Category: Uncategorized

  • Kygo & Ellie Goulding – First Time แปลเพลงสากล


    First Time นั้นเป็นเพลงของดีเจและโปรดิวเซอร์เพลงชาวนอร์เวย์ Kygo และนักร้องและนักเขียนเพลงหญิงชาวอังกฤษ Ellie Goulding เพลงได้เปิดตัวโดยค่ายเพลง Sony Music Entertainment และ Ultra Music ใน 8 เมษายน 2017 เป็นซิงเกิลที่สองจาก EP แรกของ Kygo ที่มีชื่อว่า Stargazing (2017) เพลงได้ถูกเขียนโดย Jeremy Chacon, Jonas Kalisch, Alexsej Vlasenko, Henrik Meinke และ Kygo ในขณะที่ควบคุมการผลิตโดย Hitimpulse และ Kygo ในเนื้อเพลง Goulding พูดถึงความทรงจำความรักครั้งแรกในวัยเด็กของเธอ เธออยากจะย้อนเวลากลับไปและทำในสิ่งที่เคยทำอีกครั้ง วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    We were lovers for the first time
    Running all the red lights
    The middle finger was our peace sign, yeah
    We were sipping on emotions
    Smoking and inhaling every moment
    It was reckless and we owned it, yeah, yeah

    นั่นเป็นความรักครั้งแรกสำหรับเรา
    และเราได้ขับรถผ่านไฟแดงทุกๆ ที่
    นิ้วกลางเป็นสัญลักษณ์แห่งความสงบสุขของเรา
    เราได้สนุกกับความรู้สึกเหล่านั้น
    สูบบุหรี่และสูดดมควันทุกๆ ครั้ง
    มันเป็นสิ่งไม่ยั้งคิดที่เราได้ทำไป

    We were high and we were sober
    We were under, we were over
    We were young and now I’m older
    But I’d do it all again

    เราเคยเมา และเราเริ่มมีสติ
    เราเคยอยู่ภายใต้ และอยู่เหนือกว่า
    เราเคยเป็นเด็ก และในตอนนี้ฉันเติบโตขึ้น
    แต่ฉันจะทำมันทั้งหมดอีกครั้ง

    Getting drunk on a train track
    Way back, when we tried our first cigarettes (oh)
    Ten dollars was a fat stack
    I’d do it all again (oh)
    Bomber jacket and a snapback
    Your dad’s black Honda was a Maybach (oh)
    “Re: Stacks” on the playback
    I’d do it all again (oh)

    ที่เราเคยเมาและนอนอยู่บนทางรถไฟ
    ย้อนกลับไป ในตอนที่เราลองสูบบุหรี่ม้วนแรก
    สิบดอลลาร์นั้นเคยเป็นเงินก้อนใหญ่
    ฉันจะทำมันทั้งหมดอีกครั้ง
    เสื้อแจ็คเก็ตบอมเบอร์กับหมวก SnapBack
    รถฮอนด้าสีดำของพ่อคุณเป็นรุ่น Maybach
    เปิดเพลิง “Re: Stacks” ฟังอีกครั้ง
    ฉันจะทำมันทั้งหมดอีกครั้ง

    We were lovers on a wild ride
    Speeding for the finish line
    Come until the end of our time, yeah
    Started off as a wildfire
    Burning down the bridges to our empire
    Our love was something they could admire, yeah, yeah

    เราเป็นคนรักในแบบที่ขับรถไปด้วยกันทุกที่
    เรารีบเร่งความเร็วเพื่อเข้าสู่เส้นชัย
    แล้วมันก็มาถึงเวลาสิ้นสุดของเรา
    แล้วไฟป่าก็ได้เริ่มต้นขึ้น
    มันเผาสะพานที่ใช้ข้ามไปยังอาณาจักรของเรา
    ความรักของเราเป็นสิ่งที่พวกเขาน่าจะชมเชย

    We were high and we were sober
    We were under, we were over
    We were young and now I’m older
    But I’d do it all again

    เราเคยเมา และเราเริ่มมีสติ
    เราเคยอยู่ภายใต้ และอยู่เหนือกว่า
    เราเคยเป็นเด็ก และในตอนนี้ฉันเติบโตขึ้น
    แต่ฉันจะทำมันทั้งหมดอีกครั้ง

    Getting drunk on a train track
    Way back, when we tried our first cigarettes (oh)
    Ten dollars was a fat stack
    I’d do it all again (oh)
    Bomber jacket and a snapback
    Your dad’s black Honda was a Maybach (oh)
    “Re: Stacks” on the playback
    I’d do it all again (oh)

    ที่เราเคยเมาและนอนอยู่บนทางรถไฟ
    ย้อนกลับไป ในตอนที่เราลองสูบบุหรี่ม้วนแรก
    สิบดอลลาร์นั้นเคยเป็นเงินก้อนใหญ่
    ฉันจะทำมันทั้งหมดอีกครั้ง
    เสื้อแจ็คเก็ตบอมเบอร์กับหมวก SnapBack
    รถฮอนด้าสีดำของพ่อคุณเป็นรุ่น Maybach
    เปิดเพลิง “Re: Stacks” ฟังอีกครั้ง
    ฉันจะทำมันทั้งหมดอีกครั้ง

    Stack stack, stack stack, oh oh
    Speed speed, speed speed oh oh
    Stack stack, stack stack, oh oh
    Speed speed, speed speed oh oh
    Stack stack, stack stack, oh oh
    Speed speed, speed speed oh oh
    Stack stack, stack stack, oh oh
    Speed speed, speed speed oh oh
    Stack stack, stack stack, oh oh

    เงินก้อนใหญ่ โอ้ โอ้
    เร่งความเร็ว โอ้ โอ้
    เงินก้อนใหญ่ โอ้ โอ้
    เร่งความเร็ว โอ้ โอ้
    เงินก้อนใหญ่ โอ้ โอ้
    เร่งความเร็ว โอ้ โอ้
    เงินก้อนใหญ่ โอ้ โอ้
    เร่งความเร็ว โอ้ โอ้
    เงินก้อนใหญ่ โอ้ โอ้


    Fat stack: หมายถึง
    A huge wad of money, usually 100’s and 50’s, carried around by ballers, drug dealers, or rich ass bastards
    เงินก้อนใหญ่ที่มักรวมกันเป็นปึก
    ที่มา: https://www.urbandictionary.com/define.php?term=fat%20stack

  • DJ Khaled – No Brainer ft. Justin Bieber, Chance the Rapper, Quavo แปลเพลงสากล


    เพลง No Brainer เป็นเพลงของ DJ Khaled ที่ขนนักร้องคุณภาพ Justin Bieber, Chance the Rapper, Quavo มาร่วมร้องเพลงให้เราได้ฟังกัน เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม 2018 อยู่ในอัลบั้ม Father of Asahd จังหวะเพลงสนุกมาก วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กันค่ะ


    We the Best Music!
    Another one!
    DJ Khaled!

    เราคือดนตรีที่ยอดเยี่ยมที่สุด
    มีใครอีกไหม!
    ดีเจ Khaled!

    You stick out of the crowd, baby, it’s a no-brainer
    It ain’t that hard to choose
    Him or me, be for real, baby, it’s a no-brainer
    You got your mind unloose
    Go hard and watch the sun rise
    One night’ll change your whole life
    Off top, drop-top, baby it’s a no-brainer
    Put ’em up if you with me
    Yeah, yeah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    In the middle, woah
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    Put ’em high
    Put ’em high
    Yeah-eah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    Both arms, yeah
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    Put ’em high

    คุณสังเกตเห็นได้ง่ายๆ ท่ามกลางผู้คนมากมายนี้ ไม่ต้องใช้สมองคิดให้เหนื่อยเลย
    มันไม่ยากเลยที่จะเลือก
    เขาหรือผมดีล่ะ ตามตรงนะที่รัก มันง่ายมากที่จะตัดสินใจ
    สติคุณยังครบถ้วน
    ไปจัดหนักกันจากนั้นนั่งมองพระอาทิตย์ขึ้น
    แค่คืนเดียวจะเปลี่ยนชีวิตคุณ
    รถธรรมดามีหลังคาปิด หรือรถเปิดประทุนหรูๆ ตัดสินใจง่ายมาก
    ยกมือของคุณขึ้นสูงๆ สิ ถ้าคุณอยากอยู่กับผม
    Yeah, yeah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    ลงมากลางๆ หน่อย
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    สูงขึ้นอีก
    สูงขึ้นอีก
    Yeah-eah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    ยกทั้งสองข้างเลย เย้
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    สูงขึ้นอีก

    Quavo!
    Mama told you don’t talk to strangers (mama, mama, mama!)
    But when you’re ridin’ in the drop, you can’t explain it (skrrt, skrrt, skrrt-skrrt)
    What you been waitin’ on this whole time? (Yeah)
    I blow the brains outta your mind (ooh)
    And I ain’t talkin’ ’bout physically (no)
    I’m talkin’ ’bout mentally (talkin’ ’bout mentally)
    She lookin’, she look like she nasty (she lookin’)
    She lookin’, she look like she classy (she lookin’)
    She lookin’, just look at her dancin’ (look at her)
    She lookin’, I took her to the mansion (yeah, yeah)

    Quavo!
    แม่คุณคงบอกคุณว่า อย่าไปคุยกับคนแปลกหน้า
    แต่เมื่อคุณกำลังขี่จักรยานเสือภูเขาและจับ drops ไปด้วย คุณอธิบายมันไม่ได้หรอก (หนีไปให้ไกล)
    อะไรที่คุณรอคอยมาทั้งชีวิต
    ผมระเบิดสมองให้ออกจากความคิดของคุณ
    และผมไม่อยากพูดถึงเรื่องของร่างกาย
    ผมจะพูดถึงเรื่องของจิตใจเท่านั้น
    เธอกำลังมอง เธอดูคล้ายกับหญิงสาวที่น่ารังเกียจ (เธอกำลังมอง)
    เธอกำลังมอง เธอดูคล้ายกับหญิงสาวไฮโซผู้ดี (เธอกำลังมอง)
    เธอกำลังมอง มองดูการเต้นของเธอสิ (มองเธอสิ)
    เธอกำลังมอง ผมพาเธอไปคฤหาสน์มาแล้ว

    You stick out of the crowd, baby, it’s a no-brainer
    It ain’t that hard to choose
    Him or me, be for real, baby, it’s a no-brainer
    You got your mind unloose
    Go hard and watch the sun rise
    One night’ll change your whole life
    Off top, drop-top, baby it’s a no-brainer
    Put ’em up if you with me
    Yeah, yeah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    In the middle, woah
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    Put ’em high
    Put ’em high
    Yeah-eah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    Both arms, yeah
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    Put ’em high

    คุณสังเกตเห็นได้ง่ายๆ ท่ามกลางผู้คนมากมายนี้ ไม่ต้องใช้สมองคิดให้เหนื่อยเลย
    มันไม่ยากเลยที่จะเลือก
    เขาหรือผมดีล่ะ ตามตรงนะที่รัก มันง่ายมากที่จะตัดสินใจ
    สติคุณยังครบถ้วน
    ไปจัดหนักกันจากนั้นนั่งมองพระอาทิตย์ขึ้น
    แค่คืนเดียวจะเปลี่ยนชีวิตคุณ
    รถธรรมดามีหลังคาปิด หรือรถเปิดประทุนหรูๆ ตัดสินใจง่ายมาก
    ยกมือของคุณขึ้นสูงๆ สิ ถ้าคุณอยากอยู่กับผม
    Yeah, yeah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    ลงมากลางๆ หน่อย
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    สูงขึ้นอีก
    สูงขึ้นอีก
    Yeah-eah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    ยกทั้งสองข้างเลย เย้
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    สูงขึ้นอีก

    Don’t look rich, I ain’t got no chain (huh)
    Not on the list, I ain’t got no name
    But we in this bitch, bitch, I’m not no lame
    And I keep it Ben Franklin, I’m not gon’ change
    Lot of these hoes is messy (messy)
    I just want you and your bestie
    Y’all don’t gotta answer for whenever you text me
    It’s multiple choice and they all wanna test me
    She ch-ch-ch-ch-choosin’ the squad
    She tryna choose between me, Justin, Qua’ and Asahd
    She told me that she love that I make music for God
    I told her I would love to see that ***** applaud

    ไม่ได้ดูรวย ไม่ใช่ไม่มีโซ่ทองอันใหญ่
    ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ ผมไม่ใช่คนไร้ชื่อ
    แต่พวกเราอยู่ในสิ่งแย่ๆ พวกนี้ ผมไม่ใช่คนอ่อนแอ
    และผมจะเก็บมันไว้ Ben Franklin ผมไม่อยากเปลี่ยน
    ผู้หญิงมากมายพวกนี้ที่ติดใจผม ทำให้วุ่นวาย
    ผมต้องการแค่คุณ และเพื่อนซี้ของคุณ
    คุณยังไม่ต้องตอบ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณส่งข้อความมาหาผม
    มันมีทางเลือกมากมาย และพวกเขาทุกคนต้องการทดสอบผม
    เธอกำลังเลือกทีม
    เธอพยายามเลือกระหว่าง ผม Justin, Qua’ และ Asahd
    เธอบอกผมว่า เธอรักที่ผมทำเพลงๆ ดี เพื่อพระเจ้า
    ผมบอกกับเธอว่า ผมต้องการที่จะเห็น **** ปรบมือหน่อย

    You stick out of the crowd, baby, it’s a no-brainer
    It ain’t that hard to choose
    Him or me, be for real, baby, it’s a no-brainer
    You got your mind unloose
    Go hard and watch the sun rise
    One night’ll change your whole life
    Off top, drop-top, baby it’s a no-brainer
    Put ’em up if you with me
    Yeah, yeah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    In the middle, woah
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    Put ’em high
    Put ’em high
    Yeah-eah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    Both arms, yeah
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    Put ’em high

    คุณสังเกตเห็นได้ง่ายๆ ท่ามกลางผู้คนมากมายนี้ ไม่ต้องใช้สมองคิดให้เหนื่อยเลย
    มันไม่ยากเลยที่จะเลือก
    เขาหรือผมดีล่ะ ตามตรงนะที่รัก มันง่ายมากที่จะตัดสินใจ
    สติคุณยังครบถ้วน
    ไปจัดหนักกันจากนั้นนั่งมองพระอาทิตย์ขึ้น
    แค่คืนเดียวจะเปลี่ยนชีวิตคุณ
    รถธรรมดามีหลังคาปิด หรือรถเปิดประทุนหรูๆ ตัดสินใจง่ายมาก
    ยกมือของคุณขึ้นสูงๆ สิ ถ้าคุณอยากอยู่กับผม
    Yeah, yeah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    ลงมากลางๆ หน่อย
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    สูงขึ้นอีก
    สูงขึ้นอีก
    Yeah-eah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    ยกทั้งสองข้างเลย เย้
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    สูงขึ้นอีก

    Walked down, had me sittin’ up
    Demanded my attention, had to give it up
    Look like somebody designed you
    Drop-dead gorgeous, you make me wanna live it up
    Your presence is critical
    Movin’ my soul, yeah you’re spiritual
    They hate it when you notice me
    Like everybody else invisible (ooh)
    Breakin’ all the rules (oh-oh)
    So above the law (so above the law)
    I’ll be your excuse (damn right)
    Uh, and you won’t go wrong, no

    เดินลงมา มีผมนั่งอยู่ตรงนี้
    เรียกร้องความสนใจจากผม ต้องยอมแพ้ได้แล้วล่ะ
    คล้ายกับว่าใครบางคนออกแบบคุณ
    ให้คุณมีเสน่ห์มากมายขนาดนี้ คุณทำให้ผมอยากจะใช้เงินซื้อความสุข
    การปรากฏตัวของคุณนี้มันอันตรายจริงๆ
    จิตวิญาณของผมเคลื่อนไหว แต่วิญญาณของคุณเหมือนตายไปแล้ว
    พวกเขาเกลียดมัน เมื่อคุณสังเกตผม
    คล้ายกับว่ามีแค่เราสองคน
    ทำลายกฏทั้งหมด
    ทำตัวอยู่เหนือกฏหมาย
    ผมจะเป็นข้อแก้ตัวของคุณเอง
    และคุณไม่ต้องทำอะไรที่ผิด ไม่

    You stick out of the crowd, baby, it’s a no-brainer (no-brainer)
    It ain’t that hard to choose
    Him or me, be for real, baby, it’s a no-brainer
    (no-brainer)
    You got your mind unloose
    Go hard and watch the sun rise (rise)
    One night’ll change your whole life
    Off top, drop-top, baby it’s a no-brainer (oh, no)
    Put ’em up if you with me
    Yeah, yeah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    In the middle, oh (yeah, in the middle)
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    Put ’em high (put ’em high)
    Put ’em high
    Yeah-eah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    Both arms, yeah (both sides in here)
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    Put ’em high (put ’em high)

    คุณสังเกตเห็นได้ง่ายๆ ท่ามกลางผู้คนมากมายนี้ ไม่ต้องใช้สมองคิดให้เหนื่อยเลย
    มันไม่ยากเลยที่จะเลือก
    เขาหรือผมดีล่ะ ตามตรงนะที่รัก มันง่ายมากที่จะตัดสินใจ
    สติคุณยังครบถ้วน
    ไปจัดหนักกัน
    จากนั้นนั่งมองพระอาทิตย์ขึ้น
    แค่คืนเดียวจะเปลี่ยนชีวิตคุณ
    รถธรรมดามีหลังคาปิด หรือรถเปิดประทุนหรูๆ ตัดสินใจง่ายมาก
    ยกมือของคุณขึ้นสูงๆ สิ ถ้าคุณอยากอยู่กับผม
    Yeah, yeah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    ลงมากลางๆ หน่อย
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    สูงขึ้นอีก
    สูงขึ้นอีก
    Yeah-eah-eah, yeah, yeah-eah-eah
    ยกทั้งสองข้างเลย เย้
    Woah-woah-oah, oh, oh-oh, ooh
    สูงขึ้นอีก

    It’s We The Best Music
    Way high
    It’s Father of Asahd
    Another one

    มันคือเพลงที่ดีที่สุด
    สูงขึ้นอีก
    คือพ่อของ Asahd
    มีใครอีกมั้ย


    Put ’em up:
    Put your hands up in the air over your head!
    ยกมือของคุณขึ้นสูงๆ กลางอากาศเหนือศีรษะของคุณ
    ที่มา: https://forum.wordreference.com/threads/putem-up.3063065/

    Having hoes:
    Having many males/females that you are talking to at once but they think they are your priority not knowing of the others
    การที่มีคนเข้ามาคุยกับคุณมากมายในช่วงเวลาเดียวกัน แล้วพวกเขาคิดว่าเป็นคนพิเศษสำหรับคุณ
    ที่มา: https://www.urbandictionary.com/define.php?term=Having%20hoes

    Live it up:
    to enjoy yourself by doing things that involve spending a lot of money or to enjoy yourself completely without worrying about anything.
    ให้ความสุขกับตัวเองในการทำสิ่งต่างๆ รวมถึงการใช้เงินจำนวนมากๆ เพื่อให้รางวัลตัวเองโดยไม่ต้องกังวลอะไร
    ที่มา: https://www.urbandictionary.com/define.php?term=live%20it%20up

    *หากผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ ผู้อ่านสามารถติชมแสดงความคิดเห็น หรือแนะนำคำแปลที่ดีกว่านี้ได้ที่กล่องแสดงความคิดเห็นข้างล่างค่ะ

  • Cali Y El Dandee – Yo Te Esperaré แปลเพลงสากล


    Yo Te Esperaré เป็นเพลงคู่หูนักร้องเร็กแกชาวโคลอมเบีย Cali Y El Dandee โดยมีสมาชิกคือ Alejandro Rengifo (Cali) และ Mauricio Rengifo (Dandee) เพลงได้เปิดตัวโดยค่ายเพลง Universal Music Group ใน 1 มกราคม 2012 เป็นซิงเกิลที่สามจากอัลบั้มสตูดิโอของพวกเขา 3 A.M. (2012) เพลงได้เขียนและดำเนินการผลิตโดย Cali Y El Dandee ในเนื้อเพลงนั้นพูดถึงการรอคอยคนรักของเขากลับมา หลังจากที่พวกเขาทะเลาะกันและผ่ายหญิงหนีไปอยู่กับคนอื่น และหลังจากที่เธอไปแล้วเขารู้ว่าเขาไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีเธอ วันนี้เราจะมาแปลนี้กัน


    Yo te esperaré
    Nos sentaremos juntos frente al mar
    Y de tu mano podré caminar
    Y aunque se pase toda mi vida yo te esperaré
    Sé que en tus ojos todavía hay amor
    Y tu mirada dice ”Volveré.”
    Y aunque se pase toda mi vida yo te esperaré

    ฉันจะรอคุณ
    เราจะยังคงนั่งมองทะเลด้วยกัน
    และจากการอยู่กับคุณทำให้ฉันมีพลัง
    และแม้ว่ามันจะใช้เวลาทั้งชีวิต ฉันก็จะรอคุณ
    ฉันยังเห็นความรักในสายตาของคุณ
    และที่คุณบอกว่า “ฉันจะกลับมา”
    และแม้ว่ามันจะใช้เวลาทั้งชีวิต ฉันก็จะรอคุณ

    Sin saber de la cuenta regresiva pienso
    Que aunque no he vuelto a ser el mismo y lo confieso
    Espero que el perdón esté en tu mente y yo te rezo
    Pero aunque soy sincero y lo prometo no me miras
    Después abres la puerta y te digo si te vas no vuelvas

    แม้จะไม่รู้ว่าต้องรอนานแค่ไหน
    และถึงแม้ว่ามันจะไม่เหมือนเดิมอีก ฉันก็จะยอมรับ
    ฉันหวังว่าคุณจะให้อภัยฉัน และฉันอ้อนวอนกับคุณ
    แต่ถึงแม้ว่าฉันจะซื่อสัตย์และให้คำสัญญา คุณก็ไม่มองฉันอยู่ดี
    แล้วคุณก็เปิดประตูออกไป และฉันบอกคุณว่า “ถ้าคุณออกไปแล้วไม่ต้องกลับมาอีก”

    La rabia me consume y lloras
    Te alejas caminando y la vida se me desploma sin saberlo
    Te lo juro no lo sabía y de haberlo sabido otra suerte sería

    ความโกรธกำลังครอบงำ และมันทำให้ฉันต้องเสียใจ
    คุณเดินจากไปและชีวิตของฉันพังทลายลงโดยไม่รู้ตัว
    ฉันสาบานว่าฉันไม่รู้ว่าทำอะไรลงไป และถ้าฉันรู้ทุกอย่างคงดีกว่านี้

    Cuatro de septiembre, mi frase (si te vas no vuelves) me persigue
    Y siento ganas de llamarte, pero no contestas
    No entiendo por qué no contestas
    Si aunque hayamos peleado todo sigue

    ใน 4 กันยายน คำพูดที่ฉันเคยพูดออกไป (ถ้าคุณออกไปแล้วไม่ต้องกลับมาอีก) มันกำลังไล่ล่าฉัน
    และฉันรู้สึกอยากโทรหาคุณ แต่คุณก็ไม่รับสายเลย
    ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงไม่ตอบรับ
    ใช่แล้ว แม้ว่าเรายังคงทะเลาะกัน แต่ทุกอย่างยังดำเนินต่อไป

    Siete de septiembre la llamada que llegaría
    Me dicen que ahí estas, que no llame a la policía
    Luego cuelgan
    Todavía no pierdo la fe, y se que algún día volverás
    Y pase lo que pase

    ใน 7 กันยายน ฉันก็โทรหาคุณจนได้
    พวกเขาบอกฉันว่าคุณอยู่ที่นั่น อย่าเรียกตำรวจ
    แล้วเขาก็วางสาย
    แต่ฉันก็ยังไม่หมดหวัง และฉันรู้ว่าวันหนึ่งคุณจะกลับมา
    ไม่สำคัญว่าจะเกิดอะไรขึ้น

    Yo te esperaré
    Nos sentaremos juntos frente al mar
    Y de tu mano podré caminar
    Y aunque se pase toda mi vida yo te esperaré
    Sé que en tus ojos todavía hay amor
    Y tu mirada dice ”Volveré.”
    Y aunque se pase toda mi vida yo te esperaré

    ฉันจะรอคุณ
    เราจะยังคงนั่งมองทะเลด้วยกัน
    และจากการอยู่กับคุณทำให้ฉันมีพลัง
    และแม้ว่ามันจะใช้เวลาทั้งชีวิต ฉันก็จะรอคุณ
    ฉันยังเห็นความรักในสายตาของคุณ
    และที่คุณบอกว่า “ฉันจะกลับมา”
    และแม้ว่ามันจะใช้เวลาทั้งชีวิต ฉันก็จะรอคุณ

    Siento que me quitaron un pedazo de mi alma
    Si te vas no queda nada, queda un corazón sin vida
    Que a raíz de tu partida se quedó solo gritando pero a media voz

    ฉันรู้สึกเหมือนวิญญาณของฉันถูกพรากออกไปจากร่าง
    ถ้าคุณจากไปมันก็ไม่มีอะไรเหลือ มันมีเพียงหัวใจที่ไม่มีชีวิต
    เพราะหลังจากที่คุณจากไป ฉันก็ตะโกนหาคุณจนกว่าจะหมดเสียง

    Siento que la vida se me va por que no estoy contigo
    Siento que mi luna ya no está si no está tu cariño

    ฉันรู้สึกเหมือนชีวิตของฉันไร้ทิศทางเพราะไม่ได้อยู่กับคุณ
    ฉันรู้สึกไม่เห็นแสงสว่างถ้าไม่มีความรักจากคุณ

    Ni toda la vida ni toda la agua del mar podrá
    Apagar todo el amor que tú me enseñaste a sentir
    Sin ti yo me voy a morir solo si vuelves quiero despertar
    Porque lejos no sirve mi mano para caminar
    Porque solo espero que algún día puedas escapar

    ทุกชีวิตบนโลกและน้ำในมหาสมุทรทั้งหมดก็ไม่สามารถ
    ปิดกั้นความรักที่คุณมอบมันให้กับฉันได้
    ฉันจะต้องตายถ้าหากไม่มีคุณและจะฟื้นขึ้นมาเมื่อคุณกลับมา
    เพราะว่าฉันเพียงคนเดียวไม่สมควรมีชีวิตอยู่
    ฉันเพียงหวังว่าวันหนึ่งคุณจะสามารถหนีออกมา

    Yo te esperaré
    Nos sentaremos juntos frente al mar
    Y de tu mano podré caminar
    Y aunque se pase toda mi vida yo te esperaré
    Sé que en tus ojos todavía hay amor
    Y tu mirada dice ”Volveré.”
    Y aunque se pase toda mi vida yo te esperaré

    ฉันจะรอคุณ
    เราจะยังคงนั่งมองทะเลด้วยกัน
    และจากการอยู่กับคุณทำให้ฉันมีพลัง
    และแม้ว่ามันจะใช้เวลาทั้งชีวิต ฉันก็จะรอคุณ
    ฉันยังเห็นความรักในสายตาของคุณ
    และที่คุณบอกว่า “ฉันจะกลับมา”
    และแม้ว่ามันจะใช้เวลาทั้งชีวิต ฉันก็จะรอคุณ

    Si tú te vas no queda nada
    Sigo cantando con la luz apagada
    Porque la guerra me quitó tu mirada
    Y aunque se pase toda mi vida yo te esperaré

    ถ้าคุณไป ก็ไม่มีอะไรเหลือ
    ฉันคงเพียงร้องเพลงอยู่ในความมืด
    เพราะมันเป็นเหมือนสงครามที่พรากคุณไป
    และแม้ว่ามันจะใช้เวลาทั้งชีวิต ฉันก็จะรอคุณ

    Si tú te vas no queda nada
    Sigo cantando con la luz apagada
    Porque la guerra me quitó tu mirada
    Y aunque se pase toda mi vida yo te esperaré

    ถ้าคุณไป ก็ไม่มีอะไรเหลือ
    ฉันคงเพียงร้องเพลงอยู่ในความมืด
    เพราะมันเป็นเหมือนสงครามที่พรากคุณไป
    และแม้ว่ามันจะใช้เวลาทั้งชีวิต ฉันก็จะรอคุณ

    Si tú te vas no queda nada
    Sigo cantando con la luz apagada
    Porque la guerra me quitó tu mirada
    Y aunque se pase toda mi vida yo te esperaré

    ถ้าคุณไป ก็ไม่มีอะไรเหลือ
    ฉันคงเพียงร้องเพลงอยู่ในความมืด
    เพราะมันเป็นเหมือนสงครามที่พรากคุณไป
    และแม้ว่ามันจะใช้เวลาทั้งชีวิต ฉันก็จะรอคุณ

    Si tú te vas no queda nada
    Sigo cantando con la luz apagada
    Porque la guerra me quitó tu mirada

    ถ้าคุณไป ก็ไม่มีอะไรเหลือ
    ฉันคงเพียงร้องเพลงอยู่ในความมืด
    เพราะมันเป็นเหมือนสงครามที่พรากคุณไป

  • Imagine Dragons – Thunder แปลเพลงสากล


    Thunder เป็นเพลงของวงดนตรีร็อคอเมริกัน Imagine Dragons เพลงได้ถูกเปิดตัวโดยค่ายเพลง Interscope Records และ Kidinakorner ใน 27 เมษายน 2017 เป็นซิงเกิลที่สองจากอัลบั้มสตูดิโอที่สามของพวกเขา Evolve (2017) เพลงได้ถูกเขียนโดย Dan Reynolds, Wayne Sermon, Ben McKee, Daniel Platzman และดำเนินการผลิตโดย Alexander Grant และ Jayson DeZuzio ในเนื้อเพลงนั้นพูดเกี่ยวกับการที่ไม่ต้องทำตามกฏระเบียบของสังคม Dan บอกว่ามันเป็นการบรรลุเป้าหมายของเขาในวัยเด็กที่อยากจะขึ้นมาอยู่บนเวที และตอนนี้เขาทำได้แล้ว วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Just a young gun with a quick fuse
    I was uptight, wanna let loose
    I was dreaming of bigger things
    And wanna leave my own life behind
    Not a yes sir, not a follower
    Fit the box, fit the mold
    Have a seat in the foyer, take a number
    I was lightning before the thunder

    แค่เด็กหนุ่มใจร้อนคนหนึ่ง
    ฉันเคยหวาดกลัว และอยากเป็นอิสระ
    ฉันเคยใฝ่ฝันถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่
    และอยากทิ้งชีวิตของฉันไว้กับมัน
    ไม่ใช่ลูกน้องใคร ไม่ใช่คนติดตามใคร
    ทำตามระเบียบ ทำตามแม่พิมพ์
    นั่งในห้องโถง และนับตัวเลข
    ฉันเคยเป็นฟ้าแลบ ก่อนที่จะมาเป็นฟ้าร้อง

    Thunder, thunder
    Thunder, thun’, thunder
    Thun-thun-thunder, thunder, thunder
    Thunder, thun’, thunder
    Thun-thun-thunder, thunder

    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง

    Thunder, feel the thunder
    Lightning and the thunder
    Thunder, feel the thunder
    Lightning and the thunder
    Thunder, thunder
    Thunder

    ฟ้าร้อง รู้สึกถึงฟ้าร้อง
    ฟ้าแลบและฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง รู้สึกถึงฟ้าร้อง
    ฟ้าแลบและฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง

    Kids were laughing in my classes
    While I was scheming for the masses
    Who do you think you are?
    Dreaming ’bout being a big star
    They say you’re basic, they say you’re easy
    You’re always riding in the back seat
    Now I’m smiling from the stage while
    You were clapping in the nose bleeds

    เด็กได้หัวเราะในห้องเรียนของฉัน
    ในขณะที่ฉันกำลังวางแผนถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่
    คุณคิดว่าคุณเป็นใครกัน
    ถึงได้ฝันถึงการเป็นดาราที่โด่งดัง
    พวกเขาบอกคุณมันด้อยประสบการณ์ ยังเป็นมือสมัครเล่น
    คุณนั่งเบาะหลังมาตลอด
    ตอนนี้ฉันกำลังยิ้มอยู่บนเวที
    ในขณะที่คุณปรบมือพร้อมกับเลือดกำเดาไหล

    Thunder
    Thunder, thun’, thunder
    Thun-thun-thunder, thunder, thunder
    Thunder, thun’, thunder
    Thun-thun-thunder, thunder

    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง

    Thunder, feel the thunder
    Lightning and the thunder
    Thunder, feel the thunder
    Lightning and the thunder
    Thunder

    ฟ้าร้อง รู้สึกถึงฟ้าร้อง
    ฟ้าแลบและฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง รู้สึกถึงฟ้าร้อง
    ฟ้าแลบและฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง

    Thunder, feel the thunder
    Lightning and the thunder, thunder

    ฟ้าร้อง รู้สึกถึงฟ้าร้อง
    ฟ้าแลบและฟ้าร้อง ฟ้าร้อง

    Thunder, feel the thunder
    Lightning and the thunder, thunder
    Thunder, feel the thunder
    Lightning and the thunder, thunder
    Thunder, feel the thunder
    Lightning and the thunder, thunder
    Thunder, feel the thunder
    Lightning and the thunder, thunder

    ฟ้าร้อง รู้สึกถึงฟ้าร้อง
    ฟ้าแลบและฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง รู้สึกถึงฟ้าร้อง
    ฟ้าแลบและฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง รู้สึกถึงฟ้าร้อง
    ฟ้าแลบและฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง รู้สึกถึงฟ้าร้อง
    ฟ้าแลบและฟ้าร้อง ฟ้าร้อง

    Thunder, thunder, thunder
    Thun-thun-thunder, thunder
    Thunder, thunder, thunder
    Thun-thun-thunder, thunder
    Thunder, thunder, thunder
    Thun-thun-thunder, thunder
    Thunder, thunder, thunder
    Thun-thun-thunder, thunder

    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง
    ฟ้าร้อง ฟ้าร้อง


    Fit the mould: หมายถึง
    to be similar to other people or things or to what is usual
    ต้องการที่จะเป็นเหมือนกับคนทั่วไป
    ที่มา: https://www.macmillandictionary.com/dictionary/british/fit-the-mould

    ฺBackseat riding: หมายถึง
    When one begins hating on someone discretely, when someone is in the act of hating.
    เมื่อมีใครบางคนเทศนาหรือสั่งสอนคนอื่นอย่างมีเหตุผล
    ที่มา: https://www.urbandictionary.com/define.php?term=backseat%20riding

  • Passenger – Runaway แปลเพลงสากล


    Runaway เป็นเพลงของนักร้องและนักเขียนเพลงชาวอังกฤษ Passenger เพลงได้ถูกเปิดตัวใน 29 มิถุนายน 2018 เป็นซิงเกิลที่เจ็ดจากอัลบั้มสตูดิโอที่เก้าของเขา Runaway (2018) เพลงได้ถูกเขียนโดย Passenger และได้ Chris Vallejo มาช่วยในการดำเนินการผลิต ในเนื้อเพลงนั้นพูดเกี่ยวเขาได้วิ่งหนีปัญหาในชีวิตและค้นหาในสิ่งที่ตัวเองรัก และในตอนนี้เขาพบว่าเขาไม่จำเป็นต้องหนีไปไหนเพราะทุกอย่างมันอยู่กับเขาแล้ว เพลงนี้มีความหมายเกี่ยวกับว่าให้คุณพอใจตัวเองและที่มีอยู่ มันเป็นเพลงที่มาความหมายที่ดีมาก วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Well, my heart’s a runaway
    Living by the camp fire light
    Yeah, my love’s a stowaway
    Slipping out into the night

    ดีละ หัวใจของฉันได้หลบหนี
    ไปพักอยู่กับแสงไฟในแคมป์ (หนีออกไปจากความวุ่นวาย)
    ใช่แล้ว ความรักของฉันได้หลบหนี
    และหลงเข้าไปในความมืด (เขาพยายามค้นหาในสิ่งที่รัก)

    But hey, I can feel it
    I don’t want to run this time
    I can feel it now
    Hey, I can feel it
    Shining like the sun this time
    I know now
    I don’t want to run away
    I don’t want to run away

    แต่เฮ้ ฉันสามารถรู้สึกถึงมันได้
    ฉันไม่อยากวิ่งหนีแล้วในเวลานี้
    ฉันสัมผัสถึงมันได้ในตอนนี้
    เฮ้ ฉันสามารถรู้สึกถึงมันได้
    ส่องแสงเหมือนดวงอาทิตย์ในเวลานี้
    ในตอนนี้ฉันรู้แล้ว
    ฉันไม่อยากวิ่งหนีอีกแล้ว
    ฉันไม่อยากวิ่งหนีอีกแล้ว

    Well, my soul’s a cast away
    Tired of bein’ alone
    Yeah, my love gets thrown away
    Any way the wind gets blown, oh

    ดีละ จิตใจของฉันกำลังถูกลอยแพ
    เหนื่อยกับการที่ต้องโดดเดี่ยว
    ใช่แล้ว ความรักของฉันถูกโยนทิ้งไป
    ไปทุกทางที่ลมพัดมา โอ้

    But hey, I can feel it
    I don’t want to stray this time
    I can feel it now
    Hey, I can feel it
    Pouring down like rain this time
    I know now
    I don’t want to

    แต่เฮ้ ฉันสามารถรู้สึกถึงมันได้
    ฉันไม่อยากหลงทางในเวลานี้
    ฉันสัมผัสถึงมันได้ในตอนนี้
    เฮ้ ฉันสามารถรู้สึกถึงมันได้
    เทลงมาเหมือนสายฝนในตอนนี้
    ฉันรู้แล้วในตอนนี้
    ฉันไม่อยากที่จะ

    Runaway trains never get no peace
    They keep on running till their engines seize
    Keep on running and I don’t stand still
    I won’t know love, no, I never will
    And rolling stones never find a home
    ‘Cause they keep on rolling through life alone
    If I keep on rolling down the same old hill
    I’ll never know love, I never will

    รถไฟที่วิ่งหนีไม่มีวันพบกับความสงบสุข
    พวกมันวิ่งไปเรื่อยๆ จนกว่าเครื่องยนต์จะพัง
    วิ่งต่อไปเรื่อยๆ และฉันไม่ยืนนิ่ง
    ฉันจะไม่รู้จักความรัก และจะไม่มีวัน
    และการกลิ้งหินจะไปมีวันพบกับบ้าน
    เพราะพวกเขากำลังกลิ้งมันผ่านชีวิตโดยลำพัง
    และถ้าหากฉันได้มันกลิ้งต่อไปผ่านภูเขาลูกเดิม
    ฉันจะไม่รู้จักความรัก และจะไม่มีวัน

    I can feel it
    I don’t want to search no more
    I can feel it now
    Hey, I can feel it
    It’s never felt so good before
    I know now
    I don’t want to run away, ay
    I don’t want to run away, hey
    I don’t want to run away, yeah
    I don’t want to run away

    ฉันสามารถรู้สึกถึงมันได้
    ฉันไม่อยากจะค้นหาอีกต่อไป
    ฉันสัมผัสถึงมันได้ในตอนนี้
    เฮ้ ฉันสามารถรู้สึกถึงมันได้
    มันไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อน
    ฉันรู้แล้วในตอนนี้
    ฉันไม่อยากวิ่งหนีอีกแล้ว
    ฉันไม่อยากวิ่งหนีอีกแล้ว เฮ้
    ฉันไม่อยากวิ่งหนีอีกแล้ว ใช่แล้ว
    ฉันไม่อยากวิ่งหนีอีกแล้ว

  • Passenger – Home แปลเพลงสากล


    Home เป็นเพลงของนักร้องและนักเขียนเพลงชาวอังกฤษ Passenger เพลงได้ถูกเปิดตัวใน 23 กันยายน 2016 เป็นซิงเกิลที่สิบจากอัลบั้มสตูดิโอที่เจ็ดของเขา Young as the Morning, Old as the Sea (2010) เพลงได้ถูกเขียนโดย Passenger ในขณะที่ได้ Chris Vallejo มาช่วยสำหรับการดำเนินการผลิต ในเนื้อเพลงนั้นเป็นการพูดเกี่ยวกับเขาพยายามที่จะหาทางเดินในชีวิตของเขา แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนหรือทำอะไร ดังนั้น สถานที่สุดท้ายที่ทุกคนจะนึกถึงก็คือ “บ้าน” นั้นเอง วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    They say home is where the heart is
    but my heart is wild and free
    So am I homeless
    Or just heartless?
    Did I start this?
    Did it start me?

    พวกเขาบอกว่าบ้านเป็นที่พักพิงของหัวใจ
    แต่หัวใจของฉันเร่ร่อนและเป็นอิสระ
    ฉันเป็นคนไม่มีบ้านใช่ไหม
    หรือเป็นคนที่ไม่มีหัวใจ
    ฉันเป็นคนเริ่มมันใช่ไหม
    หรือเป็นมันที่เริ่มฉัน

    They say fear is for the brave
    For cowards never stare it in the eye
    So am I fearless to be fearful
    Does it take courage to learn how to cry

    พวกเขาบอกว่าความกลัวนั้นสำหรับความกล้าหาญ
    สำหรับคนขี้ขลาดที่ไม่กล้าสบตา
    ฉันเป็นคนที่ไม่มีความกลัว แต่อยากที่จะเต็มไปด้วยความกลัว
    มันต้องใช้ความกล้าหาญใช่ไหม ในการที่จะร้องไห้

    So many winding roads
    So many miles to go
    and oh..

    มีถนนที่คดเคี้ยวมากมาย
    มีระยะทางหลายไมล์ที่รอให้เราไป
    และโอ้

    Oh they say love is for the loving
    Without love maybe nothing is real
    So am I loveless or do I just love less

    โอ้ พวกเขาบอกว่าความรักนั้นคือการแบ่งปัน
    ปราศจากความรักแล้ว อาจจะไม่มีอะไรเป็นความจริง
    แล้วฉันเป็นคนไม่มีความรัก หรือฉันมีมันเพียงน้อยนิด?

    Oh since love left
    I have nothing left to fear

    โอ้ ตั้งแต่ความรักออกไปจากใจฉัน
    ฉันก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวอีกแล้ว

    So many winding roads
    So many miles to go

    มีถนนที่คดเคี้ยวมากมาย
    มีระยะทางหลายไมล์ที่รอให้เราไป

    When I start feeling sick of it all
    It helps to remember I’m a brick in a wall
    who runs down from the hillside to the sea
    when I start feeling that it’s gone too far
    I lie on my back and stare up at the stars
    I wonder if they’re staring back at me

    เมื่อฉันเริ่มรู้สึกป่วยกับเรื่องทั้งหมดนี้
    มันช่วยให้ฉันจำได้ว่าฉันเป็นก้อนอิฐที่อยู่ในกำแพง
    เป็นคนที่วิ่งจากเนินเขาไปยังชายทะเล
    เมื่อฉันเริ่มรู้สึกเช่นนั้น มันควรจะหยุดได้แล้ว
    ฉันนอนลงและจ้องมองขึ้นไปยังดวงดาว
    ฉันสงสัยว่าพวกมันจะจ้องมองฉันบ้างไหม

    When I start feeling sick of it all
    It helps to remember I’m a brick in a wall
    who runs down from the hillside to the sea
    when I start feeling that it’s gone too far
    I lie on my back and stare up at the stars
    I wonder if they’re staring back at me

    เมื่อฉันเริ่มรู้สึกป่วยกับเรื่องทั้งหมดนี้
    มันช่วยให้ฉันจำได้ว่าฉันเป็นก้อนอิฐที่อยู่ในกำแพง
    เป็นคนที่วิ่งจากเนินเขาไปยังชายทะเล
    เมื่อฉันเริ่มรู้สึกเช่นนั้น มันควรจะหยุดได้แล้ว
    ฉันนอนลงและจ้องมองขึ้นไปยังดวงดาว
    ฉันสงสัยว่าพวกมันจะจ้องมองฉันบ้างไหม

    oh when I start feeling sick of it all
    It helps to remember I’m a brick in a wall
    who runs down from the hillside to the sea
    when I start feeling that it’s gone too far
    I lie on my back and stare up at the stars
    I wonder if they’re staring back at me

    โอ้ เมื่อฉันเริ่มรู้สึกป่วยกับเรื่องทั้งหมดนี้
    มันช่วยให้ฉันจำได้ว่าฉันเป็นก้อนอิฐที่อยู่ในกำแพง
    เป็นคนที่วิ่งจากเนินเขาไปยังชายทะเล
    เมื่อฉันเริ่มรู้สึกเช่นนั้น มันควรจะหยุดได้แล้ว
    ฉันนอนลงและจ้องมองขึ้นไปยังดวงดาว
    ฉันสงสัยว่าพวกมันจะจ้องมองฉันบ้างไหม

    oh when I start feeling sick of it all
    It helps to remember I’m a brick in a wall
    who runs down from the hillside to the sea
    when I start feeling that it’s gone too far
    I lie on my back and stare up at the stars
    I wonder if they’re staring back at me

    โอ้ เมื่อฉันเริ่มรู้สึกป่วยกับเรื่องทั้งหมดนี้
    มันช่วยให้ฉันจำได้ว่าฉันเป็นก้อนอิฐที่อยู่ในกำแพง
    เป็นคนที่วิ่งจากเนินเขาไปยังชายทะเล
    เมื่อฉันเริ่มรู้สึกเช่นนั้น มันควรจะหยุดได้แล้ว
    ฉันนอนลงและจ้องมองขึ้นไปยังดวงดาว
    ฉันสงสัยว่าพวกมันจะจ้องมองฉันบ้างไหม


    It’s going too far:
    This situation has become excessive! This has exceeded our original plans! (Stop it now!)
    สถานการ์ที่เลยเกินเลย มันเกินไปจากแผนหลักที่ได้วางไว้ (มันควรจะหยุดในตอนนี้)
    ที่มา: https://www.gymglish.com/en/english-translation/its-going-too-far

  • HONNE – Feels So Good ◑ (feat. Anna Of The North) แปลเพลงสากล


    เพลง Feels So Good ◑ เป็นเพลงของวง HONNE ที่ได้นักร้องสาวชาวนอร์เวย์ Anna Of the North มาร่วมร้อง เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม 2018 เป็นเพลงลำดับที่ 5 ในอัลบั้ม Love Me ◑ / Love Me Not ◐ เนื้อเพลงกล่าวถึงความรักที่ทั้งสองต่างตกหลุมรักกัน ความรักครั้งนี้กำลังสุกงอมเต็มที่ ทำให้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจของคนทั้งสองดีมากๆ วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กันค่ะ


    Make a run for it, come on!
    Go

    จะวิ่งหนีความรู้สึกนี้ดีไหมนะ มาเถอะ!
    เผชิญหน้ากับมัน

    These are the moments I cherish
    Us hiding from the rain
    Stay by your side till I perish
    I know you’d do the same
    I never knew that this could feel so good

    นี้คือช่วงเวลาที่ผมเก็บไว้ในหัวใจ
    เราทั้งสองหลบสายฝนด้วยกัน
    ผมจะคอยอยู่ข้างๆ คุณ จนกว่าผมจะตาย
    ผมรู้ว่าคุณจะทำแบบเดียวกัน
    ผมไม่เคยรู้เลยว่า มันจะทำให้ผมรู้สึกดีได้ขนาดนี้

    These are the moments I cherish
    You kissing me goodnight
    Everything else seems to vanish
    When I’m lying by your side
    I never knew that this could feel so good

    นี้คือช่วงเวลาที่ฉันเก็บไว้ในหัวใจ
    คุณจูบราตรีสวัสดิ์ฉัน
    ทุกสิ่งดูจางหายไป เหลือเพียงเราสองคน
    เมื่อฉันเอนตัวลงนอนข้างๆ คุณ
    ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่ามันจะทำให้ฉันรู้สึกดีขนาดนี้

    At last a love that feels just like it should

    ในที่สุดความรักครั้งนี้ทำให้รู้สึกแบบที่มันควรจะเป็น

    This feels so good (feels so good)
    You got me in the mood, for love
    I don’t know your horoscope But I know that you keep me close
    ‘cause this feels so good (so good, so good)

    รู้สึกดีมากจริงๆ
    คุณมีฉันที่รักคุณ
    ฉันไม่รู้หรอกนะว่าดวงชะตาของคุณเป็นยังไง แต่ฉันรู้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณจะรักษาฉันไว้ข้างๆ คุณ
    เพราะความรู้สึกนี้มันช่างดีเหลือเกิน

    With you it all makes sense
    What would I do if you were gone
    ‘cause you always finish my sentence
    I know you more than anyone
    I never knew that this could feel so good
    At last a love that feels just like it should

    การที่มีคุณทุกอย่างมันดีไปหมด
    ฉันจะทำยังไงดีถ้าคุณเดินจากฉันไป
    เพราะคุณช่วยเติมเต็มชีวิตของฉัน
    ผมรู้จักคุณมากกว่าใคร
    ผมไม่เคยรู้เลยว่า ความรู้สึกมันจะดีขนาดนี้
    ในที่สุดความรักครั้งนี้รู้สึกแบบที่มันควรจะเป็น

    This feels so good (feels so good)
    You got me in the mood, for love
    I don’t know your heart will..
    But I know that you keep me close
    ‘cause this feels so good (yeah it feels so good)

    รู้สึกดีมากจริงๆ
    คุณมีฉันที่รักคุณ
    ฉันไม่รู้หรอกนะว่าดวงชะตาของคุณเป็นยังไง
    แต่ฉันรู้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณจะรักษาฉันไว้ข้างๆ คุณ
    เพราะความรู้สึกนี้มันช่างดีเหลือเกิน (ใช่ มันรู้สึกดีมากจริงๆ)

    So good so good
    Yeah you make me feel
    So good so good
    Too good to be real
    So good so good
    So good, no I can never get enough

    ดีมาก ดีมากจริงๆ
    ใช่ คุณทำให้ฉันรู้สึก
    ดีมาก ดีมากจริงๆ
    ดีมากที่มันกลายมาเป็นความจริง
    ดีมาก ดีมาก
    ดีมาก ฉันอยากให้ความรู้สึกมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

    This feels so good
    You got me in the mood, for love
    I don’t know your horoscope
    But i know that you keep me close
    ‘cause this feels so good (yeah it feels so good)

    รู้สึกดีมากจริงๆ
    คุณมีฉันที่รักคุณ
    ฉันไม่รู้หรอกนะว่าดวงชะตาของคุณเป็นยังไง
    แต่ฉันรู้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณจะรักษาฉันไว้ข้างๆ คุณ
    เพราะความรู้สึกนี้มันช่างดีเหลือเกิน (ใช่ มันรู้สึกดีมากจริงๆ)


    cherish – หวงแหน กกกอด ถนอม เก็บไว้ในหัวใจ

    perish – ย่อยยับ แตกดับ ตาย

    make a run for it:
    to suddenly start running in order to escape from somewhere:
    การเริ่มต้นวิ่งหนีอบ่างรวดเร็วเพื่อหลบหนีจากบางที่

    *ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ ผู้อ่านสามารถแนะนำติชมได้ที่กล่องแสดงความคิดเห็น

  • Jason Mraz – More Than Friends ft. Meghan Trainor แปลเพลงสากล


    เพลง More Than Friends เป็นเพลงของ Jason Mraz ที่ได้ Meghan Trainor มาร่วมร้องค่ะ เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม 2018 อยู่ในอัลบั้ม Know เนื้อเพลงเหมาะกับคนที่แอบรักเพื่อนมากค่ะ ใครอยากขอเพื่อนเป็นแฟน “I’m asking you to be my baby” ส่งเพลงนี้เป็นสื่อแทนใจได้เลยค่ะ วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กัน


    It feels like we’ve been friends forever, yeah
    And we always see eye to eye
    The more time we spend together
    The more I wanna say what’s on my mind

    มันคล้ายกับว่าเราสองคนจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป
    และเรามีความคิดเห็นที่ตรงกันเสมอ
    ยิ่งเวลาที่ใช้ร่วมกันมากเท่าไหร่
    ผมยิ่งอยากบอกความในใจให้คุณรู้

    Take it easy
    ‘Cause it ain’t easy to say

    ทำตัวสบายๆ
    เพราะไม่ง่ายเลยที่จะพูดมันออกไป

    I wanna be more than friends
    I wanna be more than friends
    I wanna tell everyone you’re taken
    And take your hand until the end
    I wanna be more than friends

    ผมอยากเป็นมากกว่าเพื่อน
    ผมอยากเป็นมากกว่าเพื่อน
    ผมอยากจะบอกกับทุกคนว่า คุณมีเจ้าของแล้ว
    และผมอยากจะจับมือคุณไปจนตอนสุดท้าย
    ผมอยากเป็นแฟนคุณนะ

    At the risk of sounding foolish
    I don’t wanna fool around no more
    If we’re gonna do this then let’s do this
    You can fix my broken heart if it’s all yours

    ถ้าความโง่มันไม่ดีละก็
    ฉันไม่อยากจะโง่ต่อไปแล้ว
    ถ้าเราจะเป็นมากกว่าเพื่อน ก็เริ่มกันเลย
    คุณสามารถซ่อมแซมหัวใจที่แตกสลายของฉันได้ ถ้าหัวใจของฉันกลายเป็นของคุณ

    So take it easy
    ‘Cause it ain’t easy to say

    ทำตัวสบายๆ
    เพราะไม่ง่ายเลยที่จะพูดมันออกไป

    I wanna be more than friends
    I wanna be more than friends
    I wanna tell everyone you’re taken
    And take your hand until the end
    I wanna be more than friends

    ฉันอยากเป็นมากกว่าเพื่อน
    ฉันอยากเป็นมากกว่าเพื่อน
    ฉันอยากจะบอกกับทุกคนว่า คุณมีเจ้าของแล้ว
    และฉันอยากจะจับมือคุณไปจนตอนสุดท้าย
    ฉันอยากเป็นแฟนคุณนะ

    I’m asking you to be my baby
    I’m giving you my heart, don’t break it
    I’m crushing and I’m going crazy
    Either way I know we’ll make it

    ผมอยากจะขอให้คุณมาเป็นคนรักของผม
    ผมกำลังมอบหัวใจของผมให้คุณ ได้โปรดอย่าทำลายมัน
    ผมกำลังตกหลุมรัก และกำลังบ้า
    อย่างไรก็ตาม ผมรู้ว่าเราทั้งสองจะต้องรักกัน

    Take it easy
    It ain’t easy to say
    I’ll take it easy
    I’ll take it easy
    It ain’t easy to say

    ทำตัวสบายๆ
    เพราะมันไม่ง่ายเลยที่จะเอ่ยออกไป
    ผมพยายามทำตัวสบายๆ
    ผมพยายามทำตัวสบายๆ
    เพราะมันไม่ง่ายเลยที่จะพูดออกไป

    I wanna be more than friends
    I wanna be more than friends
    I wanna tell everyone you’re taken
    And take your hand until the end
    I wanna be more than friends (friends)
    I’m asking you to be my baby (asking you to be my baby)
    I’m giving you my heart, don’t break it (giving you my heart, don’t break it)
    I’m crushing and I’m going crazy (hey)
    Either way I know we’ll make it (I know, I know, I know we’ll make it)

    ผมอยากเป็นมากกว่าเพื่อน
    ผมอยากเป็นมากกว่าเพื่อน
    ผมอยากจะบอกกับทุกคนว่า คุณมีเจ้าของแล้ว
    และผมอยากจะกุมมือคุณไปจนวันสุดท้าย
    ผมอยากเป็นมากกว่าเพื่อน (เพื่อน)
    ผมอยากจะขอให้คุณมาเป็นคนรักของผม (ขอให้คุณมาเป็นคนรักของผม)
    ผมกำลังมอบหัวใจของผมให้คุณ ได้โปรดอย่าทำลายมัน (มอบหัวใจของผมให้คุณ ได้โปรดอย่าทำลายมัน)
    ผมกำลังตกหลุมรัก และกำลังบ้า
    อย่างไรก็ตาม ผมรู้ว่าเราทั้งสองจะต้องรักกัน (ผมรู้ ผมรู้ ว่าเราทั้งสองจะต้องรักกัน)


    someone’s taken: มีเจ้าของแล้ว ไม่โสดแล้ว
    ที่มา: English Club Thailand

  • Hollaphonic – New Ones feat. Aaron Camper แปลเพลงสากล


    New Ones เป็นเพลงของคู่หู DJ และโปรดิวเซอร์เพลงอิเล็กทรอนิกส์ชาวอังกฤษ Hollaphonic ที่ประกอบไปด้วย Greg Stainer และ Olly Wood เพลงได้มีการร่วมร้องกับนักร้องชาวอเมริกา Aaron Camper เพลงยังไม่ได้ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่วิดีโอในเวอร์ชันเนื้อร้องได้ถูกปล่อยบน YouTube ใน 23 กรกฎาคม 2018 ในเนื้อเพลงนั้นพูดเกี่ยวกับการแก้แค้นกันระหว่างคู่รักคู่หนึ่ง โดยผ่ายชายได้ทำการแก้แค้นคนรักของเขาโดยการไปมีผู้หญิงคนใหม่และเป็นคนบอกเลิกเธอก่อน เพราะว่าเขารู้ว่าถ้าเขาไม่ทำเธอก็จะเป็นคนทำแน่นอน วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    I just think we’re fallin away
    Why (repeat x 10)

    ฉันคิดว่าเรากำลังถอยออกห่าง
    ทำไม

    I need you to answer me
    Tell me tonight night night night
    Don’t lie lie lie

    ฉันต้องการให้คุณตอบคำถามฉัน
    บอกฉันในคืนนี้
    อย่าโกหก

    We go up like elevators
    Break up and then I hate ya
    There’s no need to try and wait ya
    Ahhhhh
    Dun know exaggerations
    Tired of frustration, yeah
    We gotta draw lines and we’re out of time

    อารมณ์ของเราพุ่งขึ้นไปเหมือนลิฟท์
    ทำลายทุกอย่าง และแล้วฉันก็เกลียดคุณ
    ฉันไม่จำเป็นต้องพยายามรอคุณ
    อ่าาาา
    ไม่รู้ว่าฉันพูดเกินจริงไปไหม
    ฉันเหนื่อยกับความยุ่งยากนี้ ใช่แล้ว
    เราจะต้องวาดเส้นของเราใหม่ และออกไปจากสถานการณ์นี้

    Ohhh
    Ready to tell the truth
    My heart aint bullet proof
    But I gotta get over you

    โอ้
    พร้อมที่จะบอกความจริงกับคุณแล้ว
    หัวใจของฉันมันไม่ได้กันกระสุน
    แต่ฉันจะต้องอยู่เหนือคุณให้ได้

    I got something for you
    Girl it’s been overdue
    I think I’m over you
    I got some new ones, new ones

    ฉันมีบางอย่างสำหรับคุณ
    สาวน้อยมันเป็นการแก้แค้น
    ฉันคิดว่าฉันอยู่เหนือคุณแล้ว
    ฉันมีคนใหม่แล้ว คนใหม่ของฉัน

    Got something new for you
    I’m bustin brand new moves
    Last one, we’re done
    Got some new ones, new ones

    ฉันมีข่าวใหม่สำหรับคุณ
    ฉันมีคนใหม่แล้ว
    สุดท้ายนี้ เราจบแล้ว
    มีคนใหม่แล้ว คนใหม่

    Go ahead and blame it on attraction,
    It was just a reaction
    It’s not a sin for me, no
    Cause every night it’s a movie
    You know there’s little to see
    New city new lady that I could find
    On my line, anytime

    ไปข้างหน้าและตำหนิมันในการดึงดูดใจ
    มันเป็นเพียงแค่การตอบสนอง
    สำหรับฉันแล้วมันไม่ได้เป็นบาป ไม่
    เพราะว่าทุกคืนมันเป็นเหมือนภาพยนต์
    คุณรู้ว่ามันมีอะไรอีกเล็กน้อยที่ต้องดู
    เมืองใหม่และสาวคนใหม่ที่ฉันสามารถหามาได้
    ในทางของฉัน ทุกเวลา

    We go up like elevators
    Break up and then I hate ya
    There’s no need to try and wait ya
    Ahhhhh
    Dun know exaggerations
    Tired of frustration, yeah
    We gotta draw lines and we’re out of time

    อารมณ์ของเราพุ่งขึ้นไปเหมือนลิฟท์
    ทำลายทุกอย่าง และแล้วฉันก็เกลียดคุณ
    ฉันไม่จำเป็นต้องพยายามรอคุณ
    อ่าาาา
    ไม่รู้ว่าฉันพูดเกินจริงไปไหม
    ฉันเหนื่อยกับความยุ่งยากนี้ ใช่แล้ว
    เราจะต้องวาดเส้นของเราใหม่ และออกไปจากสถานการณ์นี้

    Ohhh
    Ready to tell the truth
    My heart aint bullet proof
    But gotta get over you

    โอ้
    พร้อมที่จะบอกความจริงกับคุณแล้ว
    หัวใจของฉันมันไม่ได้กันกระสุน
    แต่ฉันจะต้องอยู่เหนือคุณให้ได้

    I got something for you
    Girl it’s been overdue
    I think I’m over you
    I got some new ones, new ones

    ฉันมีบางอย่างสำหรับคุณ
    สาวน้อยมันเป็นการแก้แค้น
    ฉันคิดว่าฉันอยู่เหนือคุณแล้ว
    ฉันมีคนใหม่แล้ว คนใหม่ของฉัน

    Got something new for you
    I’m bustin brand new moves
    Last one, we’re done
    Got some new ones, new ones
    New Ones
    New Ones

    ฉันมีข่าวใหม่สำหรับคุณ
    ฉันมีคนใหม่แล้ว
    สุดท้ายนี้ เราจบแล้ว
    มีคนใหม่แล้ว คนใหม่
    คนใหม่
    คนใหม่


    Fall away:
    to drop away from someone or something.
    ถอยหรือออกห่างจากใครบางคน
    ที่มา: https://idioms.thefreedictionary.com/fall+away

  • Zedd & Alessia Cara – Stay แปลเพลงสากล


    Stay เป็นเพลงของนักดนตรีและโปรดิวเซอร์เพลงอิเล็กทรอนิกส์ชาวรัสเซีย-เยอรมัน Zedd และนักร้องหญิงชาวแคนาดา Alessia Cara เพลงได้ถูกเปิดตัวเป็นซิงเกิลใน 23 กุมภาพันธ์ 2017 ผ่านทางค่ายเพลง Interscope Records และ Music video ของเพลงได้ถูกเผยแพร่บน YouTube ใน 18 เมษายน 2017 เพลงได้ถูกโดย Linus Wiklund, Sarah Aarons, Anders Frøen, Alessia Caracciolo, Anton Zaslavski และ Jonnali Parmenius ในขณะที่ควบคุมการผลิตโดย Zedd และ Linus Wiklund ในเนื้อเพลงนั้นพูดเกี่ยวกับผู้ชายที่กำลังจะไปจากผู้หญิงเมื่อพวกเขาได้เติบโต และเธอจึงขอให้เขาอยู่กับเธอก่อนสักพักหรือสักนาทีก็ยังดีก่อนที่เขาจะจากไป วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Waiting for the time to pass you by
    Hope the winds of change will change your mind
    I could give a thousand reasons why
    And I know you, and you’ve got to

    กำลังรอเวลาที่จะผ่านคุณไป
    หวังว่าลมของการเปลี่ยนแปลงจะเปลี่ยนความคิดของคุณ
    ฉันสามารถบอกได้เป็นพันเหตุผลว่าทำไม
    และฉันรู้จักคุณ และคุณเช่นกัน

    Make it on your own, but we don’t have to grow up
    We can stay forever young
    Living on my sofa, drinking rum and cola
    Underneath the rising sun
    I could give a thousand reasons why
    But you’re going, and you know that

    ตัดสินใจด้วยตัวคุณเอง แต่เราไม่จำเป็นต้องเติบโต
    เราสามารถเป็นเด็กได้ตลอดไป
    นั่งอยู่บนโซฟาของฉัน ดื่มเหล้ารัมและโคล่า
    นั่งอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ที่กำลังขึ้น
    ฉันสามารถบอกได้เป็นพันเหตุผลว่าทำไม
    แต่คุณกำลังจะไป และคุณรู้ดี

    All you have to do is stay a minute
    Just take your time
    The clock is ticking, so stay
    All you have to do is wait a second
    Your hands on mine
    The clock is ticking, so stay

    สิ่งที่คุณต้องทำคืออยู่ก่อน
    เพียงแค่ใช้เวลาของคุณ
    แม้ว่านาฬิกากำลังหมุน อยู่ก่อน
    สิ่งที่คุณต้องทำคือรอสักครู่
    ส่งมือของคุณมาให้ฉัน
    แม้ว่านาฬิกากำลังหมุน อยู่ก่อน

    All you have to do is
    All you have to do is stay

    สิ่งที่คุณต้องทำคือ
    สิ่งที่คุณต้องทำคืออยู่กับฉันก่อน

    Won’t admit what I already know
    I’ve never been the best at letting go
    I don’t wanna spend the night alone
    Guess I need you, and I need to

    ไม่ต้องยอมรับในสิ่งที่ฉันรู้แล้ว
    ฉันไม่ใช่คนดีที่สุดที่จะปล่อยให้คุณไป
    ฉันไม่ต้องการอยู่คนเดียวในตอนกลางคืน
    เดาว่าฉันต้องการคุณ และฉันจำเป็นต้องมีคุณ

    Make it on my own, but I don’t wanna grow up
    We can stay forever young
    Living on my sofa, drinking rum and cola
    Underneath the rising sun
    I could give a million reasons why
    But you’re going, and you know that

    ตัดสินใจด้วยตัวคุณเอง แต่เราไม่จำเป็นต้องเติบโต
    เราสามารถเป็นเด็กได้ตลอดไป
    นั่งอยู่บนโซฟาของฉัน ดื่มเหล้ารัมและโคล่า
    นั่งอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ที่กำลังขึ้น
    ฉันสามารถบอกได้เป็นล้านเหตุผลว่าทำไม
    แต่คุณกำลังจะไป และคุณรู้ดี

    All you have to do is stay a minute
    Just take your time
    The clock is ticking, so stay
    All you have to do is wait a second
    Your hands on mine
    The clock is ticking, so stay

    สิ่งที่คุณต้องทำคืออยู่ก่อน
    เพียงแค่ใช้เวลาของคุณ
    แม้ว่านาฬิกากำลังหมุน อยู่ก่อน
    สิ่งที่คุณต้องทำคือรอสักครู่
    ส่งมือของคุณมาให้ฉัน
    แม้ว่านาฬิกากำลังหมุน อยู่ก่อน

    All you have to do is
    All you have to do is stay

    สิ่งที่คุณต้องทำคือ
    สิ่งที่คุณต้องทำคืออยู่กับฉันก่อน

    All you have to do is stay
    So stay, yeah

    สิ่งที่คุณต้องทำคืออยู่กับฉันก่อน
    อยู่ก่อน อยู่ก่อน

    All you have to do is stay a minute
    Just take your time
    The clock is ticking, so stay
    All you have to do is wait a second
    Your hands on mine
    The clock is ticking, so stay
    All you have to do is stay

    สิ่งที่คุณต้องทำคือรอก่อนสักนาที
    เพียงแค่ใช้เวลาของคุณ
    แม้ว่านาฬิกากำลังหมุน อยู่ก่อน
    สิ่งที่คุณต้องทำคือรอสักครู่
    ส่งมือของคุณมาให้ฉัน
    แม้ว่านาฬิกากำลังหมุน อยู่ก่อน
    สิ่งที่คุณต้องทำคืออยู่ที่นี่ก่อน