Mer Musikk และ Ultra Music วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    What’s the trick? I wish I knew
    I’m so done with thinking through all the things I could’ve been
    And I know you want me, too
    All it takes is that one look at you and I run right back to you
    You cross that line and it’s time to say F you

    อะไรคือเคล็ดลับ ฉันหวังว่าฉันจะได้รู้
    ฉันได้คิดถึงทุกอย่างที่ฉันสามารถจะมีได้
    และฉันรู้ว่าคุณต้องการฉันเช่นกัน
    ทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือเมื่อฉันมองคุณ มันทำให้ฉันวิ่งกลับไปหาคุณ
    คุณได้ข้ามผ่านเส้นนั้น และมันถึงเวลาที่จะบอกว่า F you

    What’s the point in saying that when you know how I’ll react?
    You think you can just take it back, but shit just don’t work like that
    You’re the drug that I’m addicted to, and I want you so bad
    Guess I’m stuck with you, and that’s that

    จุดประสงค์ของการพูดแบบนั้นคืออะไร ในเมื่อคุณก็รู้ว่าฉันจะโต้ตอบไปยังไง
    คุณคิดว่าคุณสามารถทำให้มันกลับมาเหมือนเดิมได้ แต่ให้ตายเถอะอย่าทำแบบนั้นเลย
    คุณเป็นยาเสพติดที่ฉันเสพติด และฉันต้องการคุณตลอดเวลา
    เดาว่าฉันกำลังหลงคุณอยู่ และนั่นแหละ

    ‘Cause when it all falls down, then whatever
    When it don’t work out for the better
    If it just ain’t right, and it’s time to say goodbye
    When it all falls down, when it all falls down
    I’ll be fine
    I’ll be fine
    You’re the drug that I’m addicted to
    And I want you so bad, but I’ll be fine

    เพราะเมื่อทุกอย่างพังทลายลง แล้วไม่ว่าอะไร
    เมื่อมันไม่ไปด้วยดีอย่างที่เราคิด
    ถ้ามันไม่โอเค มันก็ถึงเวลาที่จะบอกลา
    เมื่อทุกอย่างพังทลายลง เมื่อทุกอย่างพังทลายลง
    ฉันยังสบายดี
    ฉันยังสบายดี
    คุณเป็นยาเสพติดที่ฉันเสพติด
    และฉันต้องการคุณตลอดเวลา แต่ฉันยังสบายดี

    Why we fight? I don’t know
    We say what hurts the most
    Oh, I tried staying cold, but you take it personal
    All these firing shots and making ground
    It’s way too hard to cope, but I still can’t let you go

    ทำไมเราต้องมาทะเลาะกันด้วย ฉันไม่เข้าใจ
    เราถามว่าอะไรที่ทำให้เสียใจมากที่สุด
    โอ้ ฉันพยายามที่จะเงียบแล้ว แต่คุณก็ใช้อารมณ์รุนแรงตลอดเลย
    กระสุนที่คุณยิงมานั้นโดนฉันเต็มๆ และมันได้ตกลงพื้น
    มันยากมากที่จะรับมือกับเรื่องแบบนี้ แต่ฉันยังคงไม่สามารถปล่อยคุณไปได้

    ‘Cause when it all falls down, then whatever
    When it don’t work out for the better
    If it just ain’t right, and it’s time to say goodbye
    When it all falls down, when it all falls down
    I’ll be fine
    I’ll be fine
    You’re the drug that I’m addicted to and I want you so bad
    But I’ll be fine

    เพราะเมื่อทุกอย่างพังทลายลง แล้วไม่ว่าอะไร
    เมื่อมันไม่ไปด้วยดีอย่างที่เราคิด
    ถ้ามันไม่โอเค มันก็ถึงเวลาที่จะบอกลา
    เมื่อทุกอย่างพังทลายลง เมื่อทุกอย่างพังทลายลง
    ฉันยังสบายดี
    ฉันยังสบายดี
    คุณเป็นยาเสพติดที่ฉันเสพติด และฉันต้องการคุณตลอดเวลา
    แต่ฉันยังสบายดี

    I’ll be fine, fine, fine
    Fine, fine, fine, fine, fine
    I’ll be fine, fine, fine
    Fine, fine, fine, fine, fine
    I’ll be fine, fine, fine
    Fine, fine, fine, fine, fine
    I’ll be fine, fine, fine
    Fine, fine, fine, fine, fine

    ฉันยังสบายดี
    สบายดี
    ฉันยังสบายดี
    สบายดี
    ฉันยังสบายดี
    สบายดี
    ฉันยังสบายดี
    สบายดี

    ‘Cause when it all falls down, then whatever (Then whatever, babe)
    When it don’t work out for the better (For the better)
    If it just ain’t right, and it’s time to say goodbye
    When it all falls down (When it all, when it all)
    When it all falls down (When it all falls down)
    I’ll be fine
    (Fine, fine, fine) I’ll be fine (I’ll be fine)
    You’re the drug that I’m addicted to and I want you so bad
    But I’ll be fine (I’ll be fine), and that’s that

    เพราะเมื่อทุกอย่างพังทลายลง แล้วไม่ว่าอะไร (แล้วไม่ว่าอะไร ที่รัก)
    เมื่อมันไม่ไปด้วยดีอย่างที่เราคิด (เพื่อให้ดีขึ้น)
    ถ้ามันไม่โอเค มันก็ถึงเวลาที่จะบอกลา
    เมื่อทุกอย่างพังทลายลง (อทุกอย่าง อทุกอย่าง)
    เมื่อทุกอย่างพังทลายลง (เมื่อทุกอย่างพังทลายลง)
    ฉันยังสบายดี
    (สบายดี) ฉันยังสบายดี (ฉันยังสบายดี)
    คุณเป็นยาเสพติดที่ฉันเสพติด และฉันต้องการคุณตลอดเวลา
    แต่ฉันยังสบายดี (ฉันยังสบายดี) และฉันยังสบายดี


    Take it personal
    หมายถึง To be offended or upset by what someone said.
    – He says unkind things to everyone. Try not to take it personally.
    – เขาพูดในส่งที่ดุร้ายกับทุกคน พยายามอย่าเป็นคนที่อารมณ์รุนแรงแบบนั้น
    ที่มา: https://www.merriam-webster.com/dictionary/take%20it%20personally

  • Calum Scott – What I Miss Most แปลเพลงสากล


    What I Miss Most นั้นเป็นเพลงของนักร้องและนักดนตรีชาวอังกฤษ Calum Scott มันถูกเปิดตัว 29 มีนาคม 2018 โดย Capitol Records จากอัลบั้ม Only Human (2018) เพลงได้เขียนโดย Calum Scott, OZGO, James Alan Ghaleb และ Corey Sanders โดยในเนื้อเพลงนั้นจะเป็นการพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตที่น่าจดจำ และเมื่อเวลาผ่านไปหลายปีจนเป็นผู้ใหญ่เขาคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้น วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    It must have been a year since
    I was thrown across an ocean far from home
    And I was making oceans
    Riding in between the highs and lows

    มันก็ได้ผ่านมานับปีแล้วตั้งแต่
    ฉันได้ออกเดินทะเล และห่างไกลจากบ้าน
    และฉันได้เดินทางข้ามมหาสมุทร
    ล่องเรือระหว่างคลื่นสูงและต่ำที่ซัดผ่าน

    Ooh, when I wake in the morning I
    Ooh, it’s the first on my mind

    โอ้ เมื่อฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า
    โอ้ นี่เป็นสิ่งแรกที่ฉันคิดถึง

    Maybe what I miss most
    It wasn’t made of steel and stones
    And maybe what I miss most
    It wasn’t born of skin and bone
    Under the sun, up on the waves
    Under three climbs when I’m far away
    Maybe what I miss most

    บางทีสิ่งที่ฉันคิดถึงมากที่สุด
    มันไม่ได้สร้างมาจากเหล็กและหิน
    และบางทีสิ่งที่ฉันคิดถึงมากที่สุด
    มันไม่ได้เกิดขึ้นมาจากเนื้อหนังและกระดูก
    มันอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ และอยู่เหนือคลื่น
    ใต้ต้นไม้ที่ฉันเคยปีน เมื่อฉันห่างไกลจากบ้าน
    บางทีสิ่งที่ฉันคิดถึงมากที่สุด

    And maybe you’ll never know
    And maybe you’ll never know
    And maybe you’ll never know

    และบางทีคุณก็ไม่เคยรู้หรอก
    และบางทีคุณก็ไม่เคยรู้หรอก
    และบางทีคุณก็ไม่เคยรู้หรอก

    Life beyond the window
    I’m jealous of the way the black bird flies
    Free among the people
    Those quarter million stories pass me by

    การใช้ชีวิตภายนอกหน้าต่างนั้น
    ฉันอิจฉานกสีดำตัวนั้นที่มันบินได้
    มันเป็นอิสระจากผู้คน
    เรื่องราวนับล้านเหล่านั้น ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

    Ooh, lie awake in the moonlight I
    Ooh, it’s the last on my mind

    โอ้ นอนอยู่ภายใต้แสงจันทร์
    โอ้ นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่อยู่ในความคิดของฉัน

    And maybe what I miss most
    It wasn’t made of steel and stone
    And maybe what I miss most
    It wasn’t born of skin and bone
    Under the sun, above the waves
    Under three climbs and I’m far away
    Maybe what I miss most

    และบางทีสิ่งที่ฉันคิดถึงมากที่สุด
    มันไม่ได้สร้างมาจากเหล็กและหิน
    และบางทีสิ่งที่ฉันคิดถึงมากที่สุด
    มันไม่ได้เกิดขึ้นมาจากเนื้อหนังและกระดูก
    มันอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ และอยู่เหนือคลื่น
    ใต้ต้นไม้ที่ฉันปีน เมื่อฉันห่างไกลจากบ้าน
    บางทีสิ่งที่ฉันคิดถึงมากที่สุด

    And maybe you’ll never know
    And maybe you’ll never know
    And maybe you’ll never know

    และบางทีคุณก็ไม่เคยรู้หรอก
    และบางทีคุณก็ไม่เคยรู้หรอก
    และบางทีคุณก็ไม่เคยรู้หรอก

    I remember at the table
    All those faces, where did they go?
    I imagine how it looks like
    When I’m not there
    I remember, every summer
    But now that years are, just a number
    There’s no backwards
    Time is faster with everything I’ve left behind, oh

    ฉันจำบนโต๊ะอาหาร ที่เคยนั่งด้วยกันพร้อมหน้า
    ใบหน้าทั้งหมดนั่น ในตอนนี้พวกเขาไปไหนหมด
    ฉันจินตนาการว่ามันเป็นอย่างไร
    เมื่อฉันไม่ได้อยู่ที่นั่น
    ฉันจำได้ ในทุกๆ หน้าร้อน
    แต่ตอนนี้ หลายปีที่ผ่านไป เป็นแค่เพียงตัวเลข
    มันย้อนกลับไม่ได้
    เวลาผ่านไปเร็วมากในทุกสิ่งๆ และเรื่องราวทุกอย่างในชีวิตของฉัน

    But maybe what I miss most
    It wasn’t made of steel and stone
    And maybe what I miss most
    It wasn’t born of skin and bone
    ‘Cause under the sun, above the waves
    Under three climbs and I’m far away
    Maybe what I miss most

    แต่บางทีสิ่งที่ฉันคิดถึงมากที่สุด
    มันไม่ได้สร้างมาจากเหล็กและหิน
    และบางทีสิ่งที่ฉันคิดถึงมากที่สุด
    มันไม่ได้เกิดขึ้นมาจากเนื้อหนังและกระดูก
    มันอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ และอยู่เหนือคลื่น
    ใต้ต้นไม้ที่ฉันปีน เมื่อฉันห่างไกลจากบ้าน
    บางทีสิ่งที่ฉันคิดถึงมากที่สุด

    And maybe you’ll never know
    And maybe you’ll never know
    And maybe you’ll never know

    และบางทีคุณก็ไม่เคยรู้หรอก
    และบางทีคุณก็ไม่เคยรู้หรอก
    และบางทีคุณก็ไม่เคยรู้หรอก


    Pass someone by:
    happen without being noticed or fully experienced by someone.
    เกิดขึ้นหรือผ่านไปเร็วมากจนไม่ทันสังเกตุ
    ตัวอย่างประโยค “บางครั้งฉันรู้สึกว่าเวลาในชีวิตได้ผ่านไปเร็วมาก