Author: metin30x

  • The Script – Breakeven แปลเพลงสากล


    เพลง Breakeven เป็นเพลงของวง The Script เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2009 อยู่ในอัลบั้ม The Script ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเพลงในตำนานของวง เพราะความหมายของเพลง มันช่างตอกย้ำความเจ็บปวดของคนที่โดนบอกเลิก แต่ยังรักเขาอยู่ได้อย่างลงตัวที่สุด “Cause when a heart breaks no it don’t break even” มาค่ะวันนี้เรามาแปลเพลงนี้กัน


    I’m still alive but I’m barely breathing
    Just praying to a God that I don’t believe in
    ‘Cause I got time while she got freedom
    ‘Cause when a heart breaks no it don’t break even

    ผมยังมีชีวิตอยู่ แต่แทบจะไม่มีลมหายใจออกมา
    ผมภาวนากับพระเจ้า ที่ผมไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง
    เพราะผมได้เวลาคืนมาในขณะที่เธอได้อิสระ
    เพราะเมื่อหัวใจมันต้องแตกสลาย มันแตกไม่เท่ากันหรอก


    ผู้แปล: ‘Cause when a heart breaks no it don’t break even
    เมื่อมีคู่รักที่ต้องเลิกลากัน ทุกคนต่างเสียใจ แต่เสียใจมากเสียใจน้อยต่างกันอยู่แล้ว ไม่มีทางที่มันจะเสียใจเท่ากันค่ะ รักมากเจ็บมาก รักน้อยเจ็บน้อย หมดรักแล้วก็ไม่เจ็บเลย ประมาณนั้น

    Her best days will be some of my worst
    She finally met a man that’s gonna put her first
    While I’m wide awake she’s no trouble sleeping
    ‘Cause when a heart breaks no it don’t breakeven
    Even… no

    วันที่ดีที่สุดของเธอกลายเป็นวันที่แย่ที่สุดของผม
    เธอได้พบกับผู้ชายที่ให้ความสำคัญกับเธอเป็นอันดับหนึ่งแล้ว
    ในขณะที่ผมหลับๆ ตื่นๆ แต่เธอกลับนอนหลับอย่างสบาย (ไม่มีปัญหาในการนอนเลย)
    เพราะเวลาที่หัวใจมันแตกสลาย มันเจ็บปวดไม่เท่ากันหรอก
    ไม่มีทางที่มันจะเท่ากัน

    What am I supposed to do when the best part of me was always you?
    And what am I supposed to say when I’m all choked up and you’re ok?
    I’m falling to pieces, yeah
    I’m falling to pieces

    แล้วผมควรจะทำยังไงต่อไป ในเมื่อที่ผ่านมาสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตผมคือคุณ?
    และอะไรที่ผมควรจะพูดออกมา ในเมื่อผมช็อกจนพูดอะไรไม่ได้แต่คุณยังปกติดี?
    ความรู้สึกของผมแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
    ผมควบคุมตัวเองไม่ได้เลย

    They say bad things happen for a reason
    But no wise words gonna stop the bleeding
    ‘Cause she’s moved on while I’m still grieving
    And when a heart breaks no it don’t breakeven even, even
    … no

    พวกเขาบอกว่าสิ่งแย่ๆ เกิดขึ้นเพราะมีเหตุผลของมัน
    แต่มันไม่มีคำพูดดีๆ คำไหนที่จะมาหยุดเลือดที่ไหลออกมาจากหัวใจผมได้
    เพราะเธอสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในขณะที่ผมยังคงเสียใจอยู่
    และเมื่อหัวใจของคนเรามันแตกสลาย มันไม่มีทางที่จะเสียใจเท่ากัน
    …ไม่มีทาง

    What am I gonna do when the best part of me was always you?
    And what am I supposed to say when I’m all choked up and you’re ok?
    I’m falling to pieces, yeah
    I’m falling to pieces, yeah
    I’m falling to pieces
    (One still in love while the other one’s leaving)
    I’m falling to pieces
    (‘Cause when a heart breaks no it don’t break even)

    แล้วผมควรจะทำยังไงต่อไป ในเมื่อที่ผ่านมาสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตผมคือคุณ?
    และอะไรที่ผมควรจะพูดออกมา ในเมื่อผมช็อกจนพูดอะไรไม่ได้แต่คุณยังปกติดี?
    ความรู้สึกของผมแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
    ตัวผมเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ
    ความรู้สึกของผมแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
    (คนนึงยังรักในขณะที่อีกคนเดินจากไป)
    ตัวผมเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ
    (เพราะเมื่อหัวใจของคนเรามันแตกสลาย มันไม่มีทางที่จะเสียใจเท่ากัน)

    Oh, you got his heart and my heart and none of the pain
    You took your suitcase, I took the blame
    Now I’m tryna make sense of what little remains, oh
    ‘Cause you left me with no love and no love to my name

    โอ้ คุณได้ทั้งหัวใจของเขา หัวใจของผม และไม่ต้องเจ็บปวดอะไร
    คุณถือกระเป๋าเดินทาง ผมแบกรับคำต่อว่า
    ตอนนี้ผมกำลังพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เหลืออยู่
    เพราะคุณทิ้งผมไปโดยที่ไม่เหลือความรักไว้เลย

    I’m still alive but I’m barely breathing
    Just prayed to a God that I don’t believe in
    ‘Cause I got time while she got freedom
    ‘Cause when a heart breaks no it don’t break
    No it don’t break no it don’t break even no

    ผมยังมีชีวิตอยู่ แต่แทบจะไม่มีลมหายใจออกมา
    ผมภาวนากับพระเจ้า ที่ผมไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง
    เพราะผมได้เวลาคืนมาในขณะที่เธอได้อิสระ
    เพราะเมื่อหัวใจมันต้องแตกสลาย มันแตกไม่เท่ากันหรอก
    ไม่มันแตกไม่เท่ากันหรอก มันแตกไม่เท่ากันหรอก

    What am I gonna do when the best part of me was always you?
    And what am I supposed to say when I’m all choked up that you’re ok?
    I’m falling to pieces, yeah
    I’m falling to pieces, yeah
    I’m falling to pieces
    (One still in love while the other one’s leaving)
    I’m falling to pieces
    (‘Cause when a heart breaks no it don’t break even)

    แล้วผมควรจะทำยังไงต่อไป ในเมื่อที่ผ่านมาสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตผมคือคุณ?
    และอะไรที่ผมควรจะพูดออกมา ในเมื่อผมช็อกจนพูดอะไรไม่ได้แต่คุณยังปกติดี?
    ความรู้สึกของผมแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
    ตัวผมเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ
    ความรู้สึกของผมแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
    (คนนึงยังรักในขณะที่อีกคนเดินจากไป)
    ตัวผมเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ
    (เพราะเมื่อหัวใจของคนเรามันแตกสลาย มันไม่มีทางที่จะเสียใจเท่ากัน)

    Oh, it don’t break even, no
    Oh, it don’t break even, no
    Oh, it don’t break even, no

    ไม่มีทางที่มันจะเท่ากัน ไม่
    ไม่มีทางที่มันจะเท่ากัน ไม่
    ไม่มีทางที่มันจะเท่ากัน ไม่


    fall to pieces
    If someone goes/falls to pieces, that person becomes unable to think clearly and control their emotions because of something unpleasant or difficult that they have experienced:
    คนที่ไม่สามารถคิดอะไรได้ชัดเจน ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ เพราะมีสิ่งที่ไม่น่าพอใจหรือเขาเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก
    If a relationship, organization, or system goes/falls to pieces, it fails:
    ถ้าใช้กับความสัมพันธ์ หรือองค์กร หรือระบบ จะหมายถึง สิ่งนั้นๆ ล้มเหลว
    ที่มา: https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/go-fall-to-pieces

    *หากผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ ผู้อ่านสามารถแนะนำติชมได้ที่กล่องแสดงความคิดเห็นข้างล่างค่ะ

  • Armin van Buuren – Sunny Days feat. Josh Cumbee แปลเพลงสากล


    Sunny Days เป็นเพลงของ DJ และโปรดิวเซอร์เพลงอิเล็กทรอนิกส์ชาวดัตช์ Armin van Buuren และได้ร่วมร้องกับนักร้องและนักเขียนเพลงชาวอเมริกัน Josh Cumbee เพลงได้ถูกเปิดตัวในเนเธอร์แลนด์โดยค่ายเพลง Armada Music ในรูปแบบดิจิตอลดาวน์โหลดใน 16 มิถุนายน 2017 เพลงได้ถูกเขียนโดย Armin van Buuren, Benno de Goeij, Afshin Salmani, Josh Cumbee, Toby Gad และ Gordon Groothedde และดำเนินการผลิตโดย Armin van Buuren, AFSHeeN, Josh Cumbee และ Toby Gad วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กัน


    She woke up in the morning
    With the sunrise in her eyes
    But all that she’s seeing is darkness
    She won’t tell you why

    เธอตื่นขึ้นมาในตอนเช้า
    กับดวงอาทิตย์ในดวงตาของเธอ
    แต่สิ่งที่เธอเห็นคือความมืด
    เธอจะไม่บอกคุณว่าทำไม

    No more butterflies ’cause they don’t never last
    Stolen from the light by demons of the past
    It’s always raining
    But she keeps on praying

    ไม่มีผีเสื้ออีกต่อไป เพราะพวกมันไม่อาจอยู่ได้ตลอดไป
    ซึ่งได้ถูกซ่อนไปจากแสง โดยปีศาจในอดีต
    นั่นทำให้ฝนตกอยู่อย่างเสมอ
    แต่เธอก็สวดอ้อนวอนต่อไป

    Oh, sunny days
    Lift me when I’m down
    Oh, sunny days
    Breaking through the clouds
    Oh, sunny days

    โอ้ วันที่มีแสงแดด
    ช่วยยกฉันขึ้นเมื่อฉันตกต่ำ
    โอ้ วันที่มีแสงแดด
    ที่ส่องทะลุผ่านเมฆลงมา
    โอ้ วันที่มีแสงแดด

    Oh, oh, ooh
    She keeps on praying
    Oh, oh, ooh
    She keeps on praying
    Oh, oh, ooh
    She keeps on praying

    โอ้ โอ้ โอ้
    เธอสวดอ้อนวอนต่อไป
    โอ้ โอ้ โอ้
    เธอสวดอ้อนวอนต่อไป
    โอ้ โอ้ โอ้
    เธอสวดอ้อนวอนต่อไป

    All she needs is shelter
    Shelter for the night
    And this one could be heaven
    But she’s looking down the line

    ทั้งหมดที่เธอต้องการคือที่พักพิง
    ที่พักพิงสำหรับตอนกลางคืน
    และที่พักพิงนั้นอาจจะเป็นสวรรค์
    แต่เธอมองไปที่อนาคต

    No more butterflies ’cause they don’t never last
    Stolen from the light by demons of the past
    It’s always raining
    She keeps on praying

    ไม่มีผีเสื้ออีกต่อไป เพราะพวกมันไม่อาจอยู่ได้ตลอดไป
    ซึ่งได้ถูกซ่อนไปจากแสง โดยปีศาจในอดีต
    นั่นทำให้ฝนตกอยู่อย่างเสมอ
    แต่เธอก็สวดอ้อนวอนต่อไป

    Oh, sunny days
    Lift me when I’m down
    Oh, sunny days
    Break you through the clouds
    Oh, sunny days

    โอ้ วันที่มีแสงแดด
    ช่วยยกฉันขึ้นเมื่อฉันตกต่ำ
    โอ้ วันที่มีแสงแดด
    ที่ส่องทะลุผ่านเมฆลงมา
    โอ้ วันที่มีแสงแดด

    Oh, oh, ooh
    She keeps on praying
    Oh, oh, ooh
    She keeps on praying
    Oh, oh, ooh
    She keeps on praying

    โอ้ โอ้ โอ้
    เธอสวดอ้อนวอนต่อไป
    โอ้ โอ้ โอ้
    เธอสวดอ้อนวอนต่อไป
    โอ้ โอ้ โอ้
    เธอสวดอ้อนวอนต่อไป

    Sunny days
    Lift me when I’m down
    Oh, sunny days

    วันที่มีแสงแดด
    ช่วยยกฉันขึ้นเมื่อฉันตกต่ำ
    โอ้ วันที่มีแสงแดด


    Down the line:
    In the future.
    ในอนาคต
    ที่มา: https://idioms.thefreedictionary.com/down+the+line

  • Muse – Knights Of Cydonia แปลเพลงสากล


    Knights Of Cydonia เป็นเพลงของวงดนตรีร็อคของอังกฤษ Muse เพลงได้เปิดตัวใน 13 มิถุนายน 2006 เป็นซิงเกิลสุดท้ายของอัลบั้มสตูดิโอที่สี่ของพวกเขา Black Holes and Revelations (2006) สำหรับชื่อของเพลงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนบนดาวอังคารที่มีชื่อว่า Cydonia เพลงได้ถูกเขียนโดยนักร้องนำของทีม Matthew Bellamy ในขณะที่การดำเนินการผลิตควบคุมโดย Rich Costey และ Muse ในเนื้อเพลงนั้นพูดถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิ เสรีภาพและความอยู่รอด สำหรับในเพลงนั้นเป็นต่อสู้เพื่อขับไล่ผู้นำที่ไม่ดีของเมืองออกไป นั่นหมายถึงคุณต้องสู้เพื่อสิทธิของคุณถ้าคุณสามารทำได้ วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Come ride with me
    Through the veins of history
    I’ll show you a God
    Falls asleep on the job

    มานั่งไปกับฉัน
    ผ่านสายเลือดของประวัติศาสตร์
    ฉันจะแสดงให้คุณเห็นพระเจ้า (ผู้นำของเมือง)
    ที่เผลอหลับในการทำงาน (ที่ไม่ทำตามหน้าที่)

    And how can we win,
    When fools can be kings
    Don’t waste your time
    Or time will waste you

    และเราจะสามารถเอาชนะได้อย่างไร
    เมื่อคนโง่สามารถเป็นพระราชาได้
    อย่าเสียเวลาของคุณ
    หรือจะให้เวลาทำลายคุณ

    No one’s going to take me alive
    Time has come to make things right
    You and I must fight for our rights
    You and I must fight to survive

    ไม่มีใครที่จะทำให้ฉันมีชีวิต
    เวลาได้ทำให้สิ่งต่างๆ ถูกต้อง
    คุณและฉันต้องต่อสู้เพื่อสิทธิของเรา
    คุณและฉันต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด

    No one’s going to take me alive
    Time has come to make things right
    You and I must fight for our rights
    You and I must fight to survive

    ไม่มีใครที่จะทำให้ฉันมีชีวิต
    เวลาได้ทำให้สิ่งต่างๆ ถูกต้อง
    คุณและฉันต้องต่อสู้เพื่อสิทธิของเรา
    คุณและฉันต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด

    No one’s going to take me alive
    Time has come to make things right
    You and I must fight for our rights
    You and I must fight to survive

    ไม่มีใครที่จะทำให้ฉันมีชีวิต
    เวลาได้ทำให้สิ่งต่างๆ ถูกต้อง
    คุณและฉันต้องต่อสู้เพื่อสิทธิของเรา
    คุณและฉันต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด

  • Coldplay- Everglow แปลเพลงสากล


    Everglow เป็นเพลงวงดนตรีร็อคอังกฤษ Coldplay เพลงได้เปิดตัวโดยค่ายเพลง Parlophone Records ใน 11 พฤศจิกายน 2016 เป็นซิงเกิ้ลที่สี่จากอัลบั้มสตูดิโอที่เจ็ดของพวกเขา A Head Full of Dreams (2016) เพลงได้ถูกเขียนโดย Guy Berryman, Jonny Buckland, Will Champion และ Chris Martin ในขณะที่ควบคุมการผลิตโดย Rik Simpson และ Stargate ในเนื้อเพลงนั้น Martin พูดเกี่ยวกับว่าเขาได้ถูกคนรักของเขาทิ้งไป และในช่วงที่เธอยังอยู่กับเขา เธอได้มอบความสุขและความทรงจำดีๆ ไว้มากมายที่จะทำให้เขาคิดถึงเธอตลอดไป วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Oh, they say people come, say people go
    This particular diamond was extra special
    And though you might be gone, and the world may not know
    Still I see you, celestial

    โอ้ พวกเขาบอกว่า ผู้คนต่างเข้ามาในชีวิตของเราและได้จากไป (เปรียบกับคนรักของเขาที่จากไป)
    เพชรพิเศษเม็ดนี้มันช่างวิเศษมากสำหรับฉัน (คนรักของเขา)
    และแม้ว่าคุณอาจจะทิ้งฉันไป และโลกนี้ก็ไม่อาจจะรู้ได้หรอก
    แต่ฉันยังคงเห็นคุณอยู่บนท้องฟ้า

    Like a lion you ran, a goddess you rolled
    Like an eagle you circled, in perfect purple
    So how come things move on? How come cars don’t slow?
    When it feels like the end of my world
    When I should, but I can’t let you go

    เหมือนสิงโตที่คุณทำให้มันวิ่ง เหมือนเทพธิดาที่คุณเป็น
    เหมือนกับนกอินทรีที่คุณวงกลมล้อมเอาไว้ ในวงสีม่วงที่สมบูรณ์แบบ
    นั่นเป็นวิธีที่สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไป? นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมรถไม่เคยวิ่งช้า?
    เมื่อมันรู้สึกเหมือนนี่เป็นจุดจบของโลกของฉัน
    เมื่อฉันควรจะปล่อยคุณไป แต่ฉันไม่สามารถทำแบบนั้นได้

    But when I’m cold, cold
    When I’m cold, cold
    There’s a light that you give me when I’m in shadow
    There’s a feeling you give me, everglow

    แต่เมื่อฉันอยู่ในความหนาวเย็น
    เมื่อฉันอยู่ในความหนาวเย็น
    คุณได้มอบแสงสว่างให้กับฉัน เมื่อฉันอยู่ในเงามืด
    คุณได้มอบความรู้สึกนั้นให้ฉัน ความสุขจากรักของคุณ

    Like brothers in blood, sisters who ride
    And we swore on that night, we’d be friends ’til we die
    But the changing of winds, and the way waters flow
    Life is short as the falling of snow
    And now, I’m gonna miss you, I know

    เราเหมือนพี่ชายในสายเลือด และน้องสาวที่ขี่คอกัน
    และเราได้สาบานในคืนนั้น ว่าเราจะเป็นเพื่อนกันจนวันตาย
    แต่เหมือนลมที่สามารถเปลี่ยนทิศได้ และทางไหลของสายน้ำ
    ชีวิตนั้นสั้นมากเหมือนกับการตกของหิมะ
    และตอนนี้ ฉันรู้ว่าฉันจะต้องคิดถึงคุณ

    But when I’m cold, cold
    In water rolled, salt
    And I know that you’re with me and the way you will show
    And you’re with me wherever I go
    And you give me this feeling, this everglow

    แต่เมื่อฉันอยู่ในความหนาวเย็น
    ในน้ำที่ได้เปลี่ยนเป็นน้ำเค็ม
    และฉันรู้ว่าคุณอยู่กับฉัน และนั่นคุณจะทำให้ฉันเห็น
    และคุณจะไปกับฉันทุกที่ที่ฉันไป
    และคุณได้มอบความรู้สึกนี้ให้ฉัน ความสุขจากรักของคุณ

    Oh, what I wouldn’t give for just a moment to hold
    Yeah, I live for this feeling, this everglow

    โอ้ นั่นเป็นสิ่งที่ฉันจะไม่อยู่กับมันเพียงครู่เดียว
    ใช่แล้ว ฉันมีชีวิตอยู่สำหรับความรู้สึกนี้ ความสุขที่คุณมอบให้

    So if you love someone, you should let them know
    Oh, the light that you left me will everglow

    ดังนั้นถ้าคุณรักใครสักคน คุณควรจะบอกให้พวกเขาทราบ
    โอ้ แสงที่คุณทิ้งไว้ให้ฉันมันจะส่องสว่างขึ้น

  • Passenger – Young As The Morning, Old As The Sea แปลเพลงสากล


    Young as the Morning Old as the Sea เป็นเพลงของนักร้องและนักเขียนเพลงชาวอังกฤษ Passenger เพลงได้เปิดตัวใน 23 กันยายน 2016 เป็นซิงเกิลนำจากอัลบั้มที่เจ็ดของเขา Young as the Morning Old as the Sea (2016) เพลงได้ถูกเขียนโดย Passenger ในขณะที่ควบคุมการผลิตร่วมกับ Chris Vallejo ในเนื้อเพลงนั้นเป็นการพูดถึงความต้องการที่เขาอยากจะไปสถานที่ต่างๆ ได้อย่างอิสระเหมือนกับสายลมที่พัดและสามารถไปได้ทุกที่ วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    I wanna lay by a lake in Norway, I
    I wanna walk through Swedish fields of green
    I wanna see the forests of Finland, I
    I wanna sail on a boat on the Baltic sea

    ฉันอยากจะนอนอยู่ข้างริมทะเลสาบที่นอร์เวย์
    ฉันอยากจะเดินผ่านทุ่งสีเขียวที่สวีเดน
    ฉันอยากจะไปดูป่าที่ฟินแลนด์
    ฉันอยากจะไปล่องเรือในทะเลบอลติก

    I wanna feel the Russian winter, I
    I wanna go to my Polish grandmother’s home
    I wanna see Hungarian lanterns, I
    I wanna walk on the road that leads to Rome

    ฉันอยากจะสัมผัสถึงฤดูหนาวในรัสเซีย
    ฉันอยากไปจะที่บ้านของคุณย่าชาวโปแลนด์ของฉัน
    ฉันอยากเห็นโคมไฟของชาวฮังการี
    ฉันอยากจะไปเดินในถนนที่มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงโรม

    I wanna be free as the winds that blow past me
    Clear as the air that I breath
    To be young as the morning
    And old as the sea

    ฉันอยากจะเป็นอิสระเหมือนกับสายลมที่พัดผ่านฉัน
    บริสุทธิ์เหมือนอากาศที่ฉันหายใจ
    เพื่อที่จะอ่อนวัยเหมือนตอนเช้า
    และเก่าแก่เหมือนท้องทะเล

    I wanna lose myself in the Scottish highlands, the
    West coast of Ireland, the
    Cornish breeze

    ฉันอยากจะใช้เวลากับตัวเองในที่ราบสูงในสก็อตแลนด์
    ไปยังชายฝั่งตะวันตกของไอร์แลนด์
    สัมผัสสายลมในคอร์นิช

    I wanna rest my bones in the Spanish sunshine, the
    Italian coastline is calling me
    To be free as the birds that fly past me
    Light as the fish in the sea
    To be wise as the mountains
    And tall as the trees

    ฉันอยากจะนอนอาบแสงแดดในสเปน
    ชายฝั่งของอิตาลีกำลังโทรหาฉัน
    อยากจะเป็นอิสระเหมือนกับนกที่บินผ่านฉันไป
    ส่องแสงเหมือนปลาในทะเล
    มีความฉลาดเหมือนภูเขา
    และสูงเหมือนต้นไม้

    And I wanna be sunny and bright as a sunrise
    Happy and full as the moon
    I’m fleeting like fireworks fading too soon

    และฉันอยากจะส่องแสงสว่างเหมือนดวงอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า
    มีความสุขและเต็มเปี่ยมเหมือนกับดวงจันทร์
    ฉันหายวับไปเหมือนดอกไม้ไฟที่เกิดขึ้นเพียงแปปเดียว

  • John Legend & WENDY – Written In The Stars แปลเพลงสากล


    เพลง Written In The Stars เป็นเพลงที่อยู่ในโปรเจค ‘STATION X 0’ ที่ได้ WINDY จากวง Red Velvet และเจ้าพ่อเพลง R&B อย่าง John Legend มาร่วมร้อง เป็นเพลงที่เรียกได้ว่าโรแมนติกมาตั้งแต่เสียงกีตาร์ เสียงคนร้อง และเนื้อเพลงที่ละมุน… ลงตัวมากจริงๆ ค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาแปลเพลงเพราะๆ เพลงนี้กัน


    Seems like we’ve been here before
    Your eyes are seeing straight right through my core
    It’s kinda strange, but I like it
    Ain’t no reason tryna’ fight it, yeah

    ดูเหมือนว่าเราเคยเจอกันที่นี่ มาก่อน
    สายตาที่คุณมองมาที่ฉัน
    มันดูแปลก แต่ฉันกลับชอบมัน
    ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องสู้กับมันใช่ไหมล่ะ?

    Might be Déjà vu
    First time we met, but I remembered you
    We were creepin’ in the night time
    Maybe in another lifetime

    บางทีมันอาจจะเป็นอาการ เดจาวู
    ครั้งแรกที่เราพบกัน แต่ฉันจำคุณได้
    เรากำลังหลงทางในตอนกลางคืน
    บางทีมันอาจจะเกิดขึ้นในชาติที่แล้ว

    Don’t tell me you don’t feel what I feel right now
    Whoo, it’s written all over you
    Don’t tell me you don’t feel what I feel somehow
    Oooh, I keep findin’ my way back to you

    อย่าบอกฉันว่าคุณไม่รู้สึก เหมือนอย่างที่รู้สึกในตอนนี้
    มันถูกสลักไว้ทั่วตัวคุณ
    อย่าบอกฉันว่าคุณไม่รู้สึก ว่าฉันรู้สึกยังไง
    ฉันยังคงค้นหาวิธีที่ฉันจะได้กลับไปหาคุณ

    You can go anywhere babe wherever you want
    Because I know we’re written in the stars
    You can go any which way don’t matter how far
    Because I know we’re written in the stars

    คุณสามารถไปที่ไหนก็ได้ที่รัก ที่ที่คุณต้องการไป
    เพราะว่าฉันรู้ว่า เราทั้งสองได้ถูกจารึกไว้บนดวงดาวให้รักกัน
    คุณสามารถไปไหนก็ได้ มันไม่สำคัญหรอกว่าจะไกลแค่ไหน
    เพราะคุณรู้ว่า เราทั้งสองได้ถูกจารึกไว้บนดวงดาวให้คู่กัน

    Da dada dada da dada Dah dada dada da da
    No question that we’re written in the stars
    Ooooh
    Ooooh, yeah

    Da dada dada da dada Dah dada dada da da
    ไม่มีคำถามใดๆ เพราะเราถูกจารึกไว้บนดวงดาวให้ครองรักกัน
    Ooooh
    Ooooh, yeah

    The moment… you looked at me
    I started losing feeling in my cheeks
    Felt myself moving towards ya’
    I just wanted to get closer, oh!

    จังหวะที่คุณ มองมาที่ผม
    ผมเริ่มสูญเสียความรู้สึกที่แก้มของผม (หน้าหนาขึ้นมาทันที 55)
    รู้สึกได้ว่า ผมเองตรงเข้าไปหาคุณ
    ผมแค่อยากอยู่ใกล้คุณมากกว่านี้

    When you say hello
    I know there is no limit where we’ll go
    I want you to be ready
    I’ll hold your heart if you’ll let me, oh!

    เมื่อคุณพูดคำว่าสวัสดี
    ผมรู้เลยว่า เราสามารถไปด้วยกันได้ทุกที่ ไม่มีจำกัด
    ผมอยากให้คุณพร้อม
    ผมจะโอบกอดหัวใจของคุณไว้เอง ถ้าคุณอนุญาต

    Don’t tell me you don’t feel what I feel right now
    Whoo, it’s written all over you
    Don’t tell me you don’t feel what I feel somehow
    Oooh, I keep findin’ my way back to you

    อย่าบอกฉันว่าคุณไม่รู้สึก เหมือนอย่างที่รู้สึกในตอนนี้
    มันถูกสลักไว้ทั่วตัวคุณ
    อย่าบอกฉันว่าคุณไม่รู้สึก ว่าฉันรู้สึกยังไง
    ฉันยังคงค้นหาวิธีที่ฉันจะได้กลับไปหาคุณ

    You can go anywhere babe wherever you want (Oh I want)
    Because I know we’re written in the stars
    You can go any which way don’t matter how far
    Because I know we’re written in the stars (Uh Ey!)

    คุณสามารถไปที่ไหนก็ได้ที่รัก ที่ที่คุณต้องการไป (ที่ผมต้องการ)
    เพราะว่าฉันรู้ว่า เราทั้งสองได้ถูกจารึกไว้บนดวงดาวให้เป็นคู่กัน
    คุณสามารถไปไหนก็ได้ มันไม่สำคัญหรอกว่าจะไกลแค่ไหน
    เพราะคุณรู้ว่า เราทั้งสองได้ถูกจารึกไว้บนดวงดาวให้รักกัน

    Da dada dada da dada Dah dada dada da da (Oh)
    No question that we’re written in the stars (Oh ever)

    Da dada dada da dada Dah dada dada da da (Oh)
    ไม่มีคำถามใดๆ เพราะเราถูกจารึกไว้บนดวงดาวให้ครองรักกัน

    And I promise every day (I promise every day)
    To make you feel this way (To make you feel this way)
    So that you know it’s written in the stars

    และฉันสัญญาว่าในๆ ทุกวัน
    ฉันจะทำให้คุณรู้สึกดีแบบนี้
    อย่างที่คุณรู้ เราถูกจารึกไว้บนดวงดาวให้เป็นคู่กัน

    Oh whoa whoa wuh (Dalada dala dala)
    Oh whoa wah wuh wuh (Lalala dala dala)
    Oh whoa whoa wuh (Nowhere)
    Oh whoa wah wuh wuh (Written in the stars)

    Oh whoa whoa wuh (Dalada dala dala)
    Oh whoa wah wuh wuh (Lalala dala dala)
    Oh whoa whoa wuh (ไม่มีที่ไหน)
    Oh whoa wah wuh wuh (จารึกไว้บนดวงดาวให้รักกัน)

    Oh whoa whoa wuh
    Oh whoa wah wuh wuh
    Oh whoa whoa wuh
    Oh whoa wah wuh wuh (Oh, We’re written in the stars)

    Oh whoa whoa wuh
    Oh whoa wah wuh wuh
    Oh whoa whoa wuh
    Oh whoa wah wuh wuh (Oh, เราถูกจารึกไว้บนดวงดาวให้เป็นคู่กัน)


    *หากผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ ผู้อ่านสามารถแนะนำติชมได้ที่กล่องแสดงความคิดเห็นข้างล่างค่ะ 🙂

  • Florida Georgia Line – H.O.L.Y. แปลเพลงสากล


    H.O.L.Y. หรืออ่านออกเสียงเป็น “High on Loving You” เป็นเพลงของคู่หูนักร้องและนักเขียนเพลงคันทรีชาวอเมริกัน Florida Georgia Line เพลงได้เปิดตัวโดยค่ายเพลง BMLG Records ใน 26 สิงหาคม 2016 เป็นซิงเกิลนำจากอัลบั้มสตูดิโอที่สามของพวกเขา Dig Your Roots (2016) เพลงได้ถูกเขียนโดย busbee, Nate Cyphert และ William Wiik Larsen ในขณะที่การดำเนินการผลิตควบคุมโดย Joey Moi ในเนื้อเพลงเป็นการพูดยกย่องคนรักของเขา ที่เธอได้เข้ามาในชีวิตของเขาและทำให้ทุกอย่างดีขึ้น และเขาได้หลงไหลในตัวเธอมาก วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    When the sun had left and the winter came
    And the sky fall to only bring the rain
    I sat in darkness
    All broken-hearted
    I couldn’t find a day I didn’t feel alone
    I never meant to cry, started losin’ hope
    But somehow, baby
    You broke through and saved me

    เมื่อดวงอาทิตย์ได้ลับฟ้าไป ความหนาวเย็นก็ได้เข้ามา
    และท้องฟ้ามืดครึ้มได้นำฝนมา
    ฉันนั่งอยู่ในความมืด
    กับหัวใจทั้งหมดที่แตกสลาย
    ไม่เคยมีวันไหนเลย ที่ฉันจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
    ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะร้องให้ และไร้ความหวัง
    แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ที่รัก
    คุณได้เข้ามาและได้ช่วยฉันเอาไว้

    You’re an angel, tell me you’re never leavin’
    ‘Cause you’re the first thing I know I can believe in

    คุณเป็นนางฟ้าของฉัน บอกฉันมาสิว่าคุณจะไม่ทิ้งฉันไปไหน
    เพราะคุณเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ฉันรู้ว่า ฉันสามารถมอบความเชื่อใจให้ได้

    You’re holy, holy
    Holy, holy
    I’m high on lovin’ you
    High on lovin’ you
    You’re holy, holy
    Holy, holy
    I’m high on lovin’ you
    High on lovin’ you

    คุณเป็นความศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
    ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
    ฉันหลงไหลกับการรักคุณมาก
    หลงไหลกับการรักคุณมาก
    คุณเป็นความศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
    ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
    ฉันหลงไหลกับการรักคุณมาก
    หลงไหลกับการรักคุณมาก

    You made the brightest days from the darkest nights
    You’re the river bank where I was baptized
    Cleansed from the demons
    That were killin’ my freedom
    Let me lay you down, give me to ya
    Get you singin’, babe, hallelujah
    We’ll be touchin’
    We’ll be touchin’ heaven

    คุณเปลี่ยนวันที่มืดมิดที่สุดของฉัน ให้เป็นวันที่สดใสที่สุด
    คุณเป็นเหมือนริมฝั่งแม่น้ำที่ฉันได้ลงไปล้างบาป
    ล้างเอาความชั่วร้ายออกไป
    ที่มันได้ทำลายความเป็นอิสระของฉัน
    ให้ฉันวางคุณลง และให้ฉันอยู่กับคุณ
    ฉันจะพาคุณร้องเพลง ที่รัก เพลงสรรเสริญพระเจ้าของเรา
    เราจะไปสัมผัส
    เราจะไปสัมผัสกับสวรรค์

    You’re an angel, tell me you’re never leavin’
    ‘Cause you’re the first thing I know I can believe in

    คุณเป็นนางฟ้าของฉัน บอกฉันมาสิว่าคุณจะไม่ทิ้งฉันไปไหน
    เพราะคุณเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ฉันรู้ว่า ฉันสามารถมอบความเชื่อใจให้ได้

    You’re holy, holy
    Holy, holy
    I’m high on lovin’ you
    High on lovin’ you
    You’re holy, holy
    Holy, holy
    I’m high on lovin’ you
    High on lovin’ you

    คุณเป็นความศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
    ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
    ฉันหลงไหลกับการรักคุณมาก
    หลงไหลกับการรักคุณมาก
    คุณเป็นความศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
    ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
    ฉันหลงไหลกับการรักคุณมาก
    หลงไหลกับการรักคุณมาก

    I don’t need the stars ’cause you shine for me
    Like fire in my veins, you’re my ecstasy
    You’re my ecstasy

    ฉันไม่ต้องการดวงดาว เพราะคุณส่องแสงให้ฉันอยู่แล้ว
    เหมือนความเร่าร้อนที่ไหลในสายเลือดของฉัน คุณเป็นความปีติของฉัน
    คุณเป็นความปีติของฉัน

    You’re holy, holy
    Holy, holy
    I’m high on lovin’ you
    High on lovin’ you
    You’re holy, holy
    Holy, holy
    I’m high on lovin’ you
    High on lovin’ you

    คุณเป็นความศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
    ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
    ฉันหลงไหลกับการรักคุณมาก
    หลงไหลกับการรักคุณมาก
    คุณเป็นความศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
    ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
    ฉันหลงไหลกับการรักคุณมาก
    หลงไหลกับการรักคุณมาก

    You’re the healin’ hands where it used to hurt
    You’re my savin’ grace, you’re my kind of church
    You’re holy

    คุณเป็นมือของการรักษา ที่ฉันใช้รักษาเมื่อฉันเจ็บปวด
    คุณคือพระคุณที่ช่วยชีวิตของฉัน คุณเป็นคริสตจักรของฉัน
    คุณเป็นความศักดิ์สิทธิ์

  • Marshmello – Find Me แปลเพลงสากล


    Find Me เป็นเพลงของ DJ และโปรดิวเซอร์เพลงชาวอเมริกัน Marshmello เพลงได้ถูกเปิดตัวโดยค่ายเพลง Joytime Collective ใน 12 มีนาคม 2015 เป็นซิงเกิลที่สามจากอัลบั้ม Joytime (2016) เพลงได้ถูกเขียนและดำเนินการผลิตโดย Marshmello สำหรับเนื้อเพลงนั้นเป็นการพูดถึงความรู้สึกดีของพวกเขา ที่ได้มาร่วมงานปาร์ตี้กับเพื่อนๆ และมีเสียงเพลงที่พวกเขาชอบและเต้นไปด้วยกัน ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดจะเล่าอยู่ใน Music video ของเพลง วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กัน


    This feels good right here

    รู้สึกดีที่นี่

    This feels good right here

    รู้สึกดีที่นี่

  • Passenger – Everything แปลเพลงสากล


    Everything เป็นเพลงของนักร้องและนักเขียนเพลงชาวอังกฤษ Passenger เพลงได้เปิดตัวใน 20 ธันวาคม 2015 เป็นซิงเกิลนำจากอัลบั้มที่เจ็ดของเขา Young as the Morning Old as the Sea (2016) เพลงได้ถูกเขียนโดย Passenger เพลงถูกเขียนโดย Passenger ในขณะที่ควบคุมการผลิตร่วมกับ Chris Vallejo ในเนื้อเพลงนั้นเป็นการพูดถึงการมีและการไม่มีในทุกอย่าง นั่นคือถ้าคุณได้บางอย่างมา คุณอาจจะต้องเสียอีกอย่างไป ไม่มีอะไรที่จะได้มาฟรีและอย่างง่ายดาย สำหรับวันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    When you got nothing
    Freewheeling and free falling you go
    When you got nothing you’ve got something to prove
    Then you get something
    Something that you’ve always dreamed about
    When you got something you’ve got something to lose

    เมื่อคุณไม่มีอะไร
    คุณสามารถไปทุกที่ได้อย่างอิสระ
    เมื่อคุณไม่มีอะไร นั่นคือคุณมีบางสิ่งที่ต้องพิสูจน์
    แล้วคุณจะได้รับบางสิ่งบางอย่าง
    บางอย่างที่คุณได้ฝันถึงมันตลอดมา
    เมื่อคุณได้รับบางอย่าง คุณก็มีบางสิ่งบางอย่างที่ต้องสูญเสีย

    They take everything
    They take your spark
    They take everything
    They break your heart
    They’ll take everything
    Oh ’cause nothing’s ever something
    Until you lose everything

    พวกเขาเอาทุกสิ่งทุกอย่างจากคุณไป
    พวกเขาเอาแสงไฟจากคุณไป
    พวกเขาเอาทุกสิ่งทุกอย่างจากคุณไป
    พวกเขาทำลายหัวใจของคุณ
    พวกเขาจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างจากคุณไป
    โอ้ เพราะว่าไม่มีอะไรที่ได้มาเฉยๆ
    จนกว่าคุณจะสูญเสียทุกอย่างไป

    Before you got everything
    You’re flying high, you don’t wanna come down
    But something stirs down in your soul
    If everything is nothing
    ‘Til you got someone to share it with
    Somebody to have somebody to hold

    ก่อนที่คุณจะมีทุกอย่าง
    คุณกำลังบินอยู่สูง และคุณไม่ต้องการที่จะลงมา
    แต่มีบางสิ่งบางอย่างในใจของคุณกำลังดึงคุณลง
    ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างก็คือการไม่มีอะไร
    จนกว่าคุณจะพบใครบางคนที่จะแบ่งปันมัน
    ใครบางคนที่จะอยู่กับคุณ ใครบางคนที่จะกอดคุณ

    Give ’em everything
    Give ’em light and dark
    Give ’em everything
    Give ’em all your heart
    Give ’em everything
    Yeah ’cause nothing’s ever something
    Until you give everything

    มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับพวกเขา
    มอบแสงสว่างและความมืดให้กับพวกเขา
    มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับพวกเขา
    มอบหัวใจของคุณทั้งหมดให้พวกเขา
    มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับพวกเขา
    ใช่แล้ว เพราะว่าไม่มีอะไรที่ได้มาเฉยๆ
    จนกว่าคุณจะสูญเสียทุกอย่างไป

    ‘Cause nothing’s lost forever
    Yeah when some things never change
    Oh and anything is better
    When you’ve got love
    You’ve got everything
    You’ve got everything
    Oh oh, everything
    Oh oh, everything
    Oh oh, everything
    Yeah, ’cause nothing’s ever something
    Until you give everything

    เพราะไม่มีอะไรที่จะพ่านแพ้ตลอดไป
    ใช่แล้ว เมื่อบางสิ่งไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย
    โอ้ และทุกๆ อย่างจะดีขึ้น
    เมื่อคุณมีความรัก
    คุณก็มีทุกสิ่งทุกอย่าง
    คุณก็มีทุกสิ่งทุกอย่าง
    โอ้ ทุกสิ่งทุกอย่าง
    โอ้ ทุกสิ่งทุกอย่าง
    โอ้ ทุกสิ่งทุกอย่าง
    ใช่แล้ว เพราะว่าไม่มีอะไรที่ได้มาเฉยๆ
    จนกว่าคุณจะสูญเสียทุกอย่างไป

  • Kane Brown – What Ifs ft. Lauren Alaina แปลเพลงสากล


    What Ifs เป็นเพลงของนักร้องคันทรี่ชาวอเมริกัน Kane Brown และได้ร่วมร้องกับนักร้องและนักเขียนเพลงหญิงชาวอเมริกัน Lauren Alaina จากการเปิดตัวอัลบั้มแรกของเขาในชื่อว่า Kane Brown (2016) เพลงได้เปิดตัวเป็นซิงเกิลที่สองจากอัลบั้มในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2017 และเขียนโดย Kane Brown, Matt McGinn และ Jordan Schmidt โดยในเนื้อเพลงนั้นจะเป็นการใช้คำว่า “What If” ซึ่งเป็นการถามคำถามในความสัมพันธ์ของพวกเขา วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    You say what if I hurt you, what if I leave you
    What if I find somebody else and I don’t need you?
    What if this goes south, what if I mess you up?
    You say what if I break your heart in two, then what?

    คุณบอกว่าจะเป็นยังไงถ้าฉันทำร้ายคุณ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันทิ้งคุณไป
    จะเป็นยังไงถ้าฉันมีคนอื่น และไม่ต้องการคุณอีกต่อไป
    จะเป็นยังไงถ้าทุกอย่างแย่ลง และถ้าฉันสร้างความวุ่นวายให้คุณ
    คุณบอกว่าจะเป็นยังไง ถ้าฉันทำให้หัวใจของคุณแตกเป็นสองเสี่ยง แล้วไงต่อ

    Well I hear you girl, I feel you girl, but not so fast
    Before you make your mind up, I gotta ask

    ฉันได้ยินคุณสาวน้อย ฉันเข้าใจคุณสาวน้อย แต่ไม่ได้เร็วขนาดนั้น
    ก่อนที่คุณจะคิดได้ว่าต้องทำยังไง ฉันจะถามว่า

    What if I was made for you and you were made for me?
    What if this is it, what if it’s meant to be?
    What if I ain’t one of them fools just playin’ some game?
    What if I just pull you close, what if I lean in?
    And the stars line up, and it’s our last first kiss
    What if one of these days, baby, I go and change your name?
    What if I loved all these what ifs away?

    จะเป็นยังไงถ้าฉันถูกสร้างมาเพื่อคุณ และคุณถูกสร้างมาเพื่อฉัน
    จะเป็นยังไงถ้ามันเป็นเช่นนี้ จะเป็นยังไงถ้าทุกอย่างมันจะต้องเกิด
    จะเป็นยังไงถ้าฉันไม่ใช่คนโง่ หนึ่งในพวกเขาที่กำลังลังเล่นเกมส์อยู่
    จะเป็นยังไงถ้าฉันดึงคุณเข้ามาหาฉัน และฉันนอนพิงไปที่ตัวคุณ
    กับดวงดาวที่พาดผ่านท้องฟ้า และเป็นมันการจูบครั้งแรกและสุดท้ายของเรา
    จะเป็นยังไงถ้าในวันเหล่านั้น ที่รัก ฉันไปและเปลี่ยนชื่อของคุณ
    จะเป็นยังไงถ้าฉันรักทั้งหมดที่พูดมานี้ และถ้ามันหายไปละ

    What if the sky falls (sky falls)
    Or the sun stops burnin’?
    We could worry about them what ifs ’til the world stops turnin’?
    Or I could kiss you (you should kiss me)
    What if you liked it? (bet I’d like it)
    Well we ain’t never gonna know unless we try it

    จะเป็นยังไงถ้าหากท้องฟ้าได้หล่นลงมา
    หรือดวงอาทิตย์ดับลงไป
    เราจะมากังวลกับมันไหม หรือว่าจะให้โลกต้องหยุดหมุนก่อน
    หรือถ้าฉันสามารถจูบคุณ (คุณก็ควรจะจูบฉัน)
    แล่วถ้าคุณชอบมันละ (เดาว่าฉันก็ชอบเหมือนกัน)
    ใช่แล้ว เราคงไม่รู้หรอกจนกว่าเราจะได้ลอง

    What if I was made for you and you were made for me?
    What if this is it, what if it’s meant to be?
    What if I ain’t one of them fools just playin’ some game?
    What if I just pull you close, what if I lean in?
    And the stars line up, and it’s our last first kiss
    What if one of these days baby, I go and change your name?
    What if I loved all these what ifs away?
    Awe yeah
    C’mon

    จะเป็นยังไงถ้าฉันถูกสร้างมาเพื่อคุณ และคุณถูกสร้างมาเพื่อฉัน
    จะเป็นยังไงถ้ามันเป็นเช่นนี้ จะเป็นยังไงถ้าทุกอย่างมันจะต้องเกิด
    จะเป็นยังไงถ้าฉันไม่ใช่คนโง่ หนึ่งในพวกเขาที่กำลังลังเล่นเกมส์อยู่
    จะเป็นยังไงถ้าฉันดึงคุณเข้ามาหาฉัน และฉันนอนพิงไปที่ตัวคุณ
    กับดวงดาวที่พาดผ่านท้องฟ้า และเป็นมันการจูบครั้งแรกและสุดท้ายของเรา
    จะเป็นยังไงถ้าในวันเหล่านั้น ที่รัก ฉันไปและเปลี่ยนชื่อของคุณ
    จะเป็นยังไงถ้าฉันรักทั้งหมดที่พูดมานี้ และถ้ามันหายไปละ
    เอ้ ใช่แล้ว
    มาเถอะ

    You say what if I hurt you, what if I leave you?
    What if I find somebody else and I don’t need you?
    Damn

    คุณบอกว่าจะเป็นยังไงถ้าฉันทำร้ายคุณ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันทิ้งคุณไป
    จะเป็นยังไงถ้าฉันมีคนอื่น และไม่ต้องการคุณอีกต่อไป
    ให้ตายสิ

    What if I was made for you and you were made for me?
    What if this is it, what if it’s meant to be?
    What if I ain’t one of them fools just playin’ some game?
    What if I just pull you close, what if I lean in?
    And the stars line up, and it’s our last first kiss
    What if one of these days baby, I go and change your name?
    What if I loved all these what ifs away?

    จะเป็นยังไงถ้าฉันถูกสร้างมาเพื่อคุณ และคุณถูกสร้างมาเพื่อฉัน
    จะเป็นยังไงถ้ามันเป็นเช่นนี้ จะเป็นยังไงถ้าทุกอย่างมันจะต้องเกิด
    จะเป็นยังไงถ้าฉันไม่ใช่คนโง่ หนึ่งในพวกเขาที่กำลังลังเล่นเกมส์อยู่
    จะเป็นยังไงถ้าฉันดึงคุณเข้ามาหาฉัน และฉันนอนพิงไปที่ตัวคุณ
    กับดวงดาวที่พาดผ่านท้องฟ้า และเป็นมันการจูบครั้งแรกและสุดท้ายของเรา
    จะเป็นยังไงถ้าในวันเหล่านั้น ที่รัก ฉันไปและเปลี่ยนชื่อของคุณ
    จะเป็นยังไงถ้าฉันรักทั้งหมดที่พูดมานี้ และถ้ามันหายไปละ

    Away (away)
    What if?

    หายไป
    จะเป็นยังไง