Author: metin30x

  • M83 – Midnight City แปลเพลงสากล


    Midnight City เป็นเพลงของวงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ฝรั่งเศษ M83 โดยเพลงได้เปิดตัวครั้งในฝรั่งเศษเมื่อ 16 สิงหาคม 2011 เป็นเพลงนำของอัลบั้มที่หก Hurry Up, We’re Dreaming (2011) เพลงถูกเขียนขึ้นโดย Anthony Gonzalez, Yann Gonzalez, Morgan Kibby และ Justin Meldal-Johnsen โดยเพลงได้ประสบความสำเร็จในระดับสากล โดยพุ่งติดอันดับที่แปดในฝรั่งเศษและติดชาร์ตบน Billboard Alternative Songs และ Rock Songs วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Waiting in a car
    Waiting for a ride in the dark
    The night city grows
    Look and see her eyes, they glow

    กำลังรออยู่ในรถ
    กำลังรอเพื่อขับรถเข้าไปในที่มืด
    เมืองยามค่ำคืนได้เริ่มต้น
    มองดูดวงตาของพวกเธอสิ มันส่องแสง

    Waiting in a car
    Waiting for a ride in the dark

    กำลังรออยู่ในรถ
    กำลังรอเพื่อขับรถเข้าไปในที่มืด

    Drinking in the lounge
    Following the neon signs

    ดื่มในสถานที่นั่งพัก
    ตามสัญญาณนีออนไป

    Waiting for a roar
    Looking at the mutating skyline
    The city is my church
    It wraps me in the sparkling twilight

    กำลังรอเพื่อที่จะร้องคำราม
    มองดูเส้นขอบฟ้าที่กำลังมืดลง
    เมื่องนี้เป็นโบสถ์ของฉัน
    มันห่อหุ้มฉันไว้ในประกายระยิบระยับ

    Waiting in a car
    Waiting for the right time
    Waiting in a car
    Waiting for the right time
    Waiting in a car
    Waiting for the right time
    Waiting in a car
    Waiting for the right time
    Waiting in a car
    Waiting for a ride in the dark

    กำลังรออยู่ในรถ
    กำลังรอเวลาที่เหมาะสม
    กำลังรออยู่ในรถ
    กำลังรอเวลาที่เหมาะสม
    กำลังรออยู่ในรถ
    กำลังรอเวลาที่เหมาะสม
    กำลังรออยู่ในรถ
    กำลังรอเวลาที่เหมาะสม
    กำลังรออยู่ในรถ
    กำลังรอเพื่อขับรถเข้าไปในที่มืด

  • Alan Walker – Faded แปลเพลงสากล


    Faded นั้นเป็นเพลงของนักดนตรีและ DJ ชาวนอร์เวย์ Alan Walker โดยร่วมกับนักร้องหญิงชาวนอร์เวย์ Iselin Solheim โดยเพลงได้ถูกกำหนดให้เผยแพร่ใน 25 พฤศจิกายน 2015 แต่ได้ล่าช่าเป็น 3 ธันวาคม 2015 โดยเพลงได้ประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้ติด 10 อันดับในประเทศที่มันติดชาร์ต และมากกว่า 10 ประเทศ Walker ได้เปิดตัวการแสดงสดของ “Faded” กับ Iselin Solheim ใน 27 กุมภาพันธุ์ 2017 โดยการแสดงได้ออกอากาศถ่ายทอดสดบนโทรทัศน์นอร์เวย์ วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    You were the shadow to my light
    Did you feel us
    Another start
    You fade away
    Afraid our aim is out of sight
    Wanna see us
    Alive

    คุณเป็นเงาในแสงสว่างของฉัน
    คุณรู้สึกเหมือนกันไหม
    เริ่มต้นอีกครั้ง
    คุณจางหายไป
    กลัวว่าเป้าหมายของเราจะพ้นจากสายตา
    อยากเห็นเรา
    มีชีวิตอยู่

    Where are you now
    Where are you now
    Where are you now
    Was it all in my fantasy
    Where are you now
    Were you only imaginary
    Where are you now

    ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน
    ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน
    ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน
    เป็นไปได้ไหมในจินตนาการของฉัน
    ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน
    คุณเป็นเพียงจินตนาการ
    ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน

    Atlantis
    Under the sea
    Under the sea
    Where are you now
    Another dream
    The monsters running wild inside of me

    แอตแลนติส
    ในใต้ทะเล
    ในใต้ทะเล
    ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน
    อีกความฝัน
    มอนสเตอร์ที่วิ่งอยู่ข้างในฉัน

    I’m faded
    I’m faded
    So lost
    I’m faded
    I’m faded
    So lost
    I’m faded

    ฉันหายไป
    ฉันหายไป
    หายไป
    ฉันหายไป
    ฉันหายไป
    หายไป
    ฉันหายไป

    These shallow waters, never met
    What I needed
    I’m letting go
    A deeper dive
    Eternal silence of the sea
    I’m breathing
    Alive

    น้ำตื้นเหล่านี้ไม่เคยพบ
    สิ่งที่ฉันต้องการ
    ฉันปล่อยมือ
    การดำน้ำลึก
    ความเงียบนิรันดร์ของทะเล
    ฉันกำลังหายใจ
    มีชีวิตอยู่

    Where are you now
    Where are you now

    ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน
    ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน

    Under the bright
    But faded lights
    You set my heart on fire
    Where are you now
    Where are you now

    ภายใต้ความสว่าง
    แต่แสงได้จางหายไป
    คุณทำให้ใจฉันร้อนเป็นไฟ
    ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน
    ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน

    Where are you now
    Atlantis
    Under the sea
    Under the sea
    Where are you now
    Another dream
    The monsters running wild inside of me

    ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน
    แอตแลนติส
    ภายใต้ท้องทะเล
    ภายใต้ท้องทะเล
    ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน
    อีกความฝัน
    มอนสเตอร์ที่วิ่งอยู่ข้างในฉัน

    I’m faded
    I’m faded
    So lost
    I’m faded
    I’m faded
    So lost
    I’m faded

    ฉันหายไป
    ฉันหายไป
    หายไป
    ฉันหายไป
    ฉันหายไป
    หายไป
    ฉันหายไป

  • Imagine Dragons – Demons แปลเพลงสากล


    Demons เป็นเพลงของวงดนตรีร็อคอเมริกัน Imagine Dragons เขียนโดย Imagine Dragons และ Alex da Kid และเผยแพร่ใน 28 มกราคม 2013 ในอัลบั้ม Night Visions เป็นแทร็คที่สี่ และหลังจากนั้นเปิดตัวเพลงอย่างเป็นทางการในสถานีวิทยุ contemporary hit radio ใน 17 กันยายน 2017 โดยเนื้อเพลงได้พูดถึงการแสดงให้เห็นถึงข้อบกพร่องที่มีอยู่ในทุกคน วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    When the days are cold and the cards all fold
    And the saints we see are all made of gold
    When your dreams all fail and the ones we hail
    Are the worst of all and the blood’s run stale

    ในวันที่หนาวเย็น และการ์ดทั้งหมดได้คว่ำลง
    และนักบุญที่เราได้เห็นทั้งหมดนั้นต่างก็ทำด้วยทองคำ
    เมื่อความฝันของคุณล้มเหลวทั้งหมดและคนที่เราร้องหา
    เป็นคนที่แย่ทั้งหมด และเลือดบริสุทธิ์กลับกลายเป็นสิ่งที่เน่าเปื่อย

    I want to hide the truth, I want to shelter you
    But with the beast inside, there’s nowhere we can hide
    No matter what we breed, we still are made of greed
    This is my kingdom come, this is my kingdom come

    ฉันอยากจะซ่อนความจริงไว้ ฉันอยากจะปกปิดมันจากคุณ
    แต่มีสัตว์เดรัจฉานอยู่ข้างใน จึงไม่มีที่ไหนสามารถซ่อนได้
    มันไม่สำคัญว่าเราจะถูกอบรมมายังไง แต่เรายังคงถูกสร้างมาจากความโลภ
    นี่คืออาณาจักรของฉัน นี่คืออาณาจักรของฉัน

    When you feel my heat, look into my eyes
    It’s where my demons hide, it’s where my demons hide
    Don’t get too close, it’s dark inside
    It’s where my demons hide, it’s where my demons hide

    เมื่อคุณรู้สึกถึงความเร่าร้อนของฉัน มองในตาของฉัน
    มันเป็นที่ที่ปีศาจซ่อนอยู่ มันเป็นที่ที่ปีศาจซ่อนอยู่
    อย่าเข้ามาใกล้มาก เพราะข้างในมันดำมืด
    มันเป็นที่ที่ปีศาจซ่อนอยู่ มันเป็นที่ที่ปีศาจซ่อนอยู่

    At the curtain’s call is the last of all
    When the lights fade out, all the sinners crawl
    So they dug your grave and the masquerade
    Will come calling out at the mess you made

    ที่ม่านเรียกนี่คือสุดท้ายของทั้งหมด
    เมื่อแสงค่อยเลือนหายไป คนบาปทั้งหมดก็เริ่มคลานเข้ามา
    พวกเขาขุดหลุมฝังศพให้คุณและการปลอมตัว
    จะออกมาเรียกถึงความยุ่งเหยิงที่คุณได้ทำ

    I don’t want to let you down, but I am hell bound
    Though this is all for you I don’t want to hide the truth
    No matter what we breed, we still are made of greed
    This is my kingdom come, this is my kingdom come

    ฉันไม่ต้องการทำให้คุณผิดหวัง แต่ฉันผูกพันกับนรก
    แม้ทั้งหมดนี้จะเป็นของคุณ แต่ฉันไม่อยากปิดบังความจริง
    มันไม่สำคัญว่าเราจะถูกอบรมมายังไง แต่เรายังคงถูกสร้างมาจากความโลภ
    นี่คืออาณาจักรของฉัน นี่คืออาณาจักรของฉัน

    When you feel my heat, look into my eyes
    It’s where my demons hide, it’s where my demons hide
    Don’t get too close, it’s dark inside
    It’s where my demons hide, it’s where my demons hide

    เมื่อคุณรู้สึกถึงความเร่าร้อนของฉัน มองในตาของฉัน
    มันเป็นที่ที่ปีศาจซ่อนอยู่ มันเป็นที่ที่ปีศาจซ่อนอยู่
    อย่าเข้ามาใกล้มาก เพราะข้างในมันดำมืด
    มันเป็นที่ที่ปีศาจซ่อนอยู่ มันเป็นที่ที่ปีศาจซ่อนอยู่

    They say it’s what you make, I say it’s up to fate
    It’s woven in my soul, I need to let you go
    Your eyes, they shine so bright, I want to save their light
    I can’t escape this now, unless you show me how

    พวกเขาพูดว่ามันเกิดจากคุณ ฉันพูดว่ามันขึ้นกับโชคชะตา
    วันวนเวียนในจิตวิญญาณของฉัน ฉันต้องการที่จะให้คุณไป
    ดวงตาของคุณมันส่องสว่างมาก ฉันอยากจะเก็บแสงสว่างเหล่านั้นไว้
    ตอนนี้ฉันไม่สามารถหลบหนีได้ นอกจากคุณจะทำให้ฉันดู

    When you feel my heat, look into my eyes
    It’s where my demons hide, it’s where my demons hide
    Don’t get too close, it’s dark inside
    It’s where my demons hide, it’s where my demons hide

    เมื่อคุณรู้สึกถึงความเร่าร้อนของฉัน มองในตาของฉัน
    มันเป็นที่ที่ปีศาจซ่อนอยู่ มันเป็นที่ที่ปีศาจซ่อนอยู่
    อย่าเข้ามาใกล้มาก เพราะข้างในมันดำมืด
    มันเป็นที่ที่ปีศาจซ่อนอยู่ มันเป็นที่ที่ปีศาจซ่อนอยู่

  • Chase Rice – How She Rolls แปลเพลงสากล


    How She Rolls เป็นเพลงของนักดนตรีคันทรีชาวอเมริกัน Chase Rice เผยแพร่ใน 3 เมษายน 2013 ในอัลบั้มที่สามของเขาที่มีชื่อว่า Ignite the Night (2014) เพลงนี้ได้เขียนขึ้นโดย Rice และ Brian Kelley วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน ซึ่งเป็นอีกเพลงหนึ่งซึ่งมีเนื้อร้องและทำนองสนุกไม่เบาเลย


    She’s a pick me up at six, make you wait ’til eight
    Country girl sticker on her Chevrolet
    She’d close on an old pine down by the riverbank
    Buzz from a cheap wine, first love on a tailgate
    A summer night in July, bottle rocket flying high
    Fire poppin’, body rockin’, droppin’ under the moonlight.

    เธอปุกฉันตั้งแต่หกโมงเช้า และทำให้เธอต้องรอจนถึงแปดโมงเช้า
    สาวชนบทติดสติ๊กเกอร์บน Chevrolet ของเธอ
    เธอจะปิดลงบนไม้สนเก่าที่ริมแม่น้ำ
    เสียงพึมพำจากไวน์ราคาถูก รักครั้งแรกบนกระบะท้าย
    คืนฤดูร้อนในเดือนกรกฎาคม จรวดขวดบินสูง
    ไฟป๊อปปี้ ร็อกกิ้งร่างกาย ทิ้งลงภายใต้แสงจันทร์

    My baby’s all hands in the air and don’t have a care
    When her song’s on the radio
    A little crazy with a blue jean tear
    Gets a RayBan’s stare just about everywhere we go.
    She likes to get down, sippin’ on coke and crown
    Jesus and gypsy soul
    Yeah, that’s how she rocks, that’s how she rolls.

    ที่รักของฉันชูแขนขึ้นไปบนอากาศโดยไม่สนใจอะไร
    เมื่อเพลงของเธออยู่บนวิทยุ
    กับความบ้าคลั่งเล็กน้อยและยีนส์ขาดๆ สีฟ้า
    ที่ถูกจ้องมองจาก RayBan เกี่ยวกับทุกที่ที่เราไป
    เธอชอบที่จะลง นั่งจิบโค๊กและสวมมงกุฎ
    พระเยซูและจิตวิญญาณยิปซี
    ใช่แล้ว นั่นเป็นวิธีที่เธอโยก นั่นเป็นวิธีที่เธอกลิ้ง

    She’s a backwards hat, hey boys what’s up
    Strawberry lipstick from a Dixie cup
    A quick silver tan line, riding shot gun in my truck
    A charm with a peace sign around her neck for a little luck

    เธอเป็นหมวกหลัง เฮ้บอย เกิดอะไรขึ้น
    ลิปสติกสตรอเบอรี่จากถ้วย Dixie
    เส้นสีน้ำตาลปรอท พาดอยู่บนปืนลูกซองในรถบรรทุกของฉัน
    เสน่ห์ที่มีเครื่องหมายสันติภาพรอบคอของเธอสำหรับโชคเล็กน้อย

    My baby’s all hands in the air and don’t have a care
    When her song’s on the radio
    A little crazy with a blue jean tear
    Gets a RayBan’s stare just about everywhere we go.
    She likes to get down, sippin’ on coke and crown
    Jesus and gypsy soul
    Yeah, that’s how she rocks, that’s how she rolls.

    ที่รักของฉันชูแขนขึ้นไปบนอากาศโดยไม่สนใจอะไร
    เมื่อเพลงของเธออยู่บนวิทยุ
    กับความบ้าคลั่งเล็กน้อยและยีนส์ขาดๆ สีฟ้า
    ที่ถูกจ้องมองจาก RayBan เกี่ยวกับทุกที่ที่เราไป
    เธอชอบที่จะลง นั่งจิบโค๊กและสวมมงกุฎ
    พระเยซูและจิตวิญญาณยิปซี
    ใช่แล้ว นั่นเป็นวิธีที่เธอโยก นั่นเป็นวิธีที่เธอกลิ้ง

    Yeah, that’s how she rolls.
    My baby’s all hands in the air and don’t have a care
    When her song’s on the radio
    A little crazy with a blue jean tear
    Man a RayBan’s stare just about everywhere we go.

    ใช่แล้ว นั่นเป็นวิธีที่เธอกลิ้ง
    ที่รักของฉันชูแขนขึ้นไปบนอากาศโดยไม่สนใจอะไร
    เมื่อเพลงของเธออยู่บนวิทยุ
    กับความบ้าคลั่งเล็กน้อยและยีนส์ขาดๆ สีฟ้า
    ได้รับการจ้องมองจาก RayBan เกี่ยวกับทุกที่ที่เราไป

    My baby’s all hands in the air and don’t have a care
    When her song’s on the radio
    A little crazy with a blue jean tear
    Gets a RayBan’s stare just about everywhere we go.
    She likes to get down, sippin’ on coke and crown
    Jesus and gypsy soul
    Yeah, that’s how she rocks, and that’s how she rolls.

    ที่รักของฉันชูแขนขึ้นไปบนอากาศโดยไม่สนใจอะไร
    เมื่อเพลงของเธออยู่บนวิทยุ
    กับความบ้าคลั่งเล็กน้อยและยีนส์ขาดๆ สีฟ้า
    ที่ถูกจ้องมองจาก RayBan เกี่ยวกับทุกที่ที่เราไป
    เธอชอบที่จะลง นั่งจิบโค๊กและสวมมงกุฎ
    พระเยซูและจิตวิญญาณยิปซี
    ใช่แล้ว นั่นเป็นวิธีที่เธอโยก นั่นเป็นวิธีที่เธอกลิ้ง

    Yeah, that’s how she rolls.
    Yeah, that’s how she rolls.

    ใช่แล้ว นั่นเป็นวิธีที่เธอกลิ้ง
    ใช่แล้ว นั่นเป็นวิธีที่เธอกลิ้ง

  • Aaron Shust – My Savior My God แปลเพลงสากล


    My Savior My God นั้นเป็นเพลงจากวิทยุนักดนตรีคริสเตียนสมัยใหม่ Aaron Shust จากอัลบั้ม Anything Worth Saying ของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะแต่งเพลงนี้เอง Shust ก็ได้ใช้บทกวีจาก Dora Greenwell ในปี 1873 “I Am Not Skilled to Understand” ในตอนแรกเริ่มของเนื้อร้อง และเพิ่มท่อนเชื่อมหลังจากนั้น โดยเพลงได้ติดอันดับที่ 1 บนวิทยุคริสเตียนเมื่อ เมษายน 2016 และเป็นเพลงที่ถูกเปิดมากที่สุดบนสถานีวิทยุของคริสเตียนสมัยใหม่ มันได้รับรางวัลแห่งปี “Song of the Year” ที่ GMA Dove Awards ในปี 2007 วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    I am not skilled to understand
    What God has willed, what God has planned
    I only know at His right hand
    Stands One who is my Savior

    ฉันไม่มีความสามารถที่จะเข้าใจ
    ในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ ในสิ่งที่พระองค์ได้วางแผนเอาไว้
    ฉันรู้เพียงทางด้านขวามือของพระองค์เท่านั้น
    เพียงหนึ่งเดียวที่ช่วยเหลือฉัน

    I take Him at His word and deed
    Christ died to save me, this I read
    And in my heart I find a need
    Of Him to be my Savior

    ฉันจะรับพระองค์ตามคำพูดและการกระทำของพระองค์
    พระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อช่วยฉัน ฉันทราบแล้ว
    และในหัวใจของฉัน ฉันต้องการ
    ให้พระองค์เป็นผู้ช่วยให้รอด

    That He would leave His place on high
    And come for sinful man to die
    You count it strange so once did I
    Before I met my Savior

    ที่พระองค์จะทิ้งสถานที่ที่สูงของพระองค์ไว้
    และลงมาช่วยชายที่เต็มไปด้วยความบาปด้วยชีวิต
    คุณนับว่ามันแปลก เหมือนครั้งหนึ่งที่ฉันได้ทำ
    ก่อนที่ฉันจะพบผู้ช่วยเหลือ

    My Savior loves, my Savior lives
    My Savior’s always there for me
    My God He was, my God He is
    My God He’s always gonna be

    พระผู้ช่วยให้รอดรักฉัน พระผู้ช่วยให้รอดของฉันอาศัยอยู่
    ผู้ช่วยให้รอดของฉันอยู่ที่นั่นเสมอสำหรับฉัน
    พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น
    พระเจ้าของฉันเขาจะเป็นเสมอ

    My Savior loves, my Savior lives
    My Savior’s always there for me
    My God He was, my God He is
    My God He’s always gonna be

    พระผู้ช่วยให้รอดรักฉัน พระผู้ช่วยให้รอดของฉันอาศัยอยู่
    ผู้ช่วยให้รอดของฉันอยู่ที่นั่นเสมอสำหรับฉัน
    พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น
    พระเจ้าของฉันเขาจะเป็นเสมอ

    Yes, living, dying, let me bring
    My strength, my solace from this spring
    That He who lives to be my King
    Once died to be my Savior

    ใช่ การมีชีวิตอยู่ การใกล้จะตาย ให้ฉันนำ
    ความเข้มแข้งและความปลอดใจของฉันในฤดูใบไม้ผลินี้
    ว่าพระองค์ผู้อยู่ที่จะเป็นพระมหากษัตริย์ของเรา
    เคยสิ้นพระชนม์เพื่อเป็นผู้ช่วยให้ฉันรอด

    That He would leave His place on high
    And come for sinful man to die
    You count it strange so once did I
    Before I knew my Savior

    ที่พระองค์จะทิ้งสถานที่ที่สูงของพระองค์ไว้
    และลงมาช่วยชายที่เต็มไปด้วยความบาปด้วยชีวิต
    คุณนับว่ามันแปลก เหมือนครั้งหนึ่งที่ฉันได้ทำ
    ก่อนที่ฉันจะรู้ผู้ช่วยเหลือ

    My Savior loves, my Savior lives
    My Savior’s always there for me
    My God He was, my God He is
    My God He’s always gonna be

    พระผู้ช่วยให้รอดรักฉัน พระผู้ช่วยให้รอดของฉันอาศัยอยู่
    ผู้ช่วยให้รอดของฉันอยู่ที่นั่นเสมอสำหรับฉัน
    พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น
    พระเจ้าของฉันเขาจะเป็นเสมอ

    My Savior loves, my Savior lives
    My Savior’s always there for me
    My God He was, my God He is
    My God He’s always gonna be

    พระผู้ช่วยให้รอดรักฉัน พระผู้ช่วยให้รอดของฉันอาศัยอยู่
    ผู้ช่วยให้รอดของฉันอยู่ที่นั่นเสมอสำหรับฉัน
    พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น
    พระเจ้าของฉันเขาจะเป็นเสมอ

    My Savior loves, my Savior lives
    My Savior’s always there for me
    My God He was, my God He is
    My God He’s always gonna be

    พระผู้ช่วยให้รอดรักฉัน พระผู้ช่วยให้รอดของฉันอาศัยอยู่
    ผู้ช่วยให้รอดของฉันอยู่ที่นั่นเสมอสำหรับฉัน
    พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น
    พระเจ้าของฉันเขาจะเป็นเสมอ

    My Savior loves, my Savior lives
    My Savior’s always there for me
    My God He was, my God He is
    My God He’s always gonna be

    พระผู้ช่วยให้รอดรักฉัน พระผู้ช่วยให้รอดของฉันอาศัยอยู่
    ผู้ช่วยให้รอดของฉันอยู่ที่นั่นเสมอสำหรับฉัน
    พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น
    พระเจ้าของฉันเขาจะเป็นเสมอ

    My Savior loves, my Savior lives
    My Savior’s always there for me
    My God He was, my God He is
    My God He’s always gonna be
    My Savior loves, my Savior lives
    My Savior’s always there for me
    My God He was, my God He is
    My God He’s always gonna be
    My Savior lives, my Savior loves
    My Savior lives, my Savior loves
    My Savior lives

    พระผู้ช่วยให้รอดรักฉัน พระผู้ช่วยให้รอดของฉันอาศัยอยู่
    ผู้ช่วยให้รอดของฉันอยู่ที่นั่นเสมอสำหรับฉัน
    พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น
    พระเจ้าของฉันเขาจะเป็นเสมอ
    พระผู้ช่วยให้รอดรักฉัน พระผู้ช่วยให้รอดของฉันอาศัยอยู่
    ผู้ช่วยให้รอดของฉันอยู่ที่นั่นเสมอสำหรับฉัน
    พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น พระเจ้าของฉันพระองค์เป็น
    พระเจ้าของฉันเขาจะเป็นเสมอ
    พระผู้ช่วยให้รอดของฉันอาศัยอยู่ พระผู้ช่วยให้รอดรักฉัน
    พระผู้ช่วยให้รอดของฉันอาศัยอยู่ พระผู้ช่วยให้รอดรักฉัน
    พระผู้ช่วยให้รอดของฉันอาศัยอยู่

  • Lorde – Yellow Flicker Beat แปลเพลงสากล


    Yellow Flicker Beat เป็นเพลงจากนักร้องหญิงชาวนิวซีแลนด์ Lorde เปิดตัวใน 29 กันยายน โดยเป็นเพลงนำ Soundtrack จากภาพยนต์เรื่อง The Hunger Games: Mockingjay – Part 1 โดย Republic Records โดยเพลงเขียนโดย Lorde เองและ Joel Little โดยเพลงเป็นแนว electropop และมีการทำเพลงออกมาในรูปของ electronic โดยมีเสียงสังเคราะห์และกลองเล็กน้อย วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    I’m a princess cut from marble, smoother than a storm
    And the scars that mark my body, they’re silver and gold
    My blood is a flood of rubies, precious stones
    It keeps my veins hot, the fires find a home in me
    I move through town, I’m quiet like a fire
    And my necklace is of rope, I tie it and untie it

    ฉันคือเจ้าหญิงที่มาจากหินอ่อน ที่นุ่มนวลกว่าพายุ
    และรอยแผลเป็นที่ทำเครื่องหมายบนร่างกายของฉัน มันคือเงินและทอง
    เลือดของฉันอาบท่วมไปด้วยทับทิม ล้ำค่าเหมือนศิลา
    มันทำให้หลอดเลือดดำของฉันเร่าร้อน และไฟก็ได้หาบ้านในตัวฉัน
    ฉันเคลื่อนที่ผ่านเมือง ฉันเงียบเหมือนไฟเลย
    และสร้อยคอฉันนั้นพัวพัน ฉันผูกและแก้มัน

    And our people talk to me, but nothing ever hits
    So people talk to me, and all the voices just burn holes
    I’m going in (ooh)

    และคนของเราได้พูดกับฉัน แต่ไม่มีใครพูดโจมตีเลย
    ดังนั้นผู้คนจึงพูดกับฉัน และเสียงทั้งหมดนั้นได้ถูกเผาในหลุม
    ฉันกำลังเข้าไป (โอ้)

    This is the start of how it all ever ends
    They used to shout my name, now they whisper it
    I’m speeding up and this is the
    Red, orange, yellow flicker beat sparking up my heart
    We rip the start, the colors disappear
    I never watch the stars there’s so much down here
    So I just try to keep up with them
    Red, orange, yellow flicker beat sparking up my heart

    นี่คือจุดเริ่มต้น ของการที่ทั้งหมดเคยจบลง
    พวกเขาเคยตะโกนเรียกชื่อของฉัน แต่ตอนนี้มันเป็นเพียงแค่เสียงกระซิบ
    ฉันเร่งความเร็วขึ้น และนี่คือ
    แสงวูบวาบสีแดง ส้ม เหลือง เกิดประกายไฟขึ้นหัวใจของฉัน
    เราตัดการเริ่มต้น สีเหล่านั้นก็ได้หายไป
    ฉันไม่เคยดูดวงดาวที่มีมากมายอยู่ข้างล่างนี้เลย
    ดังนั้นฉันจึงพยายามที่จะทำกับพวกเขาต่อไป
    สีแดง ส้ม เหลือง เกิดประกายไฟขึ้นในหัวใจของฉัน

    I dream all year, but they’re not the same kinds
    And the shivers move down my shoulder blades in double time

    ฉันฝันตลอดทั้งปี แต่มันไม่เคยเป็นความฝันชนิดเดียวกันเลย
    และการสั่นสะเทือนทำให้ใบไหล่ของฉันเคลื่อนลงเร็วสองเท่า

    And now people talk to me I’m slipping out of reach now
    People talk to me, and all their faces blur
    But I got my fingers laced together and I made a little prison
    And I’m locking up everyone that ever laid a finger on me
    I’m going in (ooh)

    และตอนนี้ผู้คนพูดคุยกับฉัน ฉันกำลังไถลออกจากผู้คนตอนนี้
    ผู้คนพูดกับฉัน และหน้าของพวกเขาพร่ามัว
    แต่ฉันได้นำนิ้วของฉันคล้องกันและทำคุกเล็กๆ
    และฉันล็อคทุกๆ คนที่ชี้นิ้วมาที่ฉัน
    ฉันกำลังเข้าไป (โอ้)

    This is the start of how it all ever ends
    They used to shout my name, now they whisper it
    I’m speeding up and this is the
    Red, orange, yellow flicker beat sparking up my heart
    We rip the start, the colors disappear
    I never watch the stars there’s so much down here
    So I just try to keep up with them
    Red, orange, yellow flicker beat sparking up my heart

    นี่คือจุดเริ่มต้น ของการที่ทั้งหมดเคยจบลง
    พวกเขาเคยตะโกนเรียกชื่อของฉัน แต่ตอนนี้มันเป็นเพียงแค่เสียงกระซิบ
    ฉันเร่งความเร็วขึ้น และนี่คือ
    แสงวูบวาบสีแดง ส้ม เหลือง เกิดประกายไฟขึ้นหัวใจของฉัน
    เราตัดการเริ่มต้น สีเหล่านั้นก็ได้หายไป
    ฉันไม่เคยดูดวงดาวที่มีมากมายอยู่ข้างล่างนี้เลย
    ดังนั้นฉันจึงพยายามที่จะทำกับพวกเขาต่อไป
    สีแดง ส้ม เหลือง เกิดประกายไฟขึ้นในหัวใจของฉัน

    And this is the red, orange, yellow flicker beat
    Sparking up my heart
    And this is the red, orange, yellow flicker beat-beat-beat-beat

    และนี่คือสีแดง ส้ม เหลือง เกิดประกายไฟขึ้น
    ในหัวใจของฉัน
    และนี่คือสีแดง ส้ม เหลือง เกิดประกายไฟขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น

  • Avicii – Wake Me Up แปลเพลงสากล


    Wake me up เป็นเพลงของ DJ และศิลปินเพลงอิเล็กทรอนิกส์ชาวสวีเดน Avicii จากการเปิดตัวอัลบั้ม True (2013) โดยได้มีนักร้องเพลง soul ชาวอเมริกัน Aloe Blacc ได้เป็นผู้ให้เสียงร้อง Mike Einziger เป็นคนให้เสียงกีต้าร์ Avicii ได้เปิดตัว Wake me up ครั้งแรกโดยแสดง live บนเวทีที่ Ultra Music Festival ใน Miami Avicii ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงเมื่อเพลงได้เป็นที่นิยมและได้มียอดซื้อเป็นจำนวนมากไปทั่วโลก วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Feeling my way through the darkness
    Guided by a beating heart
    I can’t tell where the journey will end
    But I know where to start
    They tell me I’m too young to understand
    They say I’m caught up in a dream
    Well life will pass me by if I don’t open up my eyes
    Well that’s fine by me

    สัมผัสความรู้สึกของฉันผ่านความมืด
    ถูกนำพาโดยหัวใจที่เร่าร้อน
    ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าการเดินทางจะสิ้นสุดลงที่ไหน
    แต่ฉันรู้ว่าจะเริ่มต้นจากที่ใด
    พวกเขาบอกว่าฉันยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจ
    พวกเขาบอกว่าฉันติดอยู่ในความฝัน
    ดีละ ชีวิตจะผ่านไปได้ถ้าฉันไม่เปิดตาสู่โลก
    ดีละ ฉันสบายดี

    So wake me up when it’s all over
    When I’m wiser and I’m older
    All this time I was finding myself
    And I didn’t know I was lost
    So wake me up when it’s all over
    When I’m wiser and I’m older
    All this time I was finding myself
    And I didn’t know I was lost

    เมื่อทุกอย่างจบสิ้นค่อยปลุกฉัน
    เมื่อฉันฉลาดและฉันแก่กว่านี้
    ตลอดเวลานี้ฉันกำลังค้นพบตัวเอง
    และฉันไม่รู้ว่าฉันสูญเสีย
    ดังนั้น เมื่อทุกอย่างจบสิ้นค่อยปลุกฉัน
    เมื่อฉันฉลาดและฉันแก่กว่านี้
    ตลอดเวลานี้ฉันกำลังค้นพบตัวเอง
    และฉันไม่รู้ว่าฉันสูญเสีย

    I tried carrying the weight of the world
    But I only have two hands
    I hope I get the chance to travel the world
    But I don’t have any plans
    I wish that I could stay forever this young
    Not afraid to close my eyes
    Life’s a game made for everyone
    And love is the prize

    ฉันพยายามแบกโลกทั้งใบไว้
    แต่ฉันมีเพียงสองมือเท่านั้น
    ฉันหวังว่าฉันจะมีโอกาสได้เดินทางไปทั่วโลก
    แต่ฉันไม่มีแผนการใดๆ เลย
    ฉันหวังว่าฉันจะอยู่แบบนี้ตลอดไป
    ไม่กลัวที่จะหลับตาลง
    ชีวิตเป็นเกมที่สร้างขึ้นสำหรับทุกคน
    และความรักเป็นรางวัล

    So wake me up when it’s all over
    When I’m wiser and I’m older
    All this time I was finding myself
    And I didn’t know I was lost
    So wake me up when it’s all over
    When I’m wiser and I’m older
    All this time I was finding myself
    And I didn’t know I was lost

    ดังนั้น เมื่อทุกอย่างจบสิ้นค่อยปลุกฉัน
    เมื่อฉันฉลาดและฉันแก่กว่านี้
    ตลอดเวลานี้ฉันกำลังค้นพบตัวเอง
    และฉันไม่รู้ว่าฉันได้สูญเสีย
    ดังนั้น เมื่อทุกอย่างจบสิ้นค่อยปลุกฉัน
    เมื่อฉันฉลาดและฉันแก่กว่านี้
    ตลอดเวลานี้ฉันกำลังค้นพบตัวเอง
    และฉันไม่รู้ว่าฉันได้สูญเสีย

    I didn’t know I was lost
    I didn’t know I was lost
    I didn’t know I was lost
    I didn’t know I was lost

    ฉันไม่รู้ว่าฉันได้สูญเสีย
    ฉันไม่รู้ว่าฉันได้สูญเสีย
    ฉันไม่รู้ว่าฉันได้สูญเสีย
    ฉันไม่รู้ว่าฉันได้สูญเสีย

  • Blake Shelton – She Wouldn’t Be Gone แปลเพลงสากล


    She Wouldn’t Be Gone เป็นเพลงที่เขียนโดย Jennifer Adan และ Cory Batten และบันทึกการร้องโดยนักร้องคันทรีชาวอเมริกัน Blake Shelton มันถูกเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2008 ในอัลบั้ม Startin’ Fires ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ห้าของเขา ที่เปิดตัวใน 18 พศจิกายน 2008 โดยเพลงนี้ได้เป็นเพลงที่ 5 ของเขาแล้วที่ติดชาร์ตบน Hot Country Songs วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Red roadside wild flower if I’d only picked you
    Took you home set you on the counter
    Oh, at least a time or two
    Maybe she’d thought it through

    ดอกไม้ป่าสีแดงที่ริมถนน ถ้าฉันเพียงแค่อยากจะเก็บมันให้คุณ
    พาคุณกลับไปยังบ้านและให้คุณไปนั่งที่เคาน์เตอร์
    โอ้ ขอเวลาอย่างน้อยครู่หนึ่ง
    บางทีเธออาจจะคิดว่ามันผ่านไปแล้ว

    Yellow sunset slowly dipping down in the rear view
    Oh, how she’d love to sit and watch you
    I could have done that a whole lot more
    If I hadn’t been so stubborn, been so selfish
    Thought about her more, thought about me less
    Joked and make her laugh, held her when she cried
    A little more that, maybe I

    พระอาทิตย์สีเหลืองค่อยๆ ตกเคลื่อนลงในมุมมองด้านหลัง
    โอ้ เธอชอบนั่งและดูมัน
    ฉันอาจจะเคยทำแบบนั้นมามากกว่านั้นอีก
    ถ้าฉันไม่ได้ปากแข็งและเป็นคนเห็นแก่ตัว
    คิดเกี่ยวกับเธอมากๆ และคิดถึงฉันน้อยๆ
    เล่นตลกและทำให้เธอหัวเราะ กอดเธอไว้เมื่อเธอร้องให้
    น้อยมากที่บางทีฉัน

    Wouldn’t be driving like hell flying like crazy down the highway
    Calling everyone we know stopping any place she might be
    Going any place she might go beating on the dash
    Screaming out her name at the windshield tears soaking up my face
    If I had loved her this much all along, maybe maybe, yeah maybe
    She wouldn’t be gone, she wouldn’t be gone

    จะไม่ขับรถเหมือนนรก พุ่งไปอย่างบ้าคลั่งไปตามทางหลวง
    โทรเรียกทุกคนที่เรารู้จัก หยุดทุกสถานที่ที่เธออาจจะไป
    ไปทุกสถานที่ที่เธอน่าจะไป
    ตะโกนร้องชื่อของเธอออกมา น้ำตาไหลเต็มหน้าของฉัน
    ถ้าฉันรักเธอมากกว่านี้ตลอดมา บางที บางที ใช่แล้วบางที
    เธออาจจะไม่ไป เธออาจจะไม่ไป

    She warned me it was coming said if I didn’t change
    She was leaving
    I just didn’t believe she would ever really walk out,
    God, I believe her now
    Called her mamma, cried like a baby to her best friend
    If they’ve seen her, they ain’t sayin’, they ain’t sayin’
    Now, I’m cursing like a fool, praying it ain’t too late
    All I wanna do is fix my mistakes.

    เธอได้เตือนฉันว่าถ้าฉันไม่เปลี่ยน
    เธอจะไป
    ฉันแค่ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะทำอย่างนั้นจริงๆ
    พระเจ้า ตอนนี้ฉันเชื่อเธอแล้ว
    เรียกเธอว่าแม่ ร้องไห้เหมือนทารกเหมือนเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด
    ถ้าพวกเขาได้เห็นเธอ เขาจะไม่พูด เขาจะไม่พูด
    ตอนนี้ ฉันด่าตัวเองเหมือนคนโง่ ภาวนาให้มันไม่สายเกินไป
    ทั้งหมดที่ฉันอยากจะทำคือแก้ไขความผิดพลาดของฉัน

    Find her beg her for one more try, until then damn it I’ll
    Be driving like hell flying like crazy down the highway
    Calling everyone we know stopping any place she might be
    Going any place she might go beating on the dash
    Screaming out her name at the windshield tears soaking up my face
    If I had loved her this much all along, maybe maybe, yeah maybe
    She wouldn’t be gone

    หาเธอให้พบ และขอโอกาสเธออีกครั้งหนึ่ง ฉันจะทำจนถึงที่สุด
    จะขับรถเหมือนนรกบินอย่างบ้าคลั่งลงทางหลวง
    โทรเรียกทุกคนที่เรารู้จัก หยุดทุกสถานที่ที่เธออาจจะไป
    ไปทุกๆ สถานที่ที่เธอน่าจะน่าไป
    ตะโกนร้องชื่อของเธอออกมา น้ำตาไหลเต็มหน้าของฉัน
    ถ้าฉันรักเธอมากกว่านี้ตลอดมา บางที บางที ใช่แล้วบางที
    เธออาจจะไม่ไป เธออาจจะไม่ไป

    I wouldn’t be beating on the dash
    Screaming out her name at the windshield tears soaking up my face
    If I had loved her this much all along, maybe maybe, yeah maybe
    She wouldn’t be gone

    ฉันคงจะไม่ได้ทุบแผงหน้ารถ
    ตะโกนร้องชื่อของเธอออกมา น้ำตาไหลเต็มหน้าของฉัน
    ถ้าฉันรักเธอมากกว่านี้ตลอดมา บางที บางที ใช่แล้วบางที
    เธออาจจะไม่ไป

    Red roadside wild flower if I’d only picked you
    Took you home set you on the counter, oh at least a time or two
    Maybe she’d thought it through

    ดอกไม้ป่าสีแดงที่ริมถนน ถ้าฉันเพียงแค่อยากจะเก็บมันให้คุณ
    พาคุณกลับไปยังบ้านและให้คุณไปนั่งที่เคาน์เตอร์ โอ้ ขอเวลาอย่างน้อยครู่หนึ่ง
    บางทีเธออาจจะคิดว่ามันผ่านไปแล้ว

  • Alan Walker – Alone แปลเพลงสากล


    Alone นั้นเป็นเพลงของนักดนตรีและ DJ ชาวนอร์เวย์ Alan Walker โดยเปิดตัวให้ซื้อดาวน์โหลดได้ใน 2 ธันวาคม 2016 ในการเปิดตัว Alan บอกว่า Alone นั้นเป็นเพลงเกี่ยวกับการติดต่อกัน โดยเพลงได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เขาบอกว่า เมื่อฉันทำเพลงขึ้นมา มันให้ได้เป็นเรื่องที่เฉพาะเจาะจงอะไร แต่มันเกี่ยวกับการสร้างอะไรบางอย่างที่ฉันคิดว่าคนอื่นจะสนุกกับฉัน นี่คือประสบการณ์ในการสร้างเพลงของฉัน และสิ่งที่ฉันได้แบ่งมันกับคนอื่นนั้นมันน่าทึ่ง และแน่นอนวันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Lost in your mind
    I wanna know
    Am I losing my mind?
    Never let me go

    หลงอยู่ในจิตใจของคุณ
    ฉันอยากจะรู้
    หรือว่าฉันเองที่บ้าไปแล้ว
    อย่าปล่อยให้ฉันไป

    If this night is not forever
    At least we are together
    I know I’m not alone
    I know I’m not alone
    Anywhere, whenever
    Apart, but still together
    I know I’m not alone
    I know I’m not alone

    ถ้าคืนนี้ไม่ได้ยาวนานตลอดไป
    อย่างน้อยเราก็อยู่ด้วยกัน
    ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว
    ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว
    ไม่ว่าที่ไหน ไม่ว่าเวลาใด
    นอกเหนือจากนั้น แต่ก็ยังอยู่ด้วยกัน
    ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว
    ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว

    I know I’m not alone
    I know I’m not alone

    ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว
    ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว

    Unconscious mind
    I’m wide awake
    Wanna feel one last time
    Take my pain away

    จิตไร้สำนึก
    ฉันตื่นตัว
    อยากจะรู้สึกแบบนี้เป็นครั้งสุดท้าย
    ช่วยพาความเจ็บปวดของฉันออกไป

    If this night is not forever
    At least we are together
    I know I’m not alone
    I know I’m not alone
    Anywhere, whenever
    Apart, but still together
    I know I’m not alone
    I know I’m not alone

    ถ้าคืนนี้ไม่ได้ยาวนานตลอดไป
    อย่างน้อยเราก็อยู่ด้วยกัน
    ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว
    ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว
    ไม่ว่าที่ไหน ไม่ว่าเวลาใด
    นอกเหนือจากนั้น แต่ก็ยังอยู่ด้วยกัน
    ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว
    ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว

    I know I’m not alone
    I know I’m not alone
    I’m not alone, I’m not alone
    I’m not alone, I know I’m not alone
    I’m not alone, I’m not alone
    I’m not alone, I know I’m not alone

    ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว
    ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว
    ไม่ได้อยู่คนเดียว ไม่ได้อยู่คนเดียว
    ไม่ได้อยู่คนเดียว ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว
    ไม่ได้อยู่คนเดียว ไม่ได้อยู่คนเดียว
    ไม่ได้อยู่คนเดียว ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว

  • Zedd – Beautiful Now ft. Jon Bellion แปลเพลงสากล


    Beautiful Now เป็นเพลงของศิลปินชาวรัสเซีบ Zedd ร่วมร้องกับนักร้องชาวอเมริกันอย่าง Jon Bellion ซึ่งเป็นอัลบั้มที่สองของเขาชื่อว่า True Colors โดยเพลงได้เขียนโดย Zedd และทีมของเขา และเพลงได้เปิดตัวเมื่อ 13 พฤษภาคม 2015 ซึ่งเพลงนี้ได้ประสบความสำเร็จในการตลาดและติดชาร์ตเพลงดังจากทั่วโลก Music video ของเพลง เผยแพร่ใน 11 มิถุนายน 2015 โดยวิดีโอเป็นการเล่าเรื่องราวพร้อมกันไป 5 เรื่อง เรื่องแรกเป็นผู้หญิงที่ทำให้คนรักของเธอจมน้ำในสระ ที่สองเป็นชายสูงอายุชาวอเมริกันผู้ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการปีนเขา ที่สามคือลูกชายของชายที่บ้านถูกบุกรุกโดยพวกโจร ที่สี่เป็น Zeed ที่ขโมยของจากร้านค้า ที่ห้าเป็นหญิงสาวใจลอยนอนลงบนรางรถไฟ โดยเพลงได้ดำเนินไปและสลับเปลี่ยนฉากไปเรื่อย ซึ่งแสดงเวลาของความสุขและทุกข์ใจของคนเหล่านั้น วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้พร้อมดูวิดีโอกัน


    I see what you’re wearing, there’s nothing beneath it
    Forgive me for staring, forgive me for breathing
    We might not know why, we might not know how
    But baby, tonight, we’re beautiful now

    ฉันเห็นสิ่งที่คุณกำลังเบื่อหน่าย ไม่มีอะไรอยู่ภายใต้ความรู้สึกนั้น
    ยกโทษให้ฉันสำหรับการแอบมอง ยกโทษให้ฉันสำหรับการหายใจ
    เราอาจจะไม่รู้ว่าทำไม เราอาจจะไม่รู้ว่าอย่างไร
    แต่ที่รักคืนนี้ ตอนนี้เราสวยแล้ว

    We’re beautiful now
    We’re beautiful now

    ตอนนี้เราสวยแล้ว
    ตอนนี้เราสวยแล้ว

    We might not know why, we might not know how
    But baby, tonight, we’re beautiful now
    We’ll light up the sky, we’ll open the clouds
    ‘Cause baby, tonight, we’re beautiful now
    We’re beautiful
    We’re beautiful
    We’re beautiful

    เราอาจจะไม่รู้ว่าทำไม เราอาจจะไม่รู้ว่าอย่างไร
    แต่ที่รักคืนนี้ ตอนนี้เราสวยแล้ว
    เราจะส่องแสงขึ้นไปบนท้องฟ้า เราจะเปิดเมฆ
    เพราะว่าที่รักคืนนี้ ตอนนี้เราสวยแล้ว
    เราสวย
    เราสวย
    เราสวย

    Wherever it’s going, I’m gonna chase it
    What’s left of this moment, I’m not gonna waste it
    Stranded together, our worlds have collided
    This won’t be forever, so why try to fight it?

    ไม่ว่ามันจะไปที่ไหนก็ตาม ฉันจะไล่ล่ามัน
    สิ่งที่เหลืออยู่ในขณะนี้ ฉันจะไม่เสียมัน
    ยืนหยัดติดกัน โลกของเราได้ชนกัน
    นี่จะไม่ใช่ตลอดไป แล้วทำไมจะพยายามสู้กับมันละ

    We’re beautiful now
    We’re beautiful now

    ตอนนี้เราสวยแล้ว
    ตอนนี้เราสวยแล้ว

    We might not know why, we might not know how
    But baby, tonight, we’re beautiful now
    We’ll light up the sky, we’ll open the clouds
    ‘Cause baby, tonight, we’re beautiful now
    We’re beautiful
    (We’re beautiful)
    We’re beautiful

    เราอาจจะไม่รู้ว่าทำไม เราอาจจะไม่รู้ว่าอย่างไร
    แต่ที่รักคืนนี้ ตอนนี้เราสวยแล้ว
    เราจะส่งแสงขึ้นไปบนท้องฟ้า เราจะเปิดเมฆ
    เพราะว่าที่รักคืนนี้ ตอนนี้เราสวยแล้ว
    เราสวย
    (เราสวย)
    เราสวย

    Let’s live tonight like fireflies
    And one by one light up the sky
    We disappear and pass the crown
    You’re beautiful, you’re beautiful

    มาใช้ชีวิตในคืนนี้เหมือนกับหิ่งห้อย
    เหมือนหนึ่งต่อหนึ่งส่องแสงบนฟ้า
    เราได้หายไปและผ่านยอดไป
    คุณสวย คุณสวย

    We’re beautiful now
    We’re beautiful now (beautiful)
    We’re beautiful now
    We’re beautiful now
    We’re beautiful
    We’re beautiful, we’re beautiful now
    We’re beautiful now, we’re beautiful now
    We’re beautiful now, we’re beautiful now
    We’re beautiful

    ตอนนี้เราสวยแล้ว
    ตอนนี้เราสวยแล้ว (beautiful)
    ตอนนี้เราสวยแล้ว
    ตอนนี้เราสวยแล้ว
    เราสวยแล้ว
    เราสวยแล้ว ตอนนี้เราสวยแล้ว
    ตอนนี้เราสวยแล้วตอนนี้เราสวยแล้ว
    ตอนนี้เราสวยแล้ว ตอนนี้เราสวยแล้ว
    เราสวยแล้ว