Author: metin30x

  • แปลเพลง Don’t Call Me – Nevada, Loote


    Don’t Call Me เป็นเพลงของนักร้องและนักเขียนเพลงชาวอเมริกัน Nevada และคู่หูเพลงป๊อปชาวอเมริกัน Loote เพลงได้เปิดตัวใน 31 สิงหาคม 2018 เปินซิงเกิลที่สองจากอัลบั้มรีมิกซ์ของเขา The Mack (2016) เพลงได้ถูกเขียนโดย Mokita, CAPPA, Kristin Carpenter และ Nevada ในขณะที่การดำเนินการผลิตนั้นควบคุมโดย Daniel Stephenson และ Nevada ในเนื้อเพลงนั้นพูดเกี่ยวกับความรักของเขา โดยที่คนรักของเขาทำเหมือนกับว่าไม่ได้รักเขาแล้วแต่ยังโทรหาเขาเหมือนกับต้องการอะไรบางอย่างจากเขา วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กัน


    You never seemed to stay close to me
    You love making me watch you leave
    You always got one foot out the door
    And I don’t wanna, I don’t wanna do this no more

    ดูเหมือนว่าคุณไม่เคยอยู่ใกล้ฉันเลย
    คุณชอบที่จะทำให้ฉันมองดูคุณเดินจากไป
    คุณมักจะก้าวขาข้างหนึ่งออกไปนอกประตูเสมอ
    และฉันไม่อยาก ฉันไม่อยากทำแบบนี้อีกต่อไป

    You keep calling back, what you tryna prove?
    So keep calling back, you got nothing to lose
    You don’t know me at all, you don’t need me at all

    คุณพยายามโทรกลับ คุณกำลังจะพิสูจน์อะไรกันแน่
    คุณจึงได้พยายามโทรกลับ เพราะคุณไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
    คุณไม่ได้รู้จักฉันเลย และคุณไม่ได้ต้องการฉันเลย

    You’re never here when I need you
    I, I’m not sticking ’round just to please you
    I’ve got nothing to say, call it speechless
    If you need anything at all, don’t call me
    If you need anything at all, don’t call me

    คุณไม่เคยมาที่นี่เมื่อฉันต้องการคุณ
    ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อที่จะโปรดปรานคุณหรอกนะ
    ฉันไม่มีอะไรจะพูด หรือจะเรียกว่าหมดคำพูดก็ได้
    ถ้าคุณจะเอาทุกอย่างละก็ อย่าโทรหาฉัน
    ถ้าคุณจะเอาทุกอย่างละก็ อย่าโทรหาฉัน

    You never stayed like you said you would
    You always say you’re misunderstood
    You try to convince me that it’s for the best
    Scratch and start over like we make amends
    But I don’t wanna, I don’t wanna do this again

    คุณไม่เคยอยู่เหมือนกับที่คุณพูด
    คุณมักจะบอกเสมอว่าคุณเข้าใจผิด
    คุณพยายามโน้มน้าวฉันว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
    ทำมันพังแล้วเริ่มต้นใหม่ตลอด เหมือนเราทำการชดใช้
    แต่ฉันไม่อยากทำ ฉันไม่อยากทำแบบนี้อีก

    You keep calling back, what you tryna prove?
    So keep calling back, you got nothing to lose
    You don’t know me at all, you don’t need me at all

    คุณพยายามโทรกลับ คุณกำลังจะพิสูจน์อะไรกันแน่
    คุณจึงได้พยายามโทรกลับ เพราะคุณไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
    คุณไม่ได้รู้จักฉันเลย และคุณไม่ได้ต้องการฉันเลย

    You’re never here when I need you
    I, I’m not sticking ’round just to please you
    I’ve got nothing to say, call it speechless
    If you need anything at all, don’t call me
    If you need anything at all, don’t call me
    If you need anything at all, don’t call me

    คุณไม่เคยมาหาฉันเมื่อฉันต้องการคุณ
    ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อรอชื่นชมคุณหรอกนะ
    ฉันไม่มีอะไรจะพูด จะเรียกว่าหมดคำพูดก็ได้
    ถ้าคุณจะเอาทุกอย่างละก็ อย่าโทรหาฉัน
    ถ้าคุณจะเอาทุกอย่างละก็ อย่าโทรหาฉัน
    ถ้าคุณจะเอาทุกอย่างละก็ อย่าโทรหาฉัน

    Don’t call me, d-d-don’t call me, no
    Don’t call me, d-d-don’t call me
    No, don’t call me
    You try to convince me that it’s for the best
    Scratch and start over like we make amends
    Don’t call me, d-d-don’t call me

    อย่าโทรหาฉัน อย่าโทรหาฉัน ไม่
    อย่าโทรหาฉัน อย่าโทรหาฉัน
    ไม่ อย่าโทรหาฉัน
    คุณพยายามโน้มน้าวฉันว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
    ทำมันพังแล้วเริ่มต้นใหม่ตลอด เหมือนเราทำการชดใช้
    อย่าโทรหาฉัน อย่าโทรหาฉัน

    If you need anything at all, don’t call me
    If you need anything at all, don’t call me
    Don’t call me
    Don’t call me, d-d-don’t call me
    No, don’t call me
    Don’t call me, d-d-don’t call me, ooh
    Don’t call me, d-d-don’t call me

    ถ้าคุณจะเอาทุกอย่างละก็ อย่าโทรหาฉัน
    ถ้าคุณจะเอาทุกอย่างละก็ อย่าโทรหาฉัน
    อย่าโทรหาฉัน
    อย่าโทรหาฉัน อย่าโทรหาฉัน
    ไม่ อย่าโทรหาฉัน
    อย่าโทรหาฉัน อย่าโทรหาฉัน โอ้
    อย่าโทรหาฉัน อย่าโทรหาฉัน

  • แปลเพลง Catch – Brett Young


    Catch เป็นเพลงของนักร้องและนักเขียนเพลงคันทรี-ป๊อปชาวอเมริกัน Brett Young เพลงได้ถูกเปิดตัวใน 3 มิถุนายน 2019 เป็นซิงเกิลที่สองจากอัลบั้มสตูดิโอที่สองของเขา Ticket to L.A. (2018) โดย Brett Young ได้ร่วมเขียนเพลงกับ Ross Copperman และ Ashley Gorley โดยในเนื้อเพลงนั้นพูดเกี่ยวกับการที่เขาตกหลุมรักหญิงสาวคนหนึ่งในมหาลัยของเขา ในขณะที่กำลังนั่งคุยกันกับกลุ่มเพื่อนของเขา วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    I wasn’t trying to feel like this
    I wasn’t trying to feel nothing at all
    I just came to meet my friends
    And tried to drink the long wake off
    I didn’t wanna stay too late
    I wasn’t trying to close it down
    I was doing my own thing
    Yeah up until you sat down

    ฉันไม่ได้อยากจะรู้สึกแบบนี้หรอก
    ฉันไม่ได้อยากเป็นคนไร้ความรู้สึกเลย
    ฉันแค่มาพบเพื่อนๆ ของฉันที่นี่
    มาเพื่อดื่มให้เมาและเดินไปเรื่อยเปื่อย
    ฉันไม่ได้อยากอยู่ดึกแบบนี้
    ฉันไม่ได้พยายามทำให้มันปิดลง
    ฉันกำลังทำเรื่องของตัวเอง
    ใช่ จนกว่าคุณจะนั่งลง

    I thought that I catch a buzz, catch a game
    Catch up with the boys the same old thing
    Catch a cab back to my place
    But then I saw your face
    Now you got me trying to
    Catch you a ride, catch your name (uh uh)
    Catch a spark and start a flame
    The way you smile and I can’t help myself
    Girl you got me trying to catch my breath
    You got me trying to catch my breath, yeah

    ฉันคิดว่าฉันตามทันข่าว ตามทันเกม
    ฉันแค่มาจับกลุ่มกับเพื่อนๆ ของฉันเหมือนเดิม
    แล้วขับรถกระบะกลับบ้านของฉัน
    แต่แล้วฉันก็ได้เห็นใบหน้าของคุณ
    ตอนนี้คุณทำให้ฉันอยากจะ
    จับคุณให้นั่งลงและเรียกชื่อของคุณ
    จับประกายและเริ่มก่อไฟ
    รอยยิ้มของคุณนั้นทำให้ฉันแทบบ้า
    ที่รัก คุณทำให้ฉันแทบจะหยุดหายใจ
    คุณทำให้ฉันแทบจะหยุดหายใจ ใช่แล้ว

    You got me doing double takes
    You went and messed up all my plans
    I only meant to hold this drink
    Now I’m trying to hold your hand

    คุณทำให้ฉันดื่มไปตั้งสองแก้ว
    คุณไปและทำให้แผนการทั้งหมดของฉันวุ่นวายไปหมด
    ฉันแค่ตั้งใจจะถือแก้วนี้เอาไว้
    แต่ตอนนี้ฉันพยายามจับมือคุณเอาไว้

    I thought that I catch a buzz, catch a game (uh uh)
    Catch up with the boys the same old thing
    Catch a cab back to my place
    But didn’t I saw your face
    Now you got me trying to
    Catch you a ride, catch your name
    Catch a spark and start a flame
    The way you smile and I can’t help myself
    Girl you got me trying to catch my breath
    Oh oh
    Oh you got me trying to catch my breath, oh

    ฉันคิดว่าฉันตามทันข่าว ตามทันเกม
    ฉันแค่มาจับกลุ่มกับเพื่อนๆ ของฉันเหมือนเดิม
    แล้วขับรถกระบะกลับบ้านของฉัน
    แต่แล้วฉันก็ได้เห็นใบหน้าของคุณ
    ตอนนี้คุณทำให้ฉันอยากจะ
    จับคุณให้นั่งลงและเรียกชื่อของคุณ
    จับประกายและเริ่มก่อไฟ
    รอยยิ้มของคุณนั้นทำให้ฉันแทบบ้า
    ที่รัก คุณทำให้ฉันแทบจะหยุดหายใจ
    โอ้ โอ้
    คุณทำให้ฉันแทบจะหยุดหายใจ โอ้

    You got me catching feelings
    I wasn’t even trying to feel this
    I don’t know how you started stealing my heart
    I give up in this bar but I’m glad that you are
    ‘Cause I just thought that I

    คุณทำให้ฉันรู้สึกได้
    ฉันไม่ได้พยายามที่จะรู้สึกแบบนี้
    ฉันไม่รู้ว่าคุณได้เริ่มขโมยหัวใจของฉันไปตอนไหน
    ฉันยอมแพ้ในบาร์นี้แล้ว และฉันดีใจที่คุณอยู่ที่นี่
    เพราะฉันแค่คิดว่าฉัน

    Catch a buzz, catch a game
    Catch up with the boys the same old thing
    Catch a cab back to my place
    But then I saw your face
    Now you got me trying to
    Catch you a ride, catch your name (uh uh)
    Catch a spark and start a flame
    The way you smile and I can’t help myself
    Girl you got me trying to catch my breath
    Oh oh
    You got me trying to catch my breath
    Uh, you got me trying to catch my breath
    Oh (catch my breath)
    You got me trying to catch my breath, oh

    ฉันคิดว่าฉันตามทันข่าว ตามทันเกม
    ฉันแค่มาจับกลุ่มกับเพื่อนๆ ของฉันเหมือนเดิม
    แล้วขับรถกระบะกลับบ้านของฉัน
    แต่แล้วฉันก็ได้เห็นใบหน้าของคุณ
    ตอนนี้คุณทำให้ฉันอยากจะ
    จับคุณให้นั่งลงและเรียกชื่อของคุณ
    จับประกายและเริ่มก่อไฟ
    รอยยิ้มของคุณนั้นทำให้ฉันแทบบ้า
    ที่รัก คุณทำให้ฉันแทบจะหยุดหายใจ
    โอ้ โอ้
    คุณทำให้ฉันแทบจะหยุดหายใจ โอ้
    คุณทำให้ฉันแทบจะหยุดหายใจ
    โอ้ (แทบจะหยุดหายใจ)
    คุณทำให้ฉันแทบจะหยุดหายใจ

  • Gryffin, Illenium – Feel Good ft. Daya แปลเพลงสากล


    Feel Good เป็นเพลงของ DJ และโปรดิวเซอร์เพลงอิเล็กทรอนิกส์ชาวอเมริกัน Gryffin และ ILLENIUM และได้ร่วมร้องกับนักร้องหญิงชาวอเมริกันอย่าง Daya เพลงได้เปิดตัวใน 3 มีนาคม 2017 เป็นซิงเกิลที่สิบเอ็ดจากอัลบั้มของ Illenium ที่มีชื่อว่า Awake (2017) เพลงได้ถูกเขียนโดย Nisha Asnani, Toby Gad, Daya, Illenium และ Gryffin ในขณะที่การดำเนินการผลิตนั้นควบคุมโดย Illenium และ Gryffin ในเนื้อเพลงนั้น Daya ได้พูดเกี่ยวกับการที่เธอได้ถูกช่วยเหลือจากคนรักของเธอจากสิ่งที่ผิดพลาดที่เธอได้ทำไป และเขาช่วยเธอผ่านพ้นเรื่องต่างๆ มาได้ วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Yeah, I doubt, I doubt myself
    And I’m too proud to ask for help
    When you see me beside myself
    I don’t have to explain it, baby
    Yeah, I’m over picking fights
    And trying to mend it with the high
    Don’t wanna know that I’m not right
    I know that I’ve been lately, lately

    ฉันสงสัย ฉันสงสัยในตัวเอง
    และฉันอวดดีเกินไปที่ขอความช่วยเหลือ
    เมื่อคุณเห็นฉันยืนอยู่ข้างตัวเอง
    ฉันไม่จำเป็นต้องอธิบายมัน ที่รัก
    ใช่ ฉันกำลังเลือกที่จะต่อสู้
    และพยายามที่จะแก้ไขมันด้วยความใฝ่สูง
    ฉันไม่อยากรู้ว่าฉันทำไม่ถูกต้อง
    ฉันรู้ว่าฉันเพิ่งได้รับเมื่อเร็ว ๆ นี้

    Yeah, sometimes I need someone to pick me up
    Overdose my mind with the things I love
    You can take me there
    When my heart beats, when my heart beats free

    บางครั้งฉันต้องการใครสักคนมาช่วยฉันให้ลุกขึ้น
    ช่วยทำให้ฉันคิดถึงสิ่งที่ฉันรักมากๆ
    คุณสามารถพาฉันไปที่นั่นได้
    เมื่อหัวใจฉันเต้น เมื่อหัวใจฉันเต้นอย่างเป็นอิสระ

    Take my hand in the middle of a crisis
    Pull me close, show me, baby, where the light is
    I was scared of a heart I couldn’t silence
    But you make me, you make me feel good, I like it

    ช่วยจับมือฉันเอาไว้ในท่ามกลางวิกฤต
    ดึงฉันเข้าไปหาคุณ แสดงให้ฉันเห็นว่าแสงสว่างอยู่ที่ไหน
    ฉันกลัวหัวใจของฉันที่จะไม่สามารถทำให้มันเงียบได้
    แต่คุณทำให้ฉัน คุณทำให้ฉันรู้สึกดี ฉันชอบมัน

    Take my hand in the middle of a crisis
    Pull me close, show me, baby, where the light is
    I was scared of a heart I couldn’t silence
    But you make me, you make me feel good, I like it

    ช่วยจับมือฉันเอาไว้ในท่ามกลางวิกฤต
    ดึงฉันเข้าไปหาคุณ แสดงให้ฉันเห็นว่าแสงสว่างอยู่ที่ไหน
    ฉันกลัวหัวใจของฉันที่จะไม่สามารถทำให้มันเงียบได้
    แต่คุณทำให้ฉัน คุณทำให้ฉันรู้สึกดี ฉันชอบมัน

    But you make me, you make me feel good

    แต่คุณทำให้ฉัน คุณทำให้ฉันรู้สึกดี

    Yeah, I get over-overwhelmed
    When all these problems burn like hell
    Maybe I just need a friend
    Who never calls me crazy, crazy

    ใช่แล้ว ฉันรู้สึกท่วมท้น
    เมื่อปัญหาเหล่านี้ได้ถูกเผาให้หมดไป
    บางทีฉันแค่ต้องการเพื่อน
    เพื่อที่ไม่เคยเรียกฉันว่าบ้า

    You pull me off the front line before I run
    Keep me cool, but not get overdone
    You can take me there
    When my heart speaks, when my heart speaks free

    คุณดึงฉันออกจากเขตอันตรายก่อนที่ฉันจะวิ่ง
    ทำให้ฉันใจเย็น ก่อนฉันจะทำมันแย่ไปกว่านี้
    คุณสามารถพาฉันไปที่นั่น
    เมื่อหัวใจของฉันพูดออกมา เมื่อหัวใจของฉันพูดออกมาอย่างอิสระ

    Take my hand in the middle of a crisis
    Pull me close, show me, baby, where the light is
    I was scared of a heart I couldn’t silence
    But you make me, you make me feel good, I like it

    ช่วยจับมือฉันเอาไว้ในท่ามกลางวิกฤต
    ดึงฉันเข้าไปหาคุณ แสดงให้ฉันเห็นว่าแสงสว่างอยู่ที่ไหน
    ฉันกลัวหัวใจของฉันที่จะไม่สามารถทำให้มันเงียบได้
    แต่คุณทำให้ฉัน คุณทำให้ฉันรู้สึกดี ฉันชอบมัน

    Take my hand in the middle of a crisis
    Pull me close, show me, baby, where the light is
    I was scared of a heart I couldn’t silence
    But you make me, you make me feel good, I like it

    ช่วยจับมือฉันเอาไว้ในท่ามกลางวิกฤต
    ดึงฉันเข้าไปหาคุณ แสดงให้ฉันเห็นว่าแสงสว่างอยู่ที่ไหน
    ฉันกลัวหัวใจของฉันที่จะไม่สามารถทำให้มันเงียบได้
    แต่คุณทำให้ฉัน คุณทำให้ฉันรู้สึกดี ฉันชอบมัน

    But you make me, you make me feel good, I like it, I like it
    You make me, you make me feel good

    แต่คุณทำให้ฉัน คุณทำให้ฉันรู้สึกดี ฉันชอบมัน
    แต่คุณทำให้ฉัน คุณทำให้ฉันรู้สึกดี

    Taking the weights off
    To help with the pressure
    And I was here stressing
    Thinking it mattered
    Been with you for hours, but it feels like seconds
    It’s only moments and I’m in heaven
    It’s only moments and I’m in heaven, oh

    ทิ้งสัมภาระทั้งหมดออกไป
    เพื่อลดความกดดัน
    และฉันอยู่ที่นี่พร้อมกับความเครียด
    คิดว่ามันมีความสำคัญ
    อยู่กับคุณหลายชั่วโมง แต่รู้สึกเหมือนวินาที
    มันเป็นความรู้สึกเดียวที่เหมือนฉันอยู่สวรรค์
    มันเป็นความรู้สึกเดียวที่เหมือนฉันอยู่สวรรค์ โอ้

    You make me feel good
    You make me feel good
    You make me, you make me feel good, I like it

    คุณทำให้ฉันรู้สึกดี
    คุณทำให้ฉันรู้สึกดี
    แต่คุณทำให้ฉัน คุณทำให้ฉันรู้สึกดี ฉันชอบมัน

    Take my hand in the middle of a crisis
    Pull me close, show me, baby, where the light is
    I was scared of a heart I couldn’t silence
    But you make me, you make me feel good, I like it

    ช่วยจับมือฉันเอาไว้ในท่ามกลางวิกฤต
    ดึงฉันเข้าไปหาคุณ แสดงให้ฉันเห็นว่าแสงสว่างอยู่ที่ไหน
    ฉันกลัวหัวใจของฉันที่จะไม่สามารถทำให้มันเงียบได้
    แต่คุณทำให้ฉัน คุณทำให้ฉันรู้สึกดี ฉันชอบมัน

    Na-na-na-na-na-na, oh
    Na-na-na-na-na-na

    นา-นา-นา-นา-นา-นา โอ้
    นา-นา-นา-นา-นา-นา

  • Kygo, Rita Ora – Carry On แปลเพลงสากล


    Carry On เป็นเพลงของดีเจและโปรดิวเซอร์เพลงชาวนอร์เวย์ Kygo และนักร้องและนักเขียนเพลงหญิงชาวอังกฤษ Rita Ora เพลงได้เปิดตัวใน 19 เมษายน 2019 โดยค่ายเพลง RCA Records เป็นซิงเกิลเดี่ยวสำหรับภาพยนตร์เรื่อง Pokémon: Detective Pikachu (2019) และ Music video ก็ได้เปิดตัวในวันเดียวกัน เพลงได้ถูกเขียนโดย AFSHeeN, Ilan Kidron, Josh Cumbee, Kygo, Nat Dunn และ Rita Ora ในขณะที่การดำเนินการผลิตนั้นควบคุมโดย Kygo, AFSHeeN และ Josh Cumbee ในเนื้อเพลงนั้น Ora ได้ร้องเกี่ยวกับว่าเธออยากจะสานสัมพันธ์กับคนที่เธอรัก และทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    You, to carry on for you, for you
    Walking alone and the shores are longing
    I miss your footprints next to mine
    Sure as the waves on the sand are washing
    Your rhythm keeps my heart in time
    You, you found me
    Made me into something new
    Led me through the deepest waters

    คุณ ฉันอยากจะใฝ่หาคุณ ใฝ่หาคุณ
    เดินคนบนชายหาดเพียงลำพัง พร้อมเสียงคลื่นที่กระฝัง
    ฉันพลาดร้อยเท้าของคุณข้างๆ ฉัน
    แน่นอนว่าหาดทรายกำลังถูกซะล้างด้วยคลื่น
    จังหวะของคุณทำให้ใจของฉันอยู่กับตัวเอง
    คุณ คุณได้ค้นพบฉัน
    นั่นทำฉันกลายเป็นคนใหม่
    คุณพาฉันก้าวผ่านน่านน้ำที่ลึกที่สุด

    I promise loud to carry on for you
    You, to carry on for you, for you
    You, to carry on for you, for you
    I’ll carry on for you

    ฉันสัญญาดังๆ ว่าฉันจะใฝ่หาคุณ
    คุณ ฉันอยากจะใฝ่หาคุณ ใฝ่หาคุณ
    คุณ ฉันอยากจะใฝ่หาคุณ ใฝ่หาคุณ
    ฉันจะใฝ่หาคุณ

    Talk to the wind on the open ocean
    I wonder if you hear me too?
    Wrapped in my arms with every moment
    The memories that pull me through

    พูดคุยกับสายลมบนทะเลที่กว้างใหญ่
    ฉันอยากรู้ว่าคุณจะได้ยินฉันไหม
    ได้โอบกอดคุณในทุกช่วงเวลา
    มันเป็นความทรงจำที่ทำให้ฉันก้าวผ่านไปได้

    You, you found me
    Made me into something new (Oh, yeah)
    Led me through the deepest waters
    I promise loud to carry on to you (Woah)

    คุณ คุณได้พบฉัน
    มันทำให้ฉันได้เป็นคนใหม่
    คุณพาฉันก้าวผ่านน่านน้ำที่ลึกที่สุด
    ฉันขอสัญญาดังๆ ว่าฉันจะใฝ่หาคุณ

    You, to carry on for you, for you
    To carry on for you
    You, to carry on for you, for you
    I’ll carry on for you

    คุณ ฉันอยากจะใฝ่หาคุณ ใฝ่หาคุณ
    เพื่อที่จะใฝ่หาคุณ
    คุณ ฉันอยากจะใฝ่หาคุณ ใฝ่หาคุณ
    ฉันจะใฝ่หาคุณ

    Made me into something new (Into something new)
    Led me through the deepest waters (Deepest)
    I promise loud to carry on for you (Oh, carry on for you)

    มันทำให้ฉันกลายเป็นคนใหม่
    พาฉันก้าวผ่านน่านน้ำที่ลึกที่สุด
    ฉันสัญญาดังๆ ว่าฉันจะใฝ่หาคุณ

    You, to carry on for you, for you
    You, to carry on for you, for you

    คุณ ฉันอยากจะใฝ่หาคุณ ใฝ่หาคุณ
    คุณ ฉันอยากจะใฝ่หาคุณ ใฝ่หาคุณ

    Keep me running, keep me coming back to you
    Hold me harder, love me like you know you do
    Keep me running, keep me coming back to you
    Hold me harder, love me like you know you do
    You, you found me
    Made me into something new
    Led me through the deepest waters
    I promise loud to carry on for you

    คุณทำให้ฉันวิ่งต่อไปได้ คุณทำให้ฉันกลับมาหาคุณ
    กอดฉันไว้แน่นๆ รักฉันเหมือนที่คุณอยากทำ
    คุณทำให้ฉันวิ่งต่อไปได้ คุณทำให้ฉันกลับมาหาคุณ
    กอดฉันไว้แน่นๆ รักฉันเหมือนที่คุณอยากทำ
    คุณ คุณได้พบฉัน
    มันทำให้ฉันกลายเป็นคนใหม่
    คุณพาฉันก้าวผ่านน่านน้ำที่ลึกที่สุด
    ฉันขอสัญญาดังๆ ว่าฉันจะใฝ่หาคุณ

    You, to carry on for you, for you
    You, to carry on for you, for you

    คุณ ฉันอยากจะใฝ่หาคุณ ใฝ่หาคุณ
    คุณ ฉันอยากจะใฝ่หาคุณ ใฝ่หาคุณ

    In the deepest waters
    Ooh, I’ll carry on for you

    ในน่านน้ำที่ลึกที่สุด
    โอ้ ฉันจะใฝ่หาคุณ

  • Avicii – Without You (feat. Sandro Cavazza) แปลเพลงสากล


    Without You เป็นเพลงของ DJ และศิลปินเพลงอิเล็กทรอนิกส์ชาวสวีเดน Avicii และได้ร่วมร้องกับนักร้องและนักเขียนเพลงชาวสวีเดน Sandro Cavazza เพลงไดเปิดตัวใน 11 สิงหาคม 2017 เป็นซิงเกิลนำจาก EP แรกของเขา Avīci (01) เพลงได้ถูกเขียนโดย Sandro Cavazza, Dhani Lennevald, Salem Al Fakir, Vincent Pontare, Carl Falk และ Avicii ในขณะที่การดำเนินการผลิตนั้นควบคุมโดย Carl Falk และ Avicii ในเนื้อเพลงนั้นพูดถึงการใช้ชีวิตของเขาหลังจากความสัมพันธ์ได้จบลง ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องต่อสู้ชีวิตและทำทุกอย่างด้วยตัวเองโดยไม่มีเธอ วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    You said that we would always be
    Without you I feel lost at sea
    Through the darkness you’d hide with me
    Like the wind we’d be wild and free

    คุณบอกว่าเราจะเป็นแบบนี้เสมอ
    หากไม่มีคุณฉันรู้สึกเหมือนหลงทางในทะเล
    พยายามก้าวผ่านความมืดมิดที่คุณซ่อนไว้กับฉัน
    เราเป็นเหมือนสายลมที่ดุร้ายและเป็นอิสระ

    You
    Said you’d follow me anywhere
    But your eyes
    Tell me you won’t be there

    คุณ
    บอกว่าคุณจะติดตามฉันไปทุกที่
    แต่สายตาของคุณ
    มันบอกฉันว่าคุณจะไม่ไปที่นั่น

    I got to learn how to love without you
    I got to carry my cross without you
    Stuck in the middle and I’m just about to
    Figure it out without you
    And I’m done sitting home without you
    Fuck I’m going out without you
    I’m going to tear this city down without you
    I’m going Bonnie and Clyde without you

    ฉันต้องเรียนรู้ที่จะรักโดยไม่มีคุณ
    ฉันต้องแบกไม้กางเขนของฉันโดยไม่มีคุณ
    ติดอยู่ตรงกลางและฉันกำลังจะ
    คิดให้ออกโดยไม่มีคุณ
    และฉันนั่งอยู่ที่บ้านโดยไม่มีคุณ
    ให้ตายสิ ฉันจะออกไปข้างนอกโดยไม่มีคุณ
    ฉันจะทำลายเมืองนี้โดยที่ไม่มีคุณ
    ฉันจะไปที่บอนนี่และไคลด์โดยไม่มีคุณ

    Now I’m running away my dear
    From myself and the truth I fear
    My heart is beating I can’t see clear
    How I’m wishing that you were here

    ตอนนี้ฉันกำลังวิ่งหนี ที่รัก
    หนีจากตัวเอง และความจริงที่ฉันกลัว
    หัวใจของฉันกำลังเต้นแรง และฉันมองไม่เห็นความชัดเจน
    ต้องทำยังไงฉันถึงจะขอให้คุณมาอยู่ที่นี่ได้

    You
    Said you’d follow me anywhere
    But your eyes
    Tell me you won’t be there

    คุณ
    บอกว่าคุณจะติดตามฉันไปทุกที่
    แต่สายตาของคุณ
    มันบอกฉันว่าคุณจะไปที่นั่น

    I got to learn how to love without you
    I got to carry my cross without you
    Stuck in the middle and I’m just about to
    Figure it out without you
    And I’m done sitting home without you
    Fuck I’m going out without you
    I’m going to tear this city down without you
    I’m going Bonnie and Clyde without you

    ฉันต้องเรียนรู้ที่จะรักโดยไม่มีคุณ
    ฉันต้องแบกไม้กางเขนของฉันโดยไม่มีคุณ
    ติดอยู่ตรงกลางและฉันกำลังจะ
    คิดให้ออกโดยไม่มีคุณ
    และฉันนั่งอยู่ที่บ้านโดยไม่มีคุณ
    ให้ตายสิ ฉันจะออกไปโดยไม่มีคุณ
    ฉันจะทำลายเมืองนี้โดยที่ไม่มีคุณ
    ฉันจะไปที่บอนนี่และไคลด์โดยไม่มีคุณ

  • Dan + Shay – All To Myself แปลเพลงสากล


    All To Myself นั้นเป็นเพลงของคู่หู นักร้องคันทรีชาวอเมริกัน Dan + Shay เพลงได้เปิดตัวใน 3 พฤษภาคม 2018 เป็นซิงเกิลที่สี่จากอัลบั้มแรกของพวกเขา Dan + Shay (2018) เพลงได้ถูกเขียนโดย Shay Mooney, Nicolle Galyon, Jordan Reynolds และ Dan Smyers ในขณะที่การดำเนินการผลิตนั้นควบคุมโดย Scott Johnson, Scott Hendricks และ Dan Smyers ในเนื้อเพลงนั้นพูดเกี่ยวกับการที่เขาต้องการให้เธอมาเป็นของเขา และพวกเขาจะมีความสุขด้วยกันในคืนนี้ วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    I’m jealous of the blue jeans that you’re wearing
    And the way they’re holding you so tight
    I’m jealous of the moon that keeps on staring
    So lock the door and turn out the night

    ฉันอิจฉากางเกงยีนส์สีน้ำเงินที่คุณใส่
    และดูสิมันรัดคุณแน่นมากเลย
    ฉันอิจฉาดวงจันทร์ที่คอยจ้องมอง
    ดังนั้น เรามาล็อคประตูและทำให้มันมืดกัน

    I want you all to myself
    We don’t need anyone else
    Let our bodies do the talking
    Let our shadows paint the wall
    I want you here in my arms
    We’ll hide away in the dark
    Slip your hand in my back pocket
    Go and let your long hair fall
    I want you all to myself
    To myself

    ฉันต้องการให้คุณเป็นของฉัน
    เราไม่ต้องการใครอีกแล้ว
    ปล่อยให้ร่างกายของเราได้สัมผัส
    ให้เงาของเราได้วาดภาพบนผนังห้อง
    ฉันต้องการคุณในอ้อมแขนของฉันตอนนี้
    เราจะเข้าไปเล่นกันในมุมมืดของห้อง
    วางมือของคุณลงในกระเป๋ากางเกงของฉัน
    ปล่อยให้ผมที่ยาวของคุณร่วงหล่นลงมา
    ฉันต้องการให้คุณเป็นของฉัน
    เป็นของฉัน

    I’m jealous of the song that you’ve been singing
    And the way it’s rolling off your lips
    It might be selfish but I’m thinking
    I don’t need nothing between you
    Leaning for another kiss, yeah

    ฉันอิจฉาเพลงที่คุณกำลังร้องมันอยู่
    และวิธีที่มันจะกลิ้งริมฝีปากของคุณ
    มันอาจจะเห็นแก่ตัว แต่ฉันกำลังคิดว่า
    ฉันไม่ต้องการให้อะไรมาคั่นระหว่างคุณ
    ฉันพิงคุณเพื่อให้คุณจูบอีกครั้ง

    I want you all to myself
    We don’t need anyone else
    Let our bodies do the talking
    Let our shadows paint the wall
    I want you here in my arms
    We’ll hide away in the dark
    Slip your hand in my back pocket
    Go and let your long hair fall
    I want you all, all, all to myself
    To myself, yeah

    ฉันต้องการให้คุณเป็นของฉัน
    เราไม่ต้องการใครอีกแล้ว
    ปล่อยให้ร่างกายของเราได้สัมผัส
    ให้เงาของเราได้วาดภาพบนผนังห้อง
    ฉันต้องการคุณในอ้อมแขนของฉันตอนนี้
    เราจะเข้าไปเล่นกันในมุมมืดของห้อง
    วางมือของคุณลงในกระเป๋ากางเกงของฉัน
    ปล่อยให้ผมที่ยาวของคุณร่วงหล่นลงมา
    ฉันต้องการให้คุณเป็นของฉัน
    เป็นของฉัน ใช่แล้ว

    Girl, I want you in the worst way
    I want you in the worst way

    ที่รัก ฉันต้องการคุณในแบบที่แย่ที่สุด
    ฉันต้องการคุณในแบบที่แย่ที่สุด

    I want you all to myself
    We don’t need anyone else (no one else, baby)
    Let our bodies do the talking
    Let our shadows paint the wall (paint the wall)
    I want you here in my arms
    We’ll hide away in the dark
    Slip your hand in my back pocket (in my back pocket)
    Go and let your long hair fall
    I want you all, all, all to myself
    To myself
    I want you all, all, all to myself
    To myself, yeah

    ฉันต้องการให้คุณเป็นของฉัน
    เราไม่ต้องการใครอีกแล้ว
    ปล่อยให้ร่างกายของเราได้สัมผัส
    ให้เงาของเราได้วาดภาพบนผนังห้อง
    ฉันต้องการคุณในอ้อมแขนของฉันตอนนี้
    เราจะเข้าไปเล่นกันในมุมมืดของห้อง
    วางมือของคุณลงในกระเป๋ากางเกงของฉัน
    ปล่อยให้ผมที่ยาวของคุณร่วงหล่นลงมา
    ฉันต้องการให้คุณเป็นของฉัน
    เป็นของฉัน ใช่แล้ว
    ฉันต้องการให้คุณเป็นของฉัน
    เป็นของฉัน ใช่แล้ว

  • Ellie Goulding – Sixteen แปลเพลงสากล


    Sixteen เป็นเพลงของนักร้องและนักเขียนเพลงหญิงชาวอังกฤษ Ellie Goulding เพลงได้เปิดตัวเป็นซิงเกิลกับทางค่ายเพลง Polydor Records ในวันที่ 12 เมษายน 2019 รูปแบบของเพลงนั้นมีการผสมผสานของจังหวะดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ เพลงได้ร่วมเขียนโดย Goulding, Raye และ Fred ในขณะที่การดำเนินการผลิตนั้นควบคุมโดย Ian Kirkpatrick, Fred และ Mike Wis โดยในเนื้อเพลงพูดถึงความประมาทที่เธอได้ทำในวัยรุ่นตอนที่เธออายุแค่สิบหก แต่อย่างไรก็ตาม ความทรงจำเหล่านั้นมันช่างสวยงามและทำให้เธอคิดถึงมันในวันนี้ ดังนั้นวันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Do you remember when we moved out?
    My mum said, “I love you, but it’s a small house”
    So we changed up and saved up
    Gave up our town
    We were dangerous, couldn’t tame us
    What’s missing now?

    คุณจำได้ไหมตอนที่เราย้ายออกจากบ้าน
    แม่ของฉันบอกว่า “ฉันรักคุณ แต่บ้านของเรามันเล็กเกินไป”
    ดังนั้นชีวิตเราจึงเปลี่ยนไป และเราได้เงินเพียงเล็กน้อย
    เพื่อไปหาบ้านใหม่ของเรา
    พวกเรามันประมาท และไม่ฟังใครเลย
    มีอะไรหายไปตอนนี้

    Time
    Suddenly, we got no time
    We’re so busy doing life
    That I miss your eyes on mine, mine

    เวลา
    ทันใดนั้น เราก็ไม่มีเวลา
    เรายุ่งมากกับการใช้ชีวิต
    นั่นทำให้ฉันคิดถึงคุณในตอนที่คุณมองฉัน

    If you just focus on me
    Like we were sixteen
    And plotting our lives
    Can I wear your t-shirt
    And sleep on you
    While I dream of all the good times?
    When we were sixteen

    ถ้าคุณแค่โฟกัสมาที่ฉัน
    เหมือนตอนที่เราอายุสิบหก
    และกำลังวางแผนชีวิตของเรา
    ฉันขอใส่เสื้อของคุณได้ไหม
    และนอนบนตักคุณ
    ในขณะที่ฉันคิดถึงเรื่องดีๆ เหล่านี้ตลอดเวลา
    เมื่อตอนที่เราอายุสิบหก

    Like we were sixteen
    Like we were sixteen

    เหมือนตอนที่เราอายุสิบหก
    เหมือนตอนที่เราอายุสิบหก

    Do you remember the teacher said
    “You’re too young, too stupid, don’t lose your head”
    But years gone and we held on with the best intent
    Just two kids who kicked it on MSN

    คุณยังจำได้ไหมที่คุณครูบอกว่า
    “คุณยังเด็กและไร้เดียงสาเกินไป อย่ากลัวไปเลย”
    และหลายปีผ่านไป และเรามุ่งหน้าต่อไปตามความตั้งใจของเรา
    เราเป็นเพียงเด็กของคนที่เข้าไปผ่อนคลายใน MSN

    Oh, time
    Suddenly, we got no time
    We’re so busy doing life
    That I miss your eyes on mine, mine

    โอ้ เวลา
    ทันใดนั้น เราก็ไม่มีเวลา
    เรายุ่งมากกับการใช้ชีวิต
    นั่นทำให้ฉันคิดถึงคุณในตอนที่คุณมองฉัน

    Oh, if you just focus on me
    Like we were sixteen
    And plotting our lives (When we were plotting our lives)
    Can I wear your t-shirt
    And sleep on you
    While I dream of all the good times?
    When we were sixteen

    ถ้าคุณแค่โฟกัสมาที่ฉัน
    เหมือนตอนที่เราอายุสิบหก
    และกำลังวางแผนชีวิตของเรา
    ฉันขอใส่เสื้อของคุณได้ไหม
    และนอนบนตักคุณ
    ในขณะที่ฉันคิดถึงเรื่องดีๆ เหล่านี้ตลอดเวลา
    เมื่อตอนที่เราอายุสิบหก

    Like we were sixteen
    Like we were sixteen

    เหมือนตอนที่เราอายุสิบหก
    เหมือนตอนที่เราอายุสิบหก

    Let’s take the love that we found
    And give it back to ourselves
    Sometimes these things don’t work out
    Sometimes there’ll be no one else
    They said we’d never even make it this far
    But here we are
    And we’re still counting stars
    Like we were sixteen

    มาเอาความรักที่เราได้ค้นพบ
    และคืนมันให้กับตัวเราเอง
    บางครั้งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ผล
    บางครั้งอาจจะไม่มีใครอื่น
    พวกเขาบอกว่าเราคงจะมาได้ไม่ไกลขนาดนี้
    แต่เรามาอยู่ตรงนี้แล้ว
    และเรายังคงนับดวงดาวด้วยกัน
    เหมือนตอนที่เราอายุสิบหก

    Oh, when we were sixteen
    We’re still counting stars like we were sixteen
    We’re still counting stars like we were sixteen

    โอ้ ตอนพวกเราอายุสิบหก
    เรายังคงนับดวงดาวเหมือนตอนที่เราอายุสิบหก
    เรายังคงนับดวงดาวเหมือนตอนที่เราอายุสิบหก

  • LANY – Super Far แปลเพลงสากล


    Super Far เป็นเพลงของวงดนตรีป๊อป-อินดี้อเมริกัน LANY โดยในวงนั้นประกอบไปด้วยสมาชิกสามคนได้แก่ Paul Klein, Les Priest และ Jake Goss เพลงได้เปิดตัวใน 28 มิถุนายน 2019 เป็นซิงเกิลที่สามจากอัลบั้มเปิดตัวของพวกเขา LANY (2017) เพลงได้ถูกเขียนโดย Ryan Tedder และ Paul Klein และการดำเนินการผลิตนั้นควบคุมโดย LANY ในเนื้อเพลงนั้นเป็นการพูดถึงความสัมพันธ์อันยาวนานที่ได้จบลง วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Up all night on my mind got me thinking
    Wanna stay, can you give me a reason?
    I don’t think so, I don’t think so
    I’m in love with someone but I’m not sure
    She can love someone back the way they love her
    I don’t think so, I don’t think so

    ตลอดทั้งคืนมันทำให้ในใจของฉันคิด
    คุณอยากอยู่ต่อ แต่คุณให้เหตุผลฉันได้ไหม
    แต่ฉันไม่คิดแบบนั้นนะ ฉันไม่คิดแบบนั้น (ไม่อยากอยู่ต่อ)
    ฉันตกหลุมรักใครบางคนเข้า แต่ฉันยังไม่แน่ใจว่า
    เธอจะสามารถรักใครสักคนเหมือนกับที่พวกเขารักเธอ
    แต่ฉันไม่คิดแบบนั้นนะ ฉันไม่คิดแบบนั้น

    Don’t be mean, if you wanna go
    You can leave and leave my heart alone

    อย่าใจจืดใจดำกับฉัน ถ้าคุณอยากจะไป
    คุณสามารถจากฉันไป และทิ้งหัวใจของฉันไว้ลำพัง

    Waking up to nothing when you’re super far from home
    And I watch you fall asleep at night and lay there on my own
    Got me begging for affection
    All you do is roll your eyes
    Broken down, I’ve had enough
    If this is love I don’t want it

    ตื่นขึ้นมาพบกับความว่างเปล่า เมื่อคุณออกจากบ้านไปไกลมากแล้ว
    และฉันเฝ้ามองดูคุณหนุนตักฉันตลอดทั้งคืน
    มันทำให้ฉันต้องร้องขอความรักจากคุณ
    แต่สิ่งที่คุณทำคือแค่กลอกตา
    หัวใจของฉันได้พังทลายลง ฉันพอกับมันแล้ว
    ถ้านี่คือความรัก ฉันไม่ต้องการมัน

    Give it time, c’mon babe, it’s been ten months
    You should know, do you know, know what you want?
    I don’t think so, I don’t think so
    Make it work, now it hurts but i’ll go there
    Do the same, can you show me that you care?
    God I hope so, but I don’t think so

    ให้เวลากับมัน มาเถอะที่รัก ตอนนี้ก็ผ่านไปสิบเดือนแล้ว
    คุณควรจะรู้ คุณรู้ไหม รู้ว่าคุณต้องการอะไรกันแน่
    ฉันไม่คิดแบบนั้น ฉันไม่คิดแบบนั้น
    ทำให้มันสำเร็จ ตอนนี้แม้มันจะเจ็บปวดแต่ฉันจะไปที่นั่น
    ทำเหมือนเดิม คุณทำให้ฉันเห็นได้ไหมว่าคุณใส่ใจฉัน
    โอ้พระเจ้า ฉันหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น แต่ฉันไม่คิดแบบนั้นหรอก

    Don’t be mean, if you’re here for good
    I’m gonna need a little more from you

    อย่าใจจืดใจดำกับฉัน ถ้าคุณมาหาฉันเพื่อบอกเลิก
    ฉันอยากขออะไรกับคุณอีกเล็กน้อยก่อนไป

    Waking up to nothing when you’re super far from home
    And I watch you fall asleep at night and lay there on my own
    Got me begging for affection
    All you do is roll your eyes
    Broken down, I’ve had enough
    If this is love I don’t want it

    ตื่นขึ้นมาพบกับความว่างเปล่า เมื่อคุณออกจากบ้านไปไกลมากแล้ว
    และฉันเฝ้ามองดูคุณหนุนตักฉันตลอดทั้งคืน
    มันทำให้ฉันต้องร้องขอความรักจากคุณ
    แต่สิ่งที่คุณทำคือแค่กลอกตา
    หัวใจของฉันได้พังทลายลง ฉันพอกับมันแล้ว
    ถ้านี่คือความรัก ฉันไม่ต้องการมัน

    All my friends keep saying that I’m way too good to you
    But my heart is so invested, I don’t wanna face the truth
    I’m not happy and you know it and you still don’t even try
    Broken down, I’ve had enough
    If this is love I don’t want it

    เพื่อนทุกคนต่างก็บอกฉันว่าฉันดีเกินไปสำหรับคุณ
    แต่ใจของฉันได้ทุ่มให้คุณมาก และฉันไม่อยากจะรู้ความจริง
    ฉันไม่มีความสุขคุณก็รู้ และคุณก็ยังคงไม่พยายามเลย
    หัวใจของฉันได้พังทลายลง ฉันพอกับมันแล้ว
    ถ้านี่คือความรัก ฉันไม่ต้องการมัน

    Waking up to nothing when you’re super far from home
    And I watch you fall asleep at night and lay there on my own
    Got me begging for affection
    All you do is roll your eyes
    Broken down, I’ve had enough
    If this is love I don’t want it

    ตื่นขึ้นมาพบกับความว่างเปล่า เมื่อคุณอยู่ไกลบ้านมากแล้ว
    และฉันดูคุณนอนหลับหนุนตักฉันตลอดทั้งคืน
    มันทำให้ฉันต้องร้องขอความรักจากคุณ
    แต่สิ่งที่คุณทำคือแค่กลอกตา
    หัวใจของฉันได้พังทลายลง ฉันพอกับมันแล้ว
    ถ้านี่คือความรัก ฉันไม่ต้องการมัน

    All my friends keep saying that I’m way too good to you
    But my heart is so invested, I don’t wanna face the truth
    I’m not happy and you know it and you still don’t even try
    Broken down, I’ve had enough
    If this is love I don’t want it

    เพื่อทุกคนต่างบอกฉันว่าฉันทำดีกับคุณมากเกินไป
    แต่ใจของฉันได้ทุ่มให้คุณมาก ฉันเลยไม่อยากเผชิญกับความจริง
    ฉันไม่ได้มีความสุขคุณก็รู้ และคุณก็ยังไม่แม้แต่จะลองทำ
    หัวใจของฉันได้พังทลายลง ฉันพอกับมันแล้ว
    ถ้านี่คือความรัก ฉันไม่ต้องการมัน

  • ILLENIUM & Jon Bellion – Good Things Fall Apart แปลเพลงสากล


    Good Things Fall Apart เป็นเพลงของ DJ และโปรดิวเซอร์เพลงอิเล็กทรอนิกส์ชาวอเมริกัน ILLENIUM และนักร้องเพลงแร็พชาวอเมริกัน Jon Bellion เพลงได้เปิดตัวใน 13 พฤษภาคม 2019 เป็นซิงเกิลที่สามจากอัลบั้มที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2019 ของเขา เพลงได้ถูกเขียนโดย Illenium, JHart, Jason Evigan, Jon Bellion และ Sarah Hudson และการดำเนินการผลิตควบคุมโดย Illenium และ Jason Evigan ในเนื้อเพลงนั้นพูดถึงความรู้สึกในใจลึกๆ หลังจากที่เขาเพิ่งจะได้เผชิญกับความสัมพันธ์ที่พังทลายลง และการร้องคร่ำครวญถึงความสัมพันธ์ดีๆ ที่เคยมีแต่ตอนนี้มันได้จบลงไปแล้ว วันนี้เราจะมาแปลเพลงนี้กัน


    Did I say something wrong?
    Did you hear what I was thinking?
    Did I talk way too long?
    When I told you all my feelings
    That night
    Is it you, Is it me
    Did you find somebody better?
    Someone who, isn’t me
    ‘Cause I know that I was never your type
    Never really your type

    ฉันได้พูดอะไรผิดไปหรือเปล่า
    คุณได้ยินสิ่งที่ฉันคิดใช่ไหม
    หรือฉันพูดกับคุณมากเกินไป
    เมื่อฉันบอกความรู้สึกของฉันทั้งหมดกับคุณ
    ในคืนนั้น
    มันเป็นคุณหรือฉันกันแน่
    และคุณได้เจอคนที่ดีกว่าใช่ไหม
    ใครบางที่ไม่ใช่ฉัน
    เพราะฉันรู้ว่าฉันไม่เคยเป็นคนในแบบของคุณเลย
    ไม่เคยเป็นคนในแบบของคุณเลยจริงๆ

    Overthinking’s, got me drinking
    Messing with my head
    Woah

    ฉันคิดมากเกินไป นั่นทำให้ฉันต้องดื่ม
    มันกำลังทำให้ความคิดของฉันสับสน
    โว้ว

    Tell me what you hate about me
    Whatever it is I’m sorry
    Yeah, yeah, yeah
    Yeah, yeah, yeah
    I know I can be dramatic
    But everybody said we had it
    Yeah, yeah, yeah
    Yeah, yeah, yeah

    บอกฉันหน่อยว่าคุณเกลียดฉันเรื่องอะไร
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ฉันขอโทษ
    ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว
    ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว
    ฉันรู้ว่าฉันสามารถประชดประชันคุณได้
    แต่ทุกคนบอกว่าเรากำลังทำมันอยู่
    ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว
    ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว

    I’m coming to terms with a broken heart
    I guess that sometimes good things fall apart

    ฉันกำลังยอมรับกับหัวใจที่แตกสลายดวงนี้
    ฉันคิดว่าบางครั้งสิ่งที่ดีๆ ก็พังลายลงได้เหมือนกัน

    When you said it was real, guess I really did believe you
    Did you fake, how you feel?
    When we parked down by the river that night
    That night
    That night when we fogged up the windows in your best friends car
    ‘Cause we couldn’t leave the windows down in december
    Woah

    เมื่อคุณบอกว่ามันเป็นความจริง คิดว่าฉันจะเชื่อคุณใช่ไหม
    คุณมันโกหกแล้วรู้สึกยังไงบ้างละ
    เมื่อเราจอดรถริมแม่น้ำในคืนนั้น
    ในคืนนั้น
    คืนที่เราเป่าควันบุหรี่ออกนอกหน้าต่างรถเพื่อนของคุณ
    เพราะเราไม่สามารถเปิดหน้าต่างออกมาได้ในหน้าหนาว
    โว้ว

    Tell me what you hate about me
    Whatever it is I’m sorry
    Yeah, yeah, yeah
    Yeah, yeah, yeah
    I know I can be dramatic
    But everybody said we had it
    Yeah, yeah, yeah
    Yeah, yeah, yeah
    I’m coming to terms with a broken heart
    I guess that sometimes good things fall apart

    บอกฉันหน่อยว่าคุณเกลียดฉันเรื่องอะไร
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ฉันขอโทษ
    ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว
    ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว
    ฉันรู้ว่าฉันสามารถประชดประชันคุณได้
    แต่ทุกคนบอกว่าเรากำลังทำมันอยู่
    ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว
    ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว
    ฉันกำลังยอมรับกับหัวใจที่แตกสลายดวงนี้
    ฉันคิดว่าบางครั้งสิ่งที่ดีๆ ก็พังลายลงได้เหมือนกัน

    Overthinking’s, got me drinking
    Messing with my head
    Woah

    ฉันคิดมากเกินไป นั่นทำให้ฉันต้องดื่ม
    มันกำลังทำให้ความคิดของฉันสับสน
    โว้ว

    Tell me what you hate about me
    Whatever it is I’m sorry (oh, I’m sorry)
    Yeah, yeah, yeah (oh, I’m sorry)
    Yeah, yeah, yeah
    I know I can be dramatic (I can be)
    But everybody said we had it
    Yeah, yeah, yeah
    Yeah, yeah, yeah
    I’m coming to terms with a broken heart
    I guess that sometimes good things fall apart

    บอกฉันหน่อยว่าคุณเกลียดฉันเรื่องอะไร
    ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ฉันขอโทษ
    ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว
    ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว
    ฉันรู้ว่าฉันสามารถประชดประชันคุณได้
    แต่ทุกคนบอกว่าเรากำลังทำมันอยู่
    ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว
    ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว
    ฉันกำลังยอมรับกับหัวใจที่แตกสลายดวงนี้
    ฉันคิดว่าบางครั้งสิ่งที่ดีๆ ก็พังลายลงได้เหมือนกัน

  • Greyson Chance – shut up แปลเพลงสากล


    shut up เป็นเพลงของนักร้องและนักเขียนเพลงป๊อปร็อคชาวอเมริกัน Greyson Chance เพลงได้เปิดตัวใน 8 กุมภาพันธ์ 2019 เป็นซิงเกิลแรกในอัลบั้มสตูดิโอที่สองของเขา Portraits (2019) เพลงได้ถูกเขียนโดย Willy Beaman และ Greyson Chance และการดำเนินการผลิตนั้นควบคุมโดย Willy Beaman ในเนื้อเพลงนั้นพูดเกี่ยวกับความรักของคู่รัก ที่บางทีเราอาจจะทำผิดพลาดได้ในชั่วขณะ แต่เราควรจะใจเย็นและหยุดพูดเพื่อไม่ให้ทะเลาะกัน และทุกอย่างจะกลับมาดีเหมือนเดิม วันนี้เรามาแปลเพลงนี้กัน


    I cannot hold my tongue, you give me much to say
    I’m sweating bullets, nervous that you’ll push away
    And when your eyes catch mine, I know I talk too much
    So give me your two lips and baby, I’ll shut up

    ฉันไม่สามารถกัดลิ้นเอาไว้ได้ เพราะคุณทำให้ฉันเกินกว่าที่จะพูด
    ฉันกังวลและไม่สบายใจ กลัวว่าคุณจะไล่ฉันออกไป
    และเมื่อคุณสบตาฉัน ฉันรู้ว่าฉันพูดมากเกินไป
    ดังนั้นมอบริมฝีปากของคุณให้ฉันที่รัก แล้วฉันจะหุบปาก

    Lying on the beach, the middle of December
    I’m thinking you’re too cool to even remember
    My face, my hair, my eyes, my lips, and my name, hmm
    Lighting up that clove, your confidence is what I want
    I say a lot, I’m loud ’cause maybe you’re the one
    Your hair, your eyes, your lips, and your name, hmm, baby

    นอนอยู่บนชายหาดช่วงกลางเดือนธันวาคม
    ฉันคิดว่าคุณเจ๋งมากสำหรับฉัน ที่จะจดจำคุณ
    ใบหน้าของฉัน ผมของฉัน ดวงตาของฉัน ริมฝีปาก และชื่อของฉัน
    จุดหลอดก้านพลูนั้นขึ้นมา ความมั่นใจของคุณคือสิ่งที่ฉันต้องการ
    ฉันพูดมากและเสียงดัง เพราะบางที่คุณอาจจะเป็นคนเดียวของฉัน
    ผมของคุณ ดวงตาของคุณ ริมฝีปาก และชื่อของคุณ

    I cannot hold my tongue, you give me much to say
    I’m sweating bullets, nervous that you’ll push away
    And when your eyes catch mine, I know I talk too much
    So give me your two lips and baby, I’ll shut up

    ฉันไม่สามารถกัดลิ้นเอาไว้ได้ เพราะคุณทำให้ฉันเกินกว่าที่จะพูด
    ฉันกังวลและไม่สบายใจ กลัวว่าคุณจะไล่ฉันออกไป
    และเมื่อคุณสบตาฉัน ฉันรู้ว่าฉันพูดมากเกินไป
    ดังนั้นมอบริมฝีปากของคุณให้ฉันที่รัก แล้วฉันจะหุบปาก

    Ooh ooh oh baby, I’ll shut up
    Ooh ooh oh baby, I’ll shut up
    Ooh ooh oh baby, I’ll shut up
    (Ooh ooh oh baby, I’ll shut up)

    โอ้ โอ้ โอ้ที่รัก ฉันจะหุบปาก
    โอ้ โอ้ โอ้ที่รัก ฉันจะหุบปาก
    โอ้ โอ้ โอ้ที่รัก ฉันจะหุบปาก
    (โอ้ โอ้ โอ้ที่รัก ฉันจะหุบปาก)

    You dress in all black, the middle of the summer
    You’re smoother than you think, you rock that Alex Turner
    Your style, your arms, wrapped in leather, makes me want you forever (Oh, oh)
    But I cannot break this habit, pure anxiety
    Stuck here searching for some words that you might need
    Maybe you don’t need them, it’s not what we’re about
    And maybe I’ll just slow it down, down, down, down, down

    คุณแต่งตัวในชุดดำในท่ามกลางฤดูร้อน
    คุณเป็นคนอ่อนหวานกว่าที่คุณคิด คุณดูมีสไตล์ชนะ Alex Turner ไปเลย
    สไตล์ของคุณ แขนของคุณถูกคลุมด้วยหนัง มันทำให้ฉันต้องการคุณตลอดไป
    แต่ฉันไม่สามารถหยุดนิสัยนี้ได้ มันเป็นความกังวลของฉัน
    ติดอยุ่ที่นี่เพื่อค้นหาคำตอบบางอย่างที่คุณอาจจะต้องการ
    หรือบางทีคุณอาจไม่ต้องการมัน เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เราเป็น
    และบางทีฉันอาจจะทำมันให้ช้าลง ช้าลง ช้าลง ช้าลง ช้าลง

    I cannot hold my tongue, you give me much to say
    I’m sweating bullets, nervous that you’ll push away
    And when your eyes catch mine, I know I talk too much
    So give me your two lips and baby, I’ll shut up

    ฉันไม่สามารถกัดลิ้นเอาไว้ได้ เพราะคุณทำให้ฉันเกินกว่าที่จะพูด
    ฉันกังวลและไม่สบายใจ กลัวว่าคุณจะไล่ฉันออกไป
    และเมื่อคุณสบตาฉัน ฉันรู้ว่าฉันพูดมากเกินไป
    ดังนั้นมอบริมฝีปากของคุณให้ฉันที่รัก แล้วฉันจะหุบปาก

    Ooh ooh oh baby, I’ll shut up
    Ooh ooh oh baby, I’ll shut up
    Ooh ooh oh baby, I’ll shut up
    (Ooh ooh oh baby, I’ll shut up)

    โอ้ โอ้ โอ้ที่รัก ฉันจะหุบปาก
    โอ้ โอ้ โอ้ที่รัก ฉันจะหุบปาก
    โอ้ โอ้ โอ้ที่รัก ฉันจะหุบปาก
    (โอ้ โอ้ โอ้ที่รัก ฉันจะหุบปาก)